คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

เรียบเรียงโดย : นายโชคสุข กรกิตติชัย

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : นายจเร พันธุ์เปรื่อง


บทนำ

ในสมัยรัฐบาลหม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ได้เกิดกรณี จอมพลถนอม กิตติขจร พยายามจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยการบรรพชาเป็นสามเณรมาจากวัดไทยในประเทศสิงคโปร์ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างว่าจะกลับมาอุปสมบทที่วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๙[1] ทำให้มีการเดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลขับไล่จอมพลถนอม กิตติขจร ออกไปนอกประเทศ โดยมีการปักหลักชุมนุมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนกระทั่งเวลา ๑๘.๐๐ น. ของวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ซึ่งมีพลเรือเอก สงัด ชะลออยู่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นหัวหน้า และพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นเลขาธิการ ได้เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศเป็นผลสำเร็จ[2] โดยประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ ซึ่งถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มุ่งจะให้มีการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย มีผลให้รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ ส่วนศาลทั้งหลายยังคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมายและคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน [3]

ความเป็นมาของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙)

เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ เวลา ๑๘.๐๐ น. นายทหารคณะหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในนาม “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” นำโดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะนายทหาร ๓ เหล่าทัพ และอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศยึดอำนาจจากรัฐบาล หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช โดยให้เหตุผลในคำประกาศว่า “เพื่อกอบกู้สถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้พ้นจากสถานการณ์อันเลวร้าย จึงยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. ๒๕๑๗ ยุบรัฐสภา ยกเลิกพรรคการเมือง ประกาศใช้กฎอัยการศึก รวมทั้งห้ามประชาชนออกนอกบ้านระหว่าง ๐๑.๐๐ – ๐๔.๓๐ น.” [4] โดยคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙) ได้ยึดอำนาจโดยมีสาเหตุที่อ้าง คือ

๑. นิสิต นักศึกษาบางกลุ่มกระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีเจตนาที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของคอมมิวนิสต์ และยังต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าจับกุม ทำให้สถานการณ์เกิดความระส่ำระสาย

๒. รัฐมนตรีบางคน นักการเมืองบางกลุ่มและสื่อมวลชนหลายแห่งให้การสนับสนุนเหตุการณ์ร้ายอย่างแข็งขันและออกนอกหน้า

๓. รัฐสภามีความแตกแยก แม้จะเป็นนักการเมืองที่อยู่ในพรรคเดียวกันก็ตาม และไม่ได้ปฏิบัติตามอาณัติที่ประชาชนได้มอบไว้ให้ เป็นการพ้นวิสัยที่ระบอบประชาธิปไตยจะดำเนินไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญได้

๔. การกระทำการก็เพื่อรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้ดำรงอยู่ตลอดไป [5]

จากนั้นในวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน นำนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งให้ “นายธานินทร์ กรัยวิเชียร” เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน[6]

คณะบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙)

คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินประกอบด้วย พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ เป็นหัวหน้าคณะ นอกจากนี้ยังมีพลเอก บุญชัย บำรุงพงศ์ พลอากาศเอกกมล เตชะตุงคะ พลเอก เสริม ณ นคร และพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นต้น[7] ได้ยึดอำนาจ และได้มีการแต่งตั้งให้นายธานินทร์ กรัยวิเชียร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีคณะรัฐมนตรีรวม ๑๗ คน พร้อมทั้งตั้งสภาที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี มีจำนวน ๒๔ คน ทำหน้าที่นิติบัญญัติ ระหว่างวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ ถึงวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ และมีพลอากาศเอก กมล เดชะตุงคะ เป็นประธานสภาที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับ พ.ศ.๒๕๑๙ ในวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ มี ๒๙ มาตรา เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ ๑๑ ของไทย ให้มีสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ซึ่งมีสมาชิกจำนวน ๓๔๐ คน ทำหน้าที่รัฐสภาและฝ่ายนิติบัญญัติ ได้รับแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ [8] รวมเวลา ๑๑ เดือน ๒๘ วัน[9] โดยนายทหารในคณะปฏิรูปการปกครองดังกล่าวได้เปลี่ยนสถานะของตัวเองเป็น “สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน”

บทบาทของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙)

พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ได้ออกคำสั่ง ๘ ข้อ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติตนของข้าราชการพลเรือน ทหารและตำรวจ และให้หัวหน้าส่วนราชการทุกกระทรวง เรียกประชุมบุคคลระดับหัวหน้า ชี้แจงแนวปฏิบัติตามนโยบายของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

นอกจากนั้นยังมีคำสั่งยกเลิกองค์การนักศึกษา ห้ามมีกิจกรรมทางการเมืองทุกประเภท และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสำรวจเงินฝากในธนาคารของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย [10]

ผลจากการยึดอำนาจของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙)

การใช้กำลังทหารยึดอำนาจในครั้งนั้นได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ ซึ่งถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มุ่งจะให้มีการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๙ แม้จะเรียกว่า รัฐธรรมนูญ แต่ก็มีเนื้อหาอยู่น้อยเพียง ๒๙ มาตรา แบบเดียวกับธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร และมีลักษณะของการเป็นรัฐธรรมนูญชั่วคราว แต่ที่ดูจะพิเศษกว่าฉบับอื่นก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดระยะเวลาฟื้นฟูประเทศ ๓ ช่วง คือ

ขั้นที่หนึ่ง เวลาสี่ปีแรก “เป็นเวลาที่สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดินจะเป็นผู้ควบคุมการบริหารราชการ”

ขั้นที่สอง “ระยะที่ให้ราษฎรมีส่วนในการบริหารราชการแผ่นดินมากขึ้น” คือ มีสภาสองสภา ได้แก่สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งและวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้ง นับว่าเป็นช่วงสี่ปีที่สอง

ขั้นที่สาม หรือสี่ปีสุดท้าย “ขยายอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร...และลดอำนาจของวุฒิสภาลง...” และถ้าดำเนินไปดีก็อาจให้วุฒิสภาหมดไปได้

เวลา ๑๒ ปีนานเกินไปสำหรับประชาชนชาวไทย จึงทำให้นักการเมืองและประชาชนไม่พอใจ ประกอบกับการปกครองของรัฐบาลชั่วคราวเองไม่เป็นที่พอใจของสภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดินเข้าด้วย คณะปฏิวัติซึ่งก็คือ “สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน” ที่ได้เข้ามายึดอำนาจเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ จึงกลับมายึดอำนาจอีกครั้ง และยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่กลุ่มของตนนำเข้ามาใช้ เพื่อเปลี่ยนทั้งรัฐธรรมนูญและรัฐบาล และประกาศใช้รัฐธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๒๐ ออกมาใช้แทน เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๐ ดังนั้นรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๕๑๙ จึงใช้อยู่เพียงเกือบ ๑ ปี ๑๒ วัน เท่านั้นเอง [11]

การสิ้นสุดของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๑๙)

หลังจากใช้รัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๕๑๙ นั้นเพียง ๑ ปี ๑๒ วัน ก็มีการยึดอำนาจการปกครองโดยคณะปฏิวัติภายใต้การนำของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่ เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐ สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดินจึงสิ้นสุดลง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๙ ประกาศใช้เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ กำหนดให้รัฐสภามีสภาเดียว คือ สภาปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน มีสมาชิกจำนวน ๓๔๐ คน มาจากการแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ สภานี้ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ – ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐ สิ้นสุดลงโดยการยึดอำนาจการปกครองประเทศของคณะปฏิวัติภายใต้การนำของพลเรือเอก สงัด ชลออยู่ และคณะทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจและพลเรือน ก็ได้ทำการรัฐประหารยึดอำนาจจากนายธานินทร์ กรัยวิเชียร เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐ จึงทำให้รัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร ต้องพ้นจากตำแหน่งและคณะปฏิรูปก็กลายเป็นคณะปฏิวัติในที่สุด[12]

สถิติและจำนวนการแถลงการณ์ ประกาศ คำสั่ง ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน และคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน

แถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ได้แก่[13]

๑. แถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (แถลงการณ์การยึดอำนาจการปกครอง)

๒. แถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕(นโยบายด้านการต่างประเทศ)

๓. แถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำชี้แจงถึงเหตุผลในการยึดอำนาจ)

๔. แถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓(นโยบายด้านการต่างประเทศเพิ่มเติม)

๕. แถลงการณ์ของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๕ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑(แถลงให้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๐)

ประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ได้แก่ [14]

- ประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๐ (เรื่อง นโยบายด้านแรงงาน)

คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ได้แก่ [15]

๑. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๖ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้ศาลพลเรือนเป็นศาลทหาร ในเวลาไม่ปกติและที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้ประกาศแต่งตั้งผู้บัญชาการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๓. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๒ (คำสั่งฯ ดังกล่าวกำหนดให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๗ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๑๙ จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๔. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดห้ามมิให้มีการมั่วสุมประชุมกันในทางการเมือง ณ ที่ใดๆ มีจำนวนตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไป ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ และประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓ ลงวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๕. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๕ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้สื่อมวลชนอยู่ในความควบคุมของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๖. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๖ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๙ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยยกเลิกพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๑๗ และห้ามตั้งพรรคการเมือง ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๒๔ จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๗. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๗ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒๐ (คำสั่งฯ ดังกล่าวกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดกักตุนสินค้าหรือขึ้นราคาสินค้า ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๘. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๘ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้การกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕ อยู่ในอำนาจศาลทหาร ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลพลเรือนเป็นศาลทหารในเวลา ไม่ปกติและที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๙. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๙ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒๓ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้กำหนดห้ามประชาชนในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครออกนอกเคหะสถาน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๑” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๑๐. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๐ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้หนังสือพิมพ์รายวัน และ สิ่งตีพิมพ์อื่นๆ อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการตรวจสอบข่าวสาร ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ ถูกยกเลิกโดย “คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๒” จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๑๑. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามประชาชนในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครออกนอกเคหะสถาน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๑๒. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๒ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด นำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ ภายในวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๙ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔” จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๑๓. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๓ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๖ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้ศาลจังหวัดเขตพื้นที่จังหวัดทหารบกอุดร เป็นศาลมณฑลทหารบกที่ ๓ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลพลเรือนเป็นศาลทหารในศาลปกติและที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๑๔. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๔ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๗ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้ศาลทหาร ตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๘ หมายถึง ศาลทหารในเวลาไม่ปกติตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลพลเรือนเป็นศาลทหารในเวลาไม่ปกติและที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิด อันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๑๕. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๕ ลงวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๑๙ และกำหนดให้สถานีวิทยุกระจายเสียงดำเนินรายการต่อไปได้ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๕ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ และฉบับที่ ๑๗ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๓๗” จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๑๖. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๖ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๙ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้กำหนดให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรือผู้ซึ่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินมอบหมาย ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๐” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๑๗. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๗ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๕ ลงวันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ และฉบับที่ ๑๗ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๓๗” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๑๘. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๘ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้กำหนดให้อำนาจของรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐเป็นอำนาจของปลัดทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ โดยขึ้นตรงต่อหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรือผู้ซึ่งคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินมอบหมาย ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๐” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๑๙. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๙ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจและพลเรือนมีหน้าที่เกี่ยวข้อง และรับผิดชอบในเรื่องการฟื้นฟูความสงบ และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง)

