ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แก๊งไอติม"
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ฐิติกร สังข์แก้ว และดร.อรรถสิทธิ...' |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 9: | บรรทัดที่ 9: | ||
== ความหมาย == | == ความหมาย == | ||
แก๊งไอติม หมายถึง คณะที่ปรึกษาวงในของผู้นำประเทศ อันอยู่เบื้องหลังและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้นำจากความสนิทสนมใกล้ชิด จนอาจส่งผลกระทบกับคนวงนอกและสาธารณชนภายนอกจำนวนมาก โดยที่กลุ่มบุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดทางการเมืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ ชื่อเรียก “แก๊งค์ไอติม” มีความหมายดั้งเดิมมาจากชื่อภาพยนตร์ที่ลงโรงฉายในปี พ.ศ. 2526 ผลงานกำกับการแสดงโดย ปกรณ์ พรหมวิทักษ์ นำแสดงโดย จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก อรพรรณ พานทอง และ ทนงศักดิ์ ศุภการ สำหรับการเมืองไทยปรากฏการใช้คำเรียกนี้ครั้งแรกด้วยความหมายเชิงลบโดยระบุถึง “คนวงใน” | แก๊งไอติม หมายถึง คณะที่ปรึกษาวงในของผู้นำประเทศ อันอยู่เบื้องหลังและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้นำจากความสนิทสนมใกล้ชิด จนอาจส่งผลกระทบกับคนวงนอกและสาธารณชนภายนอกจำนวนมาก โดยที่กลุ่มบุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดทางการเมืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ ชื่อเรียก “แก๊งค์ไอติม” มีความหมายดั้งเดิมมาจากชื่อภาพยนตร์ที่ลงโรงฉายในปี พ.ศ. 2526 ผลงานกำกับการแสดงโดย ปกรณ์ พรหมวิทักษ์ นำแสดงโดย จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก อรพรรณ พานทอง และ ทนงศักดิ์ ศุภการ สำหรับการเมืองไทยปรากฏการใช้คำเรียกนี้ครั้งแรกด้วยความหมายเชิงลบโดยระบุถึง “คนวงใน” ผู้ใกล้ชิดใน[[รัฐบาล]]นาย[[อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ]] และต่อมา ร.ต.อ.[[เฉลิม อยู่บำรุง]] เป็นผู้จุดประเด็น “แก็งไอติม” ที่ใกล้ชิดนางสาว[[ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร]] อดีตนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง ซึ่งสื่อมวลชนหลายสำนักต่างนำเสนอข่าวตีแผ่ถึงกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเป็น “แก็งไอติม” จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงในสังคมอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ยังปรากฏการใช้คำเรียก “แก๊งออฟโฟร์” ซึ่งให้ความหมายใกล้เคียงกันในสมัยรัฐบาลนาย[[สมัคร สุนทรเวช]] ขณะที่ในการเมืองต่างประเทศก็มีคำเรียกกลุ่มคนที่มีลักษณะเดียวกันนี้ เช่น “kitchen cabinet” “brain trust” และ “grey eminence” เป็นต้น | ||
ใครเป็นใครใน “แก๊งไอติม” และแก๊งอื่นๆ | ใครเป็นใครใน “แก๊งไอติม” และแก๊งอื่นๆ | ||
บรรทัดที่ 17: | บรรทัดที่ 17: | ||
การทำงานของผู้นำประเทศแม้จะประกอบด้วยที่ปรึกษาซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และคณะทำงานที่ประกอบด้วยข้าราชการผู้ชำนาญการในสาขาวิชาชีพต่างๆ แต่กระนั้นบรรดาผู้นำทั้งหลายก็จำเป็นต้องมีคนใกล้ชิดที่คอยจัดการตารางงาน คัดกรองเอกสาร จัดลำดับสำคัญของงาน การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนวงนอก แม้จะอยู่ในฝั่งรัฐบาลเอง สำหรับการเมืองไทยแล้ว “คนวงใน” เป็นเรื่องสำคัญจำเป็นประการหนึ่งในอันที่จะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี นอกเหนือไปจากคณะที่ปรึกษาที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เช่น “แก๊งออฟโฟร์” ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช (ตั้งชื่อล้อกับ “Gang of Four” ผู้ใกล้ชิดกับเหมา เจ๋อตง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ค.ศ.1966-1976) อันประกอบด้วย | การทำงานของผู้นำประเทศแม้จะประกอบด้วยที่ปรึกษาซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และคณะทำงานที่ประกอบด้วยข้าราชการผู้ชำนาญการในสาขาวิชาชีพต่างๆ แต่กระนั้นบรรดาผู้นำทั้งหลายก็จำเป็นต้องมีคนใกล้ชิดที่คอยจัดการตารางงาน คัดกรองเอกสาร จัดลำดับสำคัญของงาน การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนวงนอก แม้จะอยู่ในฝั่งรัฐบาลเอง สำหรับการเมืองไทยแล้ว “คนวงใน” เป็นเรื่องสำคัญจำเป็นประการหนึ่งในอันที่จะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี นอกเหนือไปจากคณะที่ปรึกษาที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เช่น “แก๊งออฟโฟร์” ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช (ตั้งชื่อล้อกับ “Gang of Four” ผู้ใกล้ชิดกับเหมา เจ๋อตง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ค.ศ.1966-1976) อันประกอบด้วย | ||
1. | 1. นาย[[เนวิน ชิดชอบ]] แกนนำกลุ่ม[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]เขตภาคอีสาน พรรค[[พลังประชาชน]] และ[[แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ]] (นปก.) | ||
2. นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | 2. นายแพทย์ [[สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี]] อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | ||
3. | 3. นาย[[สหัส บัณฑิตกุล]] อดีตรองนายกรัฐมนตรี | ||
4. | 4. นาย[[ธีระพล นพรัมภา]] อดีต[[เลขาธิการรัฐมนตรี]] | ||
== “แก็งไอติม” ยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ == | == “แก็งไอติม” ยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ == | ||
ภายหลังจากที่[[ศาลรัฐธรรมนูญ]]วินิจฉัยว่า นายสมัคร สุนทรเวช กระทำการขัด[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550]] ในกรณี “ทำกับข้าว” เป็นผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง[[นายกรัฐมนตรี]] โดยที่[[สภาผู้แทนราษฎร]]ในขณะนั้นมีมติด้วย[[คะแนนเสียงข้างมาก]]ให้นาย[[สมชาย วงศ์สวัสดิ์]] ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพรรคพลังประชาชน กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองใน[[ระบอบประชาธิปไตย]]อันมี[[พระมหากษัตริย์]]เป็นประมุข ด้วยการ[[ทุจริตการเลือกตั้ง]]เป็นผลให้ดำเนิน[[การยุบพรรค]]พลังประชาชน และตัดสิทธิเลือกตั้ง[[คณะกรรมการบริหารพรรค]] 37 คน ก็ทำให้ในเวลาต่อมาสภาผู้แทนราษฎรมีมติแต่งตั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เกิดกรณีที่สื่อมวลชนกล่าวถึง “แก็งไอติม” ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี อันประกอบไปด้วย | |||
1. | 1. นาย[[สาทิตย์ วงศ์หนองเตย]] อดีตรัฐมนตรีว่าการ[[สำนักนายกรัฐมนตรี]] | ||
2. | 2. นาย[[เทพไท เสนพงศ์]] อดีตโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค[[ประชาธิปัตย์]] | ||
3. | 3. นาย[[ศิริโชค โสภา]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ | ||
4. | 4. นาย[[กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ]] อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | ||
5. | 5. นาย[[อิสรา สุนทรวัฒน์]] อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง | ||
6. | 6. นาย[[กรณ์ จาติกวณิช]] อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง | ||
== “แก็งไอติม” ยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร == | == “แก็งไอติม” ยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร == | ||
เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ | เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจ[[ยุบสภา]]และกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่[[ 3 กรกฎาคม 2554]] โดยผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้รับเสียงข้างมากและสภาผู้แทนราษฎร มีมติแต่งตั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เกิดฉายา “แก๊งไอติม” ขั้นอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุที่คำเรียกฉายาครั้งนี้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ภายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรี ในช่วงเดือนมิถุนายน 2556 ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ภายหลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้กล่าวถึง “แก๊งไอติม” ระหว่างเข้ารับตำแหน่ง ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 จนสื่อมวลชนวิเคราะห์ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ประกอบด้วย | ||
1. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | 1. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี | ||
บรรทัดที่ 55: | บรรทัดที่ 55: | ||
5. นายธีรัตถ์ รัตนเสวี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | 5. นายธีรัตถ์ รัตนเสวี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | ||
6. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร | 6. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ[[สภาความมั่นคงแห่งชาติ]] (สมช.) | ||
7. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง | 7. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการ[[ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้]] (ศอ.บต.) | ||
== การจุดประเด็น “แก็งไอติม” โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง == | == การจุดประเด็น “แก็งไอติม” โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง == | ||
วันนี้มีแก๊งไอติมเต็มทำเนียบฯ กล่าวหาว่าผมไม่ตั้งใจแก้ไขปัญหาภาคใต้ เช่น กรณีที่สื่อพยายามถามผมว่า เหตุใดจึงไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ ผมมองว่า สื่อเข้าใจผิด พร้อมขอฝากไปถึงนักการเมือง อย่าสร้างภาพในเรื่องของการลงพื้นที่ เพียงแค่ไปฟังบรรยายสรุปแล้วกลับ เพราะจะสร้างความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งนี้ ยอมรับว่าผมล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ แต่เพิ่งได้รับตำแหน่งในช่วงเดือน พ.ย. 55 ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. ซึ่งไม่มีอำนาจ และไม่มีงบลับใช้เลยแม้แต่บาทเดียว ทำงานด้วยใจ | ::::''วันนี้มีแก๊งไอติมเต็มทำเนียบฯ กล่าวหาว่าผมไม่ตั้งใจแก้ไขปัญหาภาคใต้ เช่น กรณีที่สื่อพยายามถามผมว่า เหตุใดจึงไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ ผมมองว่า สื่อเข้าใจผิด พร้อมขอฝากไปถึงนักการเมือง อย่าสร้างภาพในเรื่องของการลงพื้นที่ เพียงแค่ไปฟังบรรยายสรุปแล้วกลับ เพราะจะสร้างความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งนี้ ยอมรับว่าผมล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ แต่เพิ่งได้รับตำแหน่งในช่วงเดือน พ.ย. 55 ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. ซึ่งไม่มีอำนาจ และไม่มีงบลับใช้เลยแม้แต่บาทเดียว ทำงานด้วยใจ '' | ||
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง | ::::''ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง'' | ||
4 กรกฎาคม 2556 | ::::''4 กรกฎาคม 2556'' | ||
ในการประชุมปฏิบัติการ ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ตัดพ้อถึงความตั้งใจทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลปัญหาความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลับถูกปรับพ้นจากตำแหน่ง อันเป็นผลมาจาก “แก๊งไอติม” ที่มีอิทธิพลชี้นำการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีไม่มากก็น้อย ในแง่ที่ว่าเป็นกลุ่มก๊วนการเมืองที่พยายามสร้างภาพเชิงลบแก่ตนเองในกรณีที่ไม่เคยลงพื้นที่ตรวจราชการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จนส่งผลให้สื่อมวลชนต่างวิพากษ์วิจารณ์และนำเสนอข่าวอย่างแพร่หลายมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขยายความว่า แม้ตนเองจะพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหลังการปรับ ครม. ก็ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือ เสียใจแต่อย่างใด เพราะทั้งหมดเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมาก็ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด ไม่เคยเอาใจนายกรัฐมนตรี หรือหวังลาภยศสรรเสริญทางการเมืองใดๆ แต่ “ผู้นำทางการเมืองต้องมีเสือตาม ถ้ามีหมาตามมันทำอะไรไม่ได้ จากนี้ไปนายกฯจะเจอกับขวากหนาม” | ในการประชุมปฏิบัติการ ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ตัดพ้อถึงความตั้งใจทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลปัญหาความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลับถูกปรับพ้นจากตำแหน่ง อันเป็นผลมาจาก “แก๊งไอติม” ที่มีอิทธิพลชี้นำการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีไม่มากก็น้อย ในแง่ที่ว่าเป็นกลุ่มก๊วนการเมืองที่พยายามสร้างภาพเชิงลบแก่ตนเองในกรณีที่ไม่เคยลงพื้นที่ตรวจราชการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จนส่งผลให้สื่อมวลชนต่างวิพากษ์วิจารณ์และนำเสนอข่าวอย่างแพร่หลายมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขยายความว่า แม้ตนเองจะพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหลังการปรับ ครม. ก็ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือ เสียใจแต่อย่างใด เพราะทั้งหมดเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมาก็ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด ไม่เคยเอาใจนายกรัฐมนตรี หรือหวังลาภยศสรรเสริญทางการเมืองใดๆ แต่ “ผู้นำทางการเมืองต้องมีเสือตาม ถ้ามีหมาตามมันทำอะไรไม่ได้ จากนี้ไปนายกฯจะเจอกับขวากหนาม” | ||
ภายหลังจากที่สื่อมวลชนนำคำกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปตีแผ่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง ผู้ที่ถูกจับตามองมากที่สุดอย่างนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความเคารพที่มีต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็น “แก๊งไอติม” อย่างที่หลายฝ่ายคาดการ เพราะเป็นคำเรียกกลุ่มก๊วนการเมืองที่ใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม “ถ้าหากเป็นไอติมก็เป็นแม็กนั่มที่มีรสชาติหวานมันอร่อย” | ภายหลังจากที่สื่อมวลชนนำคำกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปตีแผ่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง ผู้ที่ถูกจับตามองมากที่สุดอย่างนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความเคารพที่มีต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็น “แก๊งไอติม” อย่างที่หลายฝ่ายคาดการ เพราะเป็นคำเรียกกลุ่มก๊วนการเมืองที่ใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม “ถ้าหากเป็นไอติมก็เป็นแม็กนั่มที่มีรสชาติหวานมันอร่อย” ก่อนที่หนึ่งในทีมงาน[[ทำเนียบรัฐบาล]] อย่างนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกมาโพสต์ภาพล้อเลียนด้วยท่าทางกินไอศครีมอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ปรากฏในภาพพร้อมด้วยทีมงานและคณะผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางเยือนประเทศโปแลนด์และตุรกีอย่างเป็นทางการ จนกระทั่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงด้วยการโพสต์ข้อความลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟสบุ๊คว่า "ขอฝากบอก ไปถึงนายสุรนันท์ ว่าอย่ามาตีตัวเสมอ ส่วนเด็กผู้หญิงสองคนในภาพนั้น คนหนึ่งชื่อสุ ผมเห็นเป็นลูกหลาน นายสุรนันท์ทำอะไรควรให้พอดี ถ้ามากไปเขาเรียกว่าเสือก ถ้าเสือกเดี๋ยวจะมีของแถม และไม่ต้องมาขอขมา ผมถือว่าผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" ขณะที่นาย[[สุรนันทน์ เวชชาชีวะ]] ต้องออกมาขอขมากับการโพสต์ภาพกินไอศกรีมดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงว่าไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่ดูหมิ่น หรือสร้างความเสื่อมเสียแก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่อย่างใด | ||
== ความหมายแฝงของคำเรียก “แก๊งไอติม” ในการเมืองไทย == | == ความหมายแฝงของคำเรียก “แก๊งไอติม” ในการเมืองไทย == | ||
แม้คำเรียก “แก๊งไอติม” จะสื่อความถึงกลุ่มก๊วนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้นำประเทศ เฉกเช่นเดียวกับคำเรียก “แก๊งออฟโฟร์” ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แต่ด้วยเหตุที่การหยิบยืมคำแรกมาจากชื่อภาพยนตร์ “แก๊งค์ไอติม” ที่เข้าฉายในปี 2526 จึงกินความหมายกว้างไกลไปกว่าแค่คนวงในที่มีอิทธิพลอย่างในกรณีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเรียกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งสังกัดอยู่ในฝากฝั่งรัฐบาลเดียวกัน จึงถูกตีความไปว่าต้องมีความหมายแฝงเร้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ | แม้คำเรียก “แก๊งไอติม” จะสื่อความถึงกลุ่มก๊วนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้นำประเทศ เฉกเช่นเดียวกับคำเรียก “แก๊งออฟโฟร์” ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แต่ด้วยเหตุที่การหยิบยืมคำแรกมาจากชื่อภาพยนตร์ “แก๊งค์ไอติม” ที่เข้าฉายในปี 2526 จึงกินความหมายกว้างไกลไปกว่าแค่คนวงในที่มีอิทธิพลอย่างในกรณีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเรียกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งสังกัดอยู่ในฝากฝั่งรัฐบาลเดียวกัน จึงถูกตีความไปว่าต้องมีความหมายแฝงเร้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องหลักของภาพยนตร์แก๊งค์ไอติม (2526) เป็นเรื่องราวกลุ่มเยาวชนที่มีชีวิตอยู่ยากลำบาก ซึ่งพยายามขายทุกสิ่งทุกอย่างเลี้ยงชีพเพื่อความอยู่รอดด้วยวิธีการที่ผิด จึงมักจะโดนขับไล่ออกจากสถานที่เร่ขายทุกครั้งเมื่อโดนจับได้ แต่แล้วชีวิตของเยาชนกลุ่มนี้ก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับครูคนหนึ่งที่จะอบรมบ่มเพาะให้เด็กๆ ได้รับการศึกษา รู้จักการแบ่งปัน การให้อภัย และความผูกพันซึ่งกันและกัน จนกระทั่งคุณครูต้องย้ายไปทำงานที่อื่น พร้อมๆ กับที่มีร้านไอติมมาเปิดแย่งลูกค้า ก็ทำให้กลุ่มเด็กๆ จำเป็นต้องร่วมคิดแก้ไขปัญหาต่อไป | ||
ในแง่นี้ แก๊งไอติมที่ถูกใช้ทางการเมืองจึงสื่อแสดงถึงกลุ่มบุคคลที่ไม่เจนจัดทางการเมือง ทั้งยังมักจะใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ แต่กลับได้รับความไว้วางใจจากผู้นำประเทศด้วยความใกล้ชิดสนิทสนม ในทางกลับกันผู้นำประเทศที่ถูกรายล้อมด้วยแก๊งไอติมก็ทักจะเชื่อถือคำพูด การชี้นำ และการตัดสินใจจากกลุ่มคนเหล่านี้จนไม่ฟังเสียงสะท้อนจากคนวงนอกที่อาจจะมีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนานจนมองเห็นพิศภัยที่อยู่เบื้องหน้ามากกว่า การพูดระบุถึง "แก๊งไอติม" ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งมีประสบการณ์โชกโชนจนได้รับฉายาว่า "ขุนศึกฝั่งธน" จึงนอกจากจะเป็นการปรามคนวงในนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังนายกรัฐมนตรีให้ระแวดระวังคนวงในใกล้ชิดตัวเองอีกด้วย | ในแง่นี้ แก๊งไอติมที่ถูกใช้ทางการเมืองจึงสื่อแสดงถึงกลุ่มบุคคลที่ไม่เจนจัดทางการเมือง ทั้งยังมักจะใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ แต่กลับได้รับความไว้วางใจจากผู้นำประเทศด้วยความใกล้ชิดสนิทสนม ในทางกลับกันผู้นำประเทศที่ถูกรายล้อมด้วยแก๊งไอติมก็ทักจะเชื่อถือคำพูด การชี้นำ และการตัดสินใจจากกลุ่มคนเหล่านี้จนไม่ฟังเสียงสะท้อนจากคนวงนอกที่อาจจะมีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนานจนมองเห็นพิศภัยที่อยู่เบื้องหน้ามากกว่า การพูดระบุถึง "แก๊งไอติม" ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งมีประสบการณ์โชกโชนจนได้รับฉายาว่า "[[ขุนศึกฝั่งธน]]" จึงนอกจากจะเป็นการปรามคนวงในนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังนายกรัฐมนตรีให้ระแวดระวังคนวงในใกล้ชิดตัวเองอีกด้วย | ||
== บรรณานุกรม == | == บรรณานุกรม == | ||
บรรทัดที่ 100: | บรรทัดที่ 100: | ||
“ไม่แคร์เหลิม! “สุรนันทน์” นำแก๊งไอติมโพสต์ภาพเย้ย.” ผู้จัดการออนไลน์. (5 กรกฎาคม 2556). เข้าถึงจาก <http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081824>. เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2558. | “ไม่แคร์เหลิม! “สุรนันทน์” นำแก๊งไอติมโพสต์ภาพเย้ย.” ผู้จัดการออนไลน์. (5 กรกฎาคม 2556). เข้าถึงจาก <http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081824>. เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2558. | ||
“ย้อนรอยผลงาน ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’.” ผู้จัดการออนไลน์. (23 พฤศจิกายน 2556). เข้าถึงจาก <http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9560000145478&Html=1&TabID=2&>. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2558. | |||
““สุรนันทน์” ขอโทษเฉลิม-อ้างไม่มีเจตนา.” คมชัดลึก. (10 กรกฎาคม 2556), 15. | ““สุรนันทน์” ขอโทษเฉลิม-อ้างไม่มีเจตนา.” คมชัดลึก. (10 กรกฎาคม 2556), 15. |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:08, 17 พฤศจิกายน 2558
ผู้เรียบเรียง ฐิติกร สังข์แก้ว และดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ ศาสตราจารย์ นรนิติ เศรษฐบุตร
ความหมาย
แก๊งไอติม หมายถึง คณะที่ปรึกษาวงในของผู้นำประเทศ อันอยู่เบื้องหลังและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้นำจากความสนิทสนมใกล้ชิด จนอาจส่งผลกระทบกับคนวงนอกและสาธารณชนภายนอกจำนวนมาก โดยที่กลุ่มบุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดทางการเมืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ ชื่อเรียก “แก๊งค์ไอติม” มีความหมายดั้งเดิมมาจากชื่อภาพยนตร์ที่ลงโรงฉายในปี พ.ศ. 2526 ผลงานกำกับการแสดงโดย ปกรณ์ พรหมวิทักษ์ นำแสดงโดย จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก อรพรรณ พานทอง และ ทนงศักดิ์ ศุภการ สำหรับการเมืองไทยปรากฏการใช้คำเรียกนี้ครั้งแรกด้วยความหมายเชิงลบโดยระบุถึง “คนวงใน” ผู้ใกล้ชิดในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้จุดประเด็น “แก็งไอติม” ที่ใกล้ชิดนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง ซึ่งสื่อมวลชนหลายสำนักต่างนำเสนอข่าวตีแผ่ถึงกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเป็น “แก็งไอติม” จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึงในสังคมอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ยังปรากฏการใช้คำเรียก “แก๊งออฟโฟร์” ซึ่งให้ความหมายใกล้เคียงกันในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ขณะที่ในการเมืองต่างประเทศก็มีคำเรียกกลุ่มคนที่มีลักษณะเดียวกันนี้ เช่น “kitchen cabinet” “brain trust” และ “grey eminence” เป็นต้น
