3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:11, 3 ตุลาคม 2556 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุต...')
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เป็นวันที่มีการเลือกตั้งทั่วไปของไทยในสมัยนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ดำเนินการยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลผสมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขึ้น หลังจาก นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเนื่องจากคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 อันเป็นผลให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ถูกตัดสิทธิ์ในฐานะกรรมการบริหารพรรค

รัฐบาลของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งขึ้นมาหลังการยุบพรรคพลังประชาชนทำให้สมาชิกเดิมของพรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่งได้แยกตัวไปตั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรคภูมิใจไทยที่เป็นพรรคใหม่พรรคนี้เองที่เป็นฝ่ายสนับสนุนสำคัญของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ถึงแม้จะตั้งรัฐบาลเข้าบริหารประเทศได้ และได้รับการสนับสนุนจากทางกองทัพเป็นอย่างดี ทางรัฐบาลก็ต้องเผชิญปัญหากับการต่อต้านและคัดค้านจากแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และได้มีการชุมนุมประท้วงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2552 ที่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ถึงแม้จะตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศได้ และได้รับการสนับสนุนจากทางกองทัพเป็นอย่างดี ทางรัฐบาลก็ต้องเผชิญกับปัญหาการต่อต้านและคัดค้านจากแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และได้มีการชุมนุมประท้วงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2552 ที่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ครั้นมาถึงต้นปี พ.ศ. 2553 การชุมนุมประท้วงรัฐบาลและเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม โดยมีผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมากเดินทางมาจากต่างจังหวัด การชุมนุมคราวนี้เป็นการชุมนุมที่มีผู้มาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากที่เริ่มจากการชุมนุมอย่างสงบ และเริ่มมีมาตรการกดดันรัฐบาลโดยกระจายกันเดินไปในกรุงเทพมหานคร ไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลไปที่บ้านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการเทเลือดและทำพิธีกรรมเป็นการกดดันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างแรง

การชุมนุมประท้วงได้ขยายตัวขึ้นในเดือนเมษายนปีเดียวกันนี่เอง มีการใช้อาวุธสงคราม เช่น ลอยยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 แต่ก็หาตัวผู้ทำผิดไม่ได้ จนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในวันที่ 8 เมษายน และให้ฝ่ายทหารสลายการชุมนุมที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลาย รายทางผู้ประท้วงก็ย้ายไปรวมและปักหลักต้านรัฐบาลที่ราชประสงค์ ทำให้มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับผู้ชุมนุมประท้วงจนมีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก การเสียชีวิตนี้มีทั้งผู้ที่มาชุมนุมประท้วงและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ความขัดแย้งทางการเมืองที่เพิ่มระดับขึ้นเป็นการใช้อาวุธจนมีการเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กันต่อไปนั้น ทำให้เห็นได้ถึงความแตกแยกอย่างมากของผู้สนับสนุนกลุ่มการเมืองในสังคมไทย รัฐบาลที่อยู่ในสถานการณ์วิกฤตจึงได้หาทางออกโดยการยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ในการเลือกตั้งคราวนี้เป็นการเลือกตั้งที่แตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ พ.ศ. 2550 คือมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ดังนั้นในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 จึงเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 500 คน มากกว่าครั้งก่อน 20 คน โดยแบ่งเป็นการเลือกตั้งผู้แทนตามเขตเล็กรวมกัน 375 เขต มีผู้แทนราษฎรได้เขตละ 1 คน จำนวน 375 คน จากเดิมเขตละไม่เกิน 3 คน รวม 400 คน และเลือกผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อพรรคโดยเอาประเทศไทยเป็นเขตเลือกตั้งได้ทั้งหมดอีก 125 คน จากเดิมทั้งประเทศแบ่งเป็น 8 เขต ๆ ละ 10 คน รวม 80 คน ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าในการเลือกตั้งแบบเขตเล็กที่เคยมีผู้แทนราษฎรได้เขตละไม่เกิน 3 คน ก็เปลี่ยนมาเป็นเขตละ 1 คนและการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อพรรคที่เคยแบ่งเป็น 8 เขต ให้รวมเป็นเขตเดียว

ผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เรียงลำดับพรรคที่ได้รับผู้แทนราษฎรจากมากไปหาน้อยได้ดังนี้

1. พรรคเพื่อไทย ได้ผู้แทนราษฎร 265 คน

2. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ผู้แทนราษฎร 159 คน

3.พรรคภูมิใจไทย ได้ผู้แทนราษฎร 34 คน

4. พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ผู้แทนราษฎร 19 คน

5. พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ผู้แทนราษฎร 7 คน

6. พรรคพลังชล ได้ผู้แทนราษฎร 7 คน

7. [[พรรครักประเทศไทย ]]ได้ผู้แทนราษฎร 4 คน

8. พรรคมาตุภูมิ ได้ผู้แทนราษฎร 2 คน

9. พรรครักษ์สันติ ได้ผู้แทนราษฎร 1 คน

10. พรรคมหาชน ได้ผู้แทนราษฎร 1 คน

11. พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้ผู้แทนราษฎร 1 คน

เมื่อมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหยั่งเสียงหาตัวนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554 หลังการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยและประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ สภาผู้แทนราษฎรก็ได้มีมติเลือก นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย