ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
'''ผู้เรียบเรียง''' ศุภพรรัตน์ สุขพุ่ม
'''ผู้เรียบเรียง''' ศุภพรรัตน์ สุขพุ่ม
----


'''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง  
'''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง  
บรรทัดที่ 160: บรรทัดที่ 162:


[[category:การแก้ไขรัฐธรรมนูญ]]
[[category:การแก้ไขรัฐธรรมนูญ]]
[[หมวดหมู่:ศุภพรรัตน์ สุขพุ่ม]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 15:30, 7 ตุลาคม 2554

ผู้เรียบเรียง ศุภพรรัตน์ สุขพุ่ม


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง


รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่สามารถปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมืองในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นมักกำหนดให้ทำได้ยากกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายธรรมดา [1] ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจะกำหนดหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขไว้

ความหมาย

การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมายถึง การเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขถ้อยคำ ข้อความหรือเนื้อหาในรัฐธรรมนูญที่มีอยู่เดิมแล้ว หรือเป็นการเพิ่มเติมถ้อยคำ ข้อความหรือเนื้อหาใหม่เข้าไป ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น [2]

การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา

ตามประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศไทย มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หรือหลายประเด็น หรือแก้ไขทั้งฉบับโดยการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแต่ละครั้ง มีสาระสำคัญ ดังนี้

1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 [3] มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 3 ครั้ง คือ

ครั้งที่ 1 รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยนามประเทศ พุทธศักราช 2482 [4] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2482 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ แก้ไขนามประเทศ จาก “สยาม” เป็น “ไทย”

ครั้งที่ 2 รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยบทเฉพาะกาล พุทธศักราช 2483 [5]ประกาศใช้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2483 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การขยายระยะเวลาการมีสมาชิกประเภทที่ 2 ที่มาจากการแต่งตั้ง จาก 10 ปีขยายเป็น 20 ปี และเมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวให้เหลือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งประเภทเดียว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ที่สงครามเริ่มขยายตัวเข้ามาถึงประเทศไทย

ครั้งที่ 3 รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพุทธศักราช 2485 [6]ประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2485 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ออกไปอีกคราวละไม่เกิน 2 ปี และถ้าตำแหน่งว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทน แต่ให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากำหนดเวลาของผู้ที่เข้ามาแทน สาเหตุสำคัญที่มีการขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง จากการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งการขยายระยะเวลาดังกล่าวมี 2 ครั้ง คือ ในปีพ.ศ. 2485 และ พ.ศ. 2487

2. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว พุทธศักราช 2490)[7] มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 3 ครั้ง คือ

ครั้งที่ 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2490 [8] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2490 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ แก้ไขวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน โดยให้ใช้วิธีการเลือกตั้งแบบรวมเขตจังหวัด และกำหนดจำนวนราษฎรสองแสนคนต่อสมาชิกสภาผู้แทน 1 คน และ ตลอดจนกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งให้มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี

ครั้งที่ 2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 2) พ.ศ. 2491 [9] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การแก้ไขกำหนดเวลาในการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร และวิธีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร โดยกำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 180 วัน

ครั้งที่ 3 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2491 [10] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2491 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การกำหนดให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญมีเอกสิทธิ์ และได้รับความคุ้มกันเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517 [11] มีการแก้ไขเพิ่มเติม 1 ครั้ง คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2518 [12] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2518 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การแก้ไขให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาแทนประธานองคมนตรี

4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521 [13] มีการแก้ไขเพิ่มเติม 2 ครั้ง คือ

ครั้งที่ 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2528 [14] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2528 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ แก้ไขวิธีการเลือกตั้ง ซึ่งแต่เดิมเป็นแบบรวมเขตโดยถือเอาจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งตามจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเปลี่ยนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นคณะตามบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองส่งเข้าสมัครรับเลือกตั้ง เป็นการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรายบุคคล

ครั้งที่ 2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พุทธศักราช 2532 [15] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2532 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ แก้ไขให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา และให้ประธานวุฒิสภาเป็นรองประธานรัฐสภา และให้นำข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาใช้บังคับในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา

5. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534 [16] มีการแก้ไขเพิ่มเติม 6 ครั้ง คือ

ครั้งที่ 1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1)พุทธศักราช 2535 [17] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ แก้ไขให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา และประธานวุฒิสภาเป็นรองประธานรัฐสภา รวมทั้งแก้ไของค์ประกอบของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