๒๐. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๐ ลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยได้กำหนดข้อกำหนดในการดำเนินงานของหนังสือพิมพ์รายวัน นิตยสารรายสัปดาห์ และสิ่งตีพิมพ์อื่น ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๒” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒๑. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๑ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดห้ามมิให้มีการดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาลแทนตำแหน่งที่ว่าง คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๑ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๒๕” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒๒. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้บุคคลบางจำพวก ที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมให้กลับตัวเป็นพลเมืองดี คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิวัติการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๒ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๒๒” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒๓. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๓ ลงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๖ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้กำหนดห้ามประชาชนในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครออกนอกเคหะสถาน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๒๔. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๔ ลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ เรื่องให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล ผู้พิพากษาศาลจังหวัด และอธิบดีผู้พิพากษาภาค เป็นตุลาการศาลทหาร และแก้ไขเพิ่มเติมความใน (๙) ของบัญชีท้ายคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑ ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลพลเรือนเป็นศาลทหารในเวลาไม่ปกติและที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒๕. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๕ ลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกัน การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๕ พ.ศ. ๒๕๔๓” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒๖. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๖ ลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒๘ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๐ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๒๗. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๗ ลงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๐๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้กำหนดเปลี่ยนแปลงเวลาห้ามประชาชนในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ออกนอกเคหะสถาน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๒๘. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๘ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งขังผู้ต้องหา ซึ่งถูกจับกุมอันเนื่องมาแต่การจลาจล ได้หลายครั้งติดต่อกัน แต่ครั้งหนึ่งต้องไม่เกินสามสิบวัน และรวมทั้งหมดต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๒๙. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๙ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้คำพิพากษาหรือคำสั่งของ ศาลทหาร มีผลบังคับเด็ดขาดและรวดเร็วยิ่งขึ้น คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมาย ที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลพลเรือนเป็นศาลในเวลาไม่ปกติและที่ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๓๐. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๐ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้คดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ถ้ามีข้อหาอื่นที่เป็นความผิดในตัวเอง และไม่ได้อยู่ในอำนาจศาลทหารรวมอยู่ ให้ศาลทหาร มีอำนาจพิจารณาพิพากษาในข้อหานั้นด้วย ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลพลเรือนเป็นศาลทหารในเวลาไม่ปกติและที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๓๑. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๑ ลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๗ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับข้าวสารอย่างเพียงพอ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๑๒/๒๕๑๙ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๓๒. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๒ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวกำหนดให้เลื่อนกำหนดการใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการคุ้มครองการทำงานของครูโรงเรียนราษฎร์ พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๐)

๓๓. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๓ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งข้าราชการการเมือง ท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ. ๒๕๑๘ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ.๒๕๓๕” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๓๔. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยยกเลิกพระราชบัญญัติกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการอบรมและฝึกอาชีพของบุคคลบางประเภท พ.ศ. ๒๕๑๘ และกำหนดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการอบรมและฝึกอาชีพบุคคลซึ่งเป็นภัยต่อสังคมที่ถูกควบคุมตัวไว้ในสถานอบรมและฝึกอาชีพ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๔๐”)

๓๕. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๕ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยยกเลิกพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๑๑ ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๑๗ และฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๑๗ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๓๖. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๖ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการขออนุมัติดำเนินการพิมพ์หนังสือพิมพ์รายวัน และสิ่งตีพิมพ์ต่อคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดยปริยาย จึงไม่มีผลบังคับใช้แล้ว)

๓๗. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๗ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๘ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมการทำประกอบ ซ่อมแซม และเปลี่ยนแปลงลักษณะอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมโดย “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๗ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๒๒” และ “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๗ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๕” อนึ่ง มีกฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๗ ดังกล่าว คือ “กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตตั้งโรงงานทำประกอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลงลักษณะอาวุธสำหรับราชการทหารและตำรวจ พ.ศ. ๒๕๔๘” ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๓ ตอนที่ ๒๓ ก วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๔๙)