ใครเป็นใครใน “แก๊งไอติม” และแก๊งอื่นๆ
“แก๊งออฟโฟร์” ยุค สมัคร สุนทรเวช
การทำงานของผู้นำประเทศแม้จะประกอบด้วยที่ปรึกษาซึ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และคณะทำงานที่ประกอบด้วยข้าราชการผู้ชำนาญการในสาขาวิชาชีพต่างๆ แต่กระนั้นบรรดาผู้นำทั้งหลายก็จำเป็นต้องมีคนใกล้ชิดที่คอยจัดการตารางงาน คัดกรองเอกสาร จัดลำดับสำคัญของงาน การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคนวงนอก แม้จะอยู่ในฝั่งรัฐบาลเอง สำหรับการเมืองไทยแล้ว “คนวงใน” เป็นเรื่องสำคัญจำเป็นประการหนึ่งในอันที่จะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี นอกเหนือไปจากคณะที่ปรึกษาที่ได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เช่น “แก๊งออฟโฟร์” ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช (ตั้งชื่อล้อกับ “Gang of Four” ผู้ใกล้ชิดกับเหมา เจ๋อตง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ค.ศ.1966-1976) อันประกอบด้วย
1. นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตภาคอีสาน พรรคพลังประชาชน และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปก.)
2. นายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
3. นายสหัส บัณฑิตกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี
4. นายธีระพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการรัฐมนตรี
“แก็งไอติม” ยุค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายสมัคร สุนทรเวช กระทำการขัดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ในกรณี “ทำกับข้าว” เป็นผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยที่สภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมากให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพรรคพลังประชาชน กระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งเป็นผลให้ดำเนินการยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค 37 คน ก็ทำให้ในเวลาต่อมาสภาผู้แทนราษฎรมีมติแต่งตั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เกิดกรณีที่สื่อมวลชนกล่าวถึง “แก็งไอติม” ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี อันประกอบไปด้วย
1. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีว่าการสำนักนายกรัฐมนตรี
2. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
3. นายศิริโชค โสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์
4. นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
5. นายอิสรา สุนทรวัฒน์ อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีและอดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
6. นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
“แก็งไอติม” ยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจยุบสภาและกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่3 กรกฎาคม 2554 โดยผลการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้รับเสียงข้างมากและสภาผู้แทนราษฎร มีมติแต่งตั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็เกิดฉายา “แก๊งไอติม” ขั้นอีกครั้ง แต่ด้วยเหตุที่คำเรียกฉายาครั้งนี้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ภายหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรี ในช่วงเดือนมิถุนายน 2556 ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ ภายหลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้กล่าวถึง “แก๊งไอติม” ระหว่างเข้ารับตำแหน่ง ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 จนสื่อมวลชนวิเคราะห์ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว ประกอบด้วย
1. นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
2. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
3. นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
4. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
5. นายธีรัตถ์ รัตนเสวี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
6. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
7. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