ครั้งที่ 2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พุทธศักราช 2535 [18] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ กำหนดให้ปีหนึ่งมีสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาสองสมัย และการประชุมในสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สองของรัฐสภา วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร สามารถพิจารณาเรื่องต่างๆ ได้เช่นเดียวกับสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง

ครั้งที่ 3 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3)พุทธศักราช 2535 [19] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การยกเลิกอำนาจของวุฒิสภาในการเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นในปัญหาอันเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน และบทบัญญัติที่ให้วุฒิสภามีสิทธิเข้าชื่อในการขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะ

ครั้งที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4)พุทธศักราช 2535 [20] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ การกำหนดคุณสมบัติของผู้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ครั้งที่ 5 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5)พุทธศักราช 2538 [21] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนสำคัญเกือบทั้งฉบับ ตั้งแต่มาตรา 24 ถึงมาตรา 211 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ แสดงถึงความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ โดยมีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้

1)รัฐสภา ประกอบด้วย วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร โดยแก้ไขเกี่ยวกับที่มา คุณสมบัติ และวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา

2)องค์ประกอบของคณะรัฐมนตรี โดยกำหนดให้คณะรัฐมนตรี ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 48 คน และให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี

3)พรรคการเมือง กำหนดให้พรรคการเมืองต้องส่งสมาชิกเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดรวมกันไม่น้อยกว่า หนึ่งในสี่ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดที่จะพึงมีในการเลือกตั้งครั้งนั้น และต้องส่งสมัครรับเลือกตั้งให้ครบจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะพึงมีได้ในแต่ละเขตเลือกตั้ง และจะส่งได้คณะเดียวในเขตเลือกตั้งหนึ่งเขต และเมื่อพรรคการเมืองใดส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งแล้ว จะถอนการสมัครรับเลือกตั้งมิได้

4)เมื่อมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร กำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่ ภายในหกสิบวัน

5)คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยกำหนดอายุของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง

6)ให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการรัฐสภา และศาลปกครอง

ครั้งที่ 6 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6)พุทธศักราช 2539 [22] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2539 มีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่จัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุมัติรัฐธรรมนูญโดยการออกเสียงประชามติ

6. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 [23] มีการแก้ไขเพิ่มเติม 1 ครั้ง คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1)พุทธศักราช 2548 [24] ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 โดยมีประเด็นสำคัญในการแก้ไขเพิ่มเติม คือ แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่กำหนดให้มีกรรมการสรรหามาจากผู้แทนพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคละหนึ่งคนซึ่งเลือกกันเองให้เหลือห้าคนเป็นกรรมการด้วย แต่ในขณะนั้นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีเพียงสี่พรรคการเมือง ทำให้ไม่อาจดำเนินการให้มีองค์ประกอบคณะกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ครบถ้วนตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงสมควรแก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหา เพื่อให้สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปได้

การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550

[25]

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 291 ได้บัญญัติให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องกระทำตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้

(1) ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย

ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปของรัฐ จะเสนอมิได้

(2) ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องเสนอเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมและให้รัฐสภาพิจารณาเป็นสามวาระ

(3) การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการ ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

(4) การพิจารณาในวาระที่สองขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมด้วย

การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สองขั้นพิจารณาเรียงลำดับมาตรา ให้ถือเอาเสียงข้างมากเป็นประมาณ

(5) เมื่อการพิจารณาวาระที่สองเสร็จสิ้นแล้ว ให้รอไว้สิบห้าวัน เมื่อพ้นกำหนดนี้แล้วให้รัฐสภาพิจารณาในวาระที่สามต่อไป

(6) การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้าย ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา

(7) เมื่อการลงมติได้เป็นไปตามที่กล่าวแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างนั้นจากรัฐสภา เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย หากพระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อพ้น 90 วันแล้ว มิได้พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่างรัฐธรรมนูญนั้นใหม่ ถ้ายืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งสองสภา ให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายอีกครั้งหนึ่ง เมื่อครบกำหนด 30 วันแล้ว พระมหากษัตริย์มิได้ทรงลงพระปรมาภิไธย พระราชทานคืนมายังรัฐสภา ให้นายกรัฐมนตรีนำร่างรัฐธรรมนูญนั้นประกาศในราชกิจจานุเบกษาใช้บังคับเป็นกฎหมายสูงสุดได้ เสมือนหนึ่งว่าพระมหากษัตริย์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

หลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีอยู่สองการคือ ให้แก้ไขได้ง่ายและแก้ไขได้ยาก ซึ่งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้ใช้หลักการแก้ไขได้ง่าย โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้บัญญัติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้นกว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยบัญญัติเพิ่มให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อ เสนอกฎหมาย สามารถเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ และผู้เข้าชื่อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญต้องตั้งตัวแทนเข้าชี้แจงเหตุผลและร่วมเป็นกรรมาธิการเพื่อพิจารณาแก้ไขด้วย [26]

อ้างอิง

  1. กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) หมวดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เรื่อง 4. การจัดทำและแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ, กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544, หน้า 39-59.
  2. กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) หมวดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เรื่อง 4. การจัดทำและแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ, กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2544, หน้า 39-59.
  3. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 49, หน้า 529. วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475.
  4. รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยนามประเทศ พุทธศักราช 2482. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56, หน้า 980. วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2482.
  5. รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยบทเฉพาะกาล พุทธศักราช 2483. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 57, หน้า 461. วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2483.
  6. รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2485. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 75 เล่ม 59, วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2485.
  7. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 53 เล่ม 64,วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490
  8. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2490. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 60 เล่ม 64,วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2490.
  9. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 2)พ.ศ. 2491. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 เล่ม 65, วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491.
  10. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2491. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 48 เล่ม 65, วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2491.
  11. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 169 เล่ม 91, วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2517.
  12. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2518. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 14 เล่ม 92, วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2518.
  13. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 146 (ฉบับพิเศษ) เล่ม 95, วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2521.
  14. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2528. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 105 เล่ม 102, วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2528.
  15. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พุทธศักราช 2532. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 142 เล่ม 106, วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2532.
  16. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 216 เล่ม 108, วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2534, หน้า 1.
  17. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 72 เล่ม 109, วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535, หน้า 1.
  18. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 72 เล่ม 109, วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535, หน้า 5.
  19. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 72 เล่ม 109, วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535, หน้า 8.
  20. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 95 เล่ม 109, วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535, หน้า 1.
  21. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2538. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 ก เล่ม 112, วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538, หน้า 1.
  22. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2539. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 53 ก เล่ม 113, วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2539, หน้า 1.
  23. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 55 ก เล่ม 114, วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2540, หน้า 1.
  24. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2548. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 55 ก เล่ม 122, วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2548, หน้า 1.
  25. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 47 ก เล่ม 124, วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550, หน้า 1.
  26. คณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุ และตรวจรายงานการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญ. เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. กรุงเทพฯ : สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, หน้า 284-285.

หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ

กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์. (2544). สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) หมวดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เรื่อง 4. การจัดทำและแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา.

คณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุ และตรวจรายงานการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญ. (2550). เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. กรุงเทพฯ : สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

พูนศักดิ์ ไวสำรวจ. (2540). รายงานการวิจัย รูปแบบและวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ. เสนอคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

บรรณานุกรม

กาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์. (2544). สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) หมวดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เรื่อง 4. การจัดทำและแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา.

คณะกรรมาธิการวิสามัญบันทึกเจตนารมณ์ จดหมายเหตุ และตรวจรายงานการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญ. (2550). เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. กรุงเทพฯ : สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

พูนศักดิ์ ไวสำรวจ. (2540). รายงานการวิจัย รูปแบบและวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ. เสนอคณะกรรมการพัฒนาประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 49. วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475.

รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยนามประเทศ พุทธศักราช 2482. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56. วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2482.

รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยบทเฉพาะกาล พุทธศักราช 2483. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 57. วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2483.

รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2485. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 75 เล่ม 59. วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2485.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 53 เล่ม 64. วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2490. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 60 เล่ม 64. วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2490.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 2) พ.ศ. 2491. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 เล่ม 65. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉะบับชั่วคราว) แก้ไขเพิ่มเติม (ฉะบับที่ 3) พ.ศ. 2491. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 48 เล่ม 65. วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2491.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 169 เล่ม 91. วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2517.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2518. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 14 เล่ม 92. วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2518.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2521. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 146 (ฉบับพิเศษ) เล่ม 95. วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2521.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2528. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 105 เล่ม 102. วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2528.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พุทธศักราช 2532. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 142 เล่ม 106. วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2532.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2534. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 216 เล่ม 108. วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2534.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 72 เล่ม 109. วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 72 เล่ม 109. วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 72 เล่ม 109. วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2535.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2535. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 75 เล่ม 105. วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2538. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 ก เล่ม 112. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2539. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 53 ก เล่ม 113. วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 25239.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 55 ก เล่ม 114. วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2540.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2548. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 55 ก เล่ม 122. วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2548.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 47 ก เล่ม 124. วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550.