๓๘. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๘ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช ๒๔๗๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๙ และ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๑๑ เรื่อง แก้ไขคำนิยามและบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องเสียใหม่ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.๒๕๔๒” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๓๙. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓๙ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔๓ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้เพิ่มเติมหน้าที่ของจ่าศาลอาญาและศาลจังหวัดเป็นจ่าศาลทหารแห่งศาลทหาร คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ศาลทหารพิจารณาคดีซึ่งเกี่ยวกับความผิดอันเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๔๐. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๐ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔๔ (คำสั่งฯ ดังกล่าวได้ประกาศให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๓ ข้อ ๔ ข้อ ๕ ข้อ ๖ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๖ พ.ศ. ๒๕๑๙ ฉบับที่ ๑๘ พ.ศ. ๒๕๑๙ และคำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓/๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๑๙ ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๔๑. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๑ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔๖ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เรื่อง อัตราโทษในความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นให้สูงขึ้น)

๔๒. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๒ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕๒ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้อ ๑ ข้อ ๒ และฉบับที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๕๑๙ และฉบับที่ ๒๐ พ.ศ. ๒๕๑๙ และกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิมพ์สิ่งพิมพ์และหนังสือพิมพ์ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกแก้ไขเพิ่มเติมโดย “พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๒ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๒๕” แต่ถูกยกเลิกโดย “พระราชกำหนดยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๒ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๓๓ จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๔๓. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๓ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕๘ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๕ ข้อ ๕ และกำหนดมาตรการควบคุมผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งเอกสาร และสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ทั้งนี้ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๓ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ พ.ศ. ๒๕๔๑” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๔๔. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๖๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยยกเลิกคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๑๒ พุทธศักราช ๒๕๑๙ และแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐)

๔๕. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๕ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๗๑ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชกฤษฎีกา โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๔ และมาตรา ๕ เรื่อง การปรับปรุง แบ่งส่วนราชการในกรมตำรวจใหม่ คำสั่งฯ ฉบับนี้ถูกยกเลิกโดย “พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๓๙” จึงไม่มีผลใช้บังคับแล้ว)

๔๖. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๖ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๑๒ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๑๑๙ และมาตรา ๑๒๐ และเพิ่มเติมมาตรา ๑๕๗ ทวิ การจัดตั้งสมาคมนายจ้าง สหภาพแรงงาน และสภาองค์การนายจ้าง และสภาองค์การลูกจ้าง)

๔๗. คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๗ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๑๕ (คำสั่งฯ ดังกล่าวมีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ โดยกำหนดให้จัดตั้งสภาที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติ)

คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ได้แก่ [16]

๑. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓/๒๕๑๙ เรื่อง การจัดแบ่งส่วนราชการของกองบัญชาการคณะปฏิรูปการครองแผ่นดิน ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๙ (ถูกยกเลิกโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๐)

๒. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๕/๒๕๑๙ เรื่อง ให้ปลดข้าราชการออกจากประจำการ (พลเอก ฉลาด หิรัญศิริ) ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓

๓. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๙/๒๕๑๙ เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือนออกจากราชการ และแต่งตั้งข้าราชการพลเรือน (๑. นายกัญจน์ นาคามดี ๒. นายประดิษฐ์ จันทรวัฒนา ๓. นางสุดารัตน์ นาคามดี ๔. นาวาเอก เจริญ เจริญรัชต์ภาคย์) ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔

๔. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๑๐/๒๕๑๙ เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑

๕. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๑๑/๒๕๑๙ เรื่อง ให้ข้าราชการประจำกรม และแต่งตั้งข้าราชการ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒

๖. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๑๒/๒๕๑๙ เรื่อง ให้องค์การคลังสินค้าจำหน่ายข้าวสารสิบห้าเปอร์เซ็นต์แก่ประชาชนในราคาถังละ ๕๐ บาท และข้าวสารห้าเปอร์เซ็นต์ในราคาถังละ ๖๒ บาท ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙

๗. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๒/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๓

๘. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๓/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔

๙. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๔/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตุลาการ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕

๑๐. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๕/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๖

๑๑. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๖/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตุลาการ ลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๗

๑๒. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๗/๒๕๑๙ เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือนพ้น จากตำแหน่ง ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑

๑๓. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๘/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยมหิดล ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒

๑๔. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๒๙/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๔

๑๕. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๑/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ลงวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑

๑๖. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๒/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๕

๑๗. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๓/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๖

๑๘. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๔/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งนายทหารพิเศษ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๗

๑๙. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๕/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๘

๒๐. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๖/๒๕๑๙ เรื่อง ให้ข้าราชการพลเรือน พ้นตำแหน่ง ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๙

๒๑. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๗/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๐

๒๒. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๓๘ /๒๕๑๙ เรื่อง การปฏิบัติตนของข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร (มีสถานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ) ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๒

๒๓. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๔๓/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๕

๒๔. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๔๔/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๗

๒๕. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๔๕/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๑๙

๒๖. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๔๗ /๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒๑

๒๗. คำสั่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ที่ ๕๐/๒๕๑๙ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หน้า ๒๒

บรรณานุกรม

จักร พันธ์ชูเพชร. การเมืองการปกครองไทย “จากยุคสุโขทัยสู่สมัยทักษิณ”. (กรุงเทพมหานคร. ๒๕๔๙).

เชาวนะ ไตรมาศ. ข้อมูลพื้นฐาน ๗๕ ปี ประชาธิปไตยไทย ๒๔๗๕ – ๒๕๕๐. (กรุงเทพมหานคร : บริษัท สุขุมและบุตร จำกัด. ๒๕๕๐).

ธิกานต์ ศรีนารา. เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://th.wikipedia.org (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗).

นคร พจนวรพงษ์. ข้อมูลประวัติศาสตร์การเมืองไทย เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญๆ พ.ศ. ๒๔๗๕ – ปัจจุบัน การเลือกตั้งทุกครั้งและการจัดตั้งรัฐบาลทุกสมัย. (กรุงเทพมหานคร. บริษัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด. ๒๕๔๒).

นรนิติ เศรษฐบุตร. “๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙”, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://www.kpi.ac.th/wiki (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗).

ประกาศตั้งนายกรัฐมนตรี. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๙๓ ตอนที่ ๑๒๔. ฉบับพิเศษ. ๑๐ ตุลาคม ๒๕๑๙.

วิกิพีเดีย สารนุกรมเสรี. “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน”, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://www.kpi.ac.th/wiki (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗).

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. ข้อมูลกฎหมายประเภทประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิวัติ คณะปฏิรูป และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง. (กรุงเทพมหานคร : สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. ๒๕๕๕).

สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. “ประวัติวุฒิสภา”, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://www.senate.go.th/main/senate/history.php (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗).

อริน. “คณะปฏิรูปฯ” และ “รัฐบาลหอย” กับมรสุมลูกแรก กบฏ ๒๖ มีนาคม ๒๕๒๐, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://arin-political.blogspot.com/2012/03/2475-2549-52.html (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗)