การจุดประเด็น “แก็งไอติม” โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
- วันนี้มีแก๊งไอติมเต็มทำเนียบฯ กล่าวหาว่าผมไม่ตั้งใจแก้ไขปัญหาภาคใต้ เช่น กรณีที่สื่อพยายามถามผมว่า เหตุใดจึงไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ ผมมองว่า สื่อเข้าใจผิด พร้อมขอฝากไปถึงนักการเมือง อย่าสร้างภาพในเรื่องของการลงพื้นที่ เพียงแค่ไปฟังบรรยายสรุปแล้วกลับ เพราะจะสร้างความลำบากให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งนี้ ยอมรับว่าผมล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ แต่เพิ่งได้รับตำแหน่งในช่วงเดือน พ.ย. 55 ในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. ซึ่งไม่มีอำนาจ และไม่มีงบลับใช้เลยแม้แต่บาทเดียว ทำงานด้วยใจ
- ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
- 4 กรกฎาคม 2556
ในการประชุมปฏิบัติการ ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ตัดพ้อถึงความตั้งใจทำงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลปัญหาความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่กลับถูกปรับพ้นจากตำแหน่ง อันเป็นผลมาจาก “แก๊งไอติม” ที่มีอิทธิพลชี้นำการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีไม่มากก็น้อย ในแง่ที่ว่าเป็นกลุ่มก๊วนการเมืองที่พยายามสร้างภาพเชิงลบแก่ตนเองในกรณีที่ไม่เคยลงพื้นที่ตรวจราชการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จนส่งผลให้สื่อมวลชนต่างวิพากษ์วิจารณ์และนำเสนอข่าวอย่างแพร่หลายมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ขยายความว่า แม้ตนเองจะพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหลังการปรับ ครม. ก็ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือ เสียใจแต่อย่างใด เพราะทั้งหมดเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมาก็ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด ไม่เคยเอาใจนายกรัฐมนตรี หรือหวังลาภยศสรรเสริญทางการเมืองใดๆ แต่ “ผู้นำทางการเมืองต้องมีเสือตาม ถ้ามีหมาตามมันทำอะไรไม่ได้ จากนี้ไปนายกฯจะเจอกับขวากหนาม”
ภายหลังจากที่สื่อมวลชนนำคำกล่าวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปตีแผ่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง ผู้ที่ถูกจับตามองมากที่สุดอย่างนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความเคารพที่มีต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็น “แก๊งไอติม” อย่างที่หลายฝ่ายคาดการ เพราะเป็นคำเรียกกลุ่มก๊วนการเมืองที่ใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม “ถ้าหากเป็นไอติมก็เป็นแม็กนั่มที่มีรสชาติหวานมันอร่อย” ก่อนที่หนึ่งในทีมงานทำเนียบรัฐบาล อย่างนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะออกมาโพสต์ภาพล้อเลียนด้วยท่าทางกินไอศครีมอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ปรากฏในภาพพร้อมด้วยทีมงานและคณะผู้ติดตามนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางเยือนประเทศโปแลนด์และตุรกีอย่างเป็นทางการ จนกระทั่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรุนแรงด้วยการโพสต์ข้อความลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟสบุ๊คว่า "ขอฝากบอก ไปถึงนายสุรนันท์ ว่าอย่ามาตีตัวเสมอ ส่วนเด็กผู้หญิงสองคนในภาพนั้น คนหนึ่งชื่อสุ ผมเห็นเป็นลูกหลาน นายสุรนันท์ทำอะไรควรให้พอดี ถ้ามากไปเขาเรียกว่าเสือก ถ้าเสือกเดี๋ยวจะมีของแถม และไม่ต้องมาขอขมา ผมถือว่าผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" ขณะที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ต้องออกมาขอขมากับการโพสต์ภาพกินไอศกรีมดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงว่าไม่มีเจตนาที่จะลบหลู่ดูหมิ่น หรือสร้างความเสื่อมเสียแก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่อย่างใด
ความหมายแฝงของคำเรียก “แก๊งไอติม” ในการเมืองไทย
แม้คำเรียก “แก๊งไอติม” จะสื่อความถึงกลุ่มก๊วนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้นำประเทศ เฉกเช่นเดียวกับคำเรียก “แก๊งออฟโฟร์” ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แต่ด้วยเหตุที่การหยิบยืมคำแรกมาจากชื่อภาพยนตร์ “แก๊งค์ไอติม” ที่เข้าฉายในปี 2526 จึงกินความหมายกว้างไกลไปกว่าแค่คนวงในที่มีอิทธิพลอย่างในกรณีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเรียกที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งสังกัดอยู่ในฝากฝั่งรัฐบาลเดียวกัน จึงถูกตีความไปว่าต้องมีความหมายแฝงเร้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเนื้อเรื่องหลักของภาพยนตร์แก๊งค์ไอติม (2526) เป็นเรื่องราวกลุ่มเยาวชนที่มีชีวิตอยู่ยากลำบาก ซึ่งพยายามขายทุกสิ่งทุกอย่างเลี้ยงชีพเพื่อความอยู่รอดด้วยวิธีการที่ผิด จึงมักจะโดนขับไล่ออกจากสถานที่เร่ขายทุกครั้งเมื่อโดนจับได้ แต่แล้วชีวิตของเยาชนกลุ่มนี้ก็เปลี่ยนไปเมื่อได้พบกับครูคนหนึ่งที่จะอบรมบ่มเพาะให้เด็กๆ ได้รับการศึกษา รู้จักการแบ่งปัน การให้อภัย และความผูกพันซึ่งกันและกัน จนกระทั่งคุณครูต้องย้ายไปทำงานที่อื่น พร้อมๆ กับที่มีร้านไอติมมาเปิดแย่งลูกค้า ก็ทำให้กลุ่มเด็กๆ จำเป็นต้องร่วมคิดแก้ไขปัญหาต่อไป
ในแง่นี้ แก๊งไอติมที่ถูกใช้ทางการเมืองจึงสื่อแสดงถึงกลุ่มบุคคลที่ไม่เจนจัดทางการเมือง ทั้งยังมักจะใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นอยู่เสมอ แต่กลับได้รับความไว้วางใจจากผู้นำประเทศด้วยความใกล้ชิดสนิทสนม ในทางกลับกันผู้นำประเทศที่ถูกรายล้อมด้วยแก๊งไอติมก็ทักจะเชื่อถือคำพูด การชี้นำ และการตัดสินใจจากกลุ่มคนเหล่านี้จนไม่ฟังเสียงสะท้อนจากคนวงนอกที่อาจจะมีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนานจนมองเห็นพิศภัยที่อยู่เบื้องหน้ามากกว่า การพูดระบุถึง "แก๊งไอติม" ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งมีประสบการณ์โชกโชนจนได้รับฉายาว่า "ขุนศึกฝั่งธน" จึงนอกจากจะเป็นการปรามคนวงในนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังนายกรัฐมนตรีให้ระแวดระวังคนวงในใกล้ชิดตัวเองอีกด้วย
บรรณานุกรม
““แก๊งไอติม” เรื่องเย็นประเด็นการเมือง เกี่ยวอะไรกับ “นิด อรพรรณ- สโมสรผึ้งน้อย และ XYZ” !?!,” มติชนออนไลน์, (10 กรกฎาคม 2556). เข้าถึงจาก <http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1373446008>. เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2556. “‘เจ้าพ่อแก๊งไอติม’ ยุคนายกฯ หญิง.” คมชัดลึก. (6 กรกฎาคม 2556), 13.
““เฉลิม” จวก "สุรนันทน์" อย่าตีตัวเสมอ." คมชัดลึก. (9 กรกฎาคม 2556), 13.
“ชี้ปูเจอขวากหนามแน่-มีหมาตาม.” ข่าวสด. (6 กรกฎาคม 2556), 11.
"เดินหน้าชน: แก๊งไอติม." มติชน. (9 กรกฎาคม 2556), 6.
“ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี.” ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 125 ตอนพิเศษ 156 ง. 24 กันยายน 2551, หน้า 1.
“ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี.” ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 125 ตอนพิเศษ 191 ง. 21 ธันวาคม 2551, หน้า 1.
“ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี.” ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 128 ตอนพิเศษ 87 ง. 8 สิงหาคม 2554, หน้า 1.
พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย. “ผ่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ ๑๒-๑๓/๒๕๕๑ (กรณีการจัดรายการโทรทัศน์ของนายสมัคร สุนทรเวช).” Pub-Law.Net เครือข่ายกฎหมายมหาชนไทย. (28 กันยายน 2551). เข้าถึงจาก <http://www.pub-law.net/publaw/view.aspx?id=1280>. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2558.
“พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554.” ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 128 ตอนที่ 33 ก. 10 พฤษภาคม 2554, หน้า 19-20.
“ไม่แคร์เหลิม! “สุรนันทน์” นำแก๊งไอติมโพสต์ภาพเย้ย.” ผู้จัดการออนไลน์. (5 กรกฎาคม 2556). เข้าถึงจาก <http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081824>. เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2558.
“ย้อนรอยผลงาน ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’.” ผู้จัดการออนไลน์. (23 พฤศจิกายน 2556). เข้าถึงจาก <http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9560000145478&Html=1&TabID=2&>. เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2558.
““สุรนันทน์” ขอโทษเฉลิม-อ้างไม่มีเจตนา.” คมชัดลึก. (10 กรกฎาคม 2556), 15.
““สุรนันทน์” ร้อนตัว! ยันเพื่อไทยไม่มีแก๊งไอติม อ้าง “เหลิม” เข้าใจผิด.” ผู้จัดการออนไลน์. (4 กรกฎาคม 2556). เข้าถึงจาก <http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000081752>. เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558.
“เหลิมซัด แก๊งไอติม จะทำปู เจ๊ง บินฮ่องกงเคลียร์แม้ว.” ผู้จัดการรายวัน. (5 กรกฎาคม 2556), 7.