อ้างอิง

  1. จักร พันธ์ชูเพชร. การเมืองการปกครองไทย “จากยุคสุโขทัยสู่สมัยทักษิณ”. (กรุงเทพมหานคร. ๒๕๔๙). หน้า ๒๕๐.
  2. นคร พจนวรพงษ์. ข้อมูลประวัติศาสตร์การเมืองไทย เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญๆ พ.ศ. ๒๔๗๕ – ปัจจุบัน การเลือกตั้งทุกครั้งและการจัดตั้งรัฐบาลทุกสมัย. (กรุงเทพมหานคร. บริษัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด. ๒๕๔๒). หน้า ๗๕.
  3. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. “ประวัติวุฒิสภา”, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://www.senate.go.th/main/senate/history.php (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗). หน้า ๑ – ๒.
  4. อริน. “คณะปฏิรูปฯ” และ “รัฐบาลหอย” กับมรสุมลูกแรก กบฏ ๒๖ มีนาคม ๒๕๒๐, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://arin-political.blogspot.com/2012/03/2475-2549-52.html (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗). หน้า ๑.
  5. เชาวนะ ไตรมาศ. ข้อมูลพื้นฐาน ๗๕ ปี ประชาธิปไตยไทย ๒๔๗๕ – ๒๕๕๐. (กรุงเทพมหานคร : บริษัท สุขุมและบุตร จำกัด. ๒๕๕๐). หน้า ๑๔๕.
  6. ประกาศตั้งนายกรัฐมนตรี. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๙๓ ตอนที่ ๑๒๔. ฉบับพิเศษ. ๑๐ ตุลาคม ๒๕๑๙. หน้า ๑.
  7. ธิกานต์ ศรีนารา. เหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://th.wikipedia.org (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗). หน้า ๘.
  8. นคร พจนวรพงษ์. ข้อมูลประวัติศาสตร์การเมืองไทย เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญๆ พ.ศ. ๒๔๗๕ – ปัจจุบัน การเลือกตั้งทุกครั้งและการจัดตั้งรัฐบาลทุกสมัย. (กรุงเทพมหานคร : บริษัทโรงพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด. ๒๕๔๒). หน้า ๗๖.
  9. เรื่องเดียวกัน, หน้า ๗๕.
  10. อริน. “คณะปฏิรูปฯ” และ “รัฐบาลหอย” กับมรสุมลูกแรก กบฏ ๒๖ มีนาคม ๒๕๒๐, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://arin-political.blogspot.com/2012/03/2475-2549-52.html (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗). หน้า ๑ – ๒.
  11. นรนิติ เศรษฐบุตร. “๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙”, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://www.kpi.ac.th/wiki (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗). หน้า ๑.
  12. วิกิพีเดีย สารนุกรมเสรี. “คณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน”, [ออนไลน์]. สืบค้นจาก : http://www.kpi.ac.th/wiki (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗). หน้า ๑.
  13. ข้อมูลจาก ฐานข้อมูลราชกิจจานุเบกษา (http://www.ratchakicha.soc.go.th) โดยผู้เขียนได้สรุปสาระสำคัญจากเนื้อหาของคำสั่งฯ แต่ละฉบับ.
  14. ข้อมูลจาก ฐานข้อมูลราชกิจจานุเบกษา (http://www.ratchakicha.soc.go.th) โดยผู้เขียนได้สรุปสาระสำคัญจากเนื้อหาของคำสั่งฯ แต่ละฉบับ.
  15. สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. “ข้อมูลกฎหมาย ประเภทประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิวัติ คณะปฏิรูป และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง”. (กรุงเทพมหานคร: สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. ๒๕๕๕).หน้า ๖๐ – ๖๕.
  16. ข้อมูลจาก ฐานข้อมูลราชกิจจานุเบกษา (http://www.ratchakicha.soc.go.th) โดยผู้เขียนได้สรุปสาระสำคัญจากเนื้อหาของคำสั่งฯ แต่ละฉบับ.

หนังสือแนะนำให้อ่านเพิ่มเติม

กนก วงษ์ตระหง่าน. คู่มือการเมืองไทย ๒๔๗๕ – ๒๕๒๕ ข้อมูลพื้นฐานทางการเมืองไทย. (กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี. ๒๕๒๖).

นรนิติ เศรษฐบุตร. การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของไทย. (กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา. ๒๕๕๕).

พีระพงษ์ สิทธิอมร และคณะ. ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ปฏิรูป ปฏิวัติ รัฐประหาร ของบทบาทผู้นำทางการเมือง พลเรือน ตำรวจ ทหาร. (กรุงเทพมหานคร : หจก. ซี แอนด์ เอ็น. ๒๕๔๙).

โรม บุนนาค. คู่มือรัฐประหาร. (กรุงเทพมหานคร : บริษัท ส. เอเชียเพรส (๑๙๘๙) จำกัด. ๒๕๔๙).

ดูเพิ่มเติม

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๑๙. ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม ๙๓ ตอนที่ ๑๓๕. ฉบับพิเศษ. ๒๒ ตุลาคม ๒๕๑๙.