ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ธรรมนูญ เทียนเงิน"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
ผู้เรียบเรียง : ผศ.ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว | ผู้เรียบเรียง : ผศ.ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว | ||
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศ.นรนิติ เศรษฐบุตร | ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศ.นรนิติ เศรษฐบุตร | ||
---- | ---- | ||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
<u>'''''นายธรรมนูญ เทียนเงิน[[#_ftn1|[1]]]'''''</u> | <u>'''''นายธรรมนูญ เทียนเงิน[[#_ftn1|[1]]]'''''</u> | ||
“นักเลงเก้ายอด” เป็นสมญาและภาพจำของนักการเมืองผู้มีลีลาการปราศรัยที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ “นายธรรมนูญ เทียนเงิน” นักการเมืองคนสำคัญของการเมืองไทย ที่เติบโตมาจากการเป็นนักเลง กระทั่งเข้าสู่เส้นทางการเมือง และเติบใหญ่ในเส้นทางสายนี้ | “นักเลงเก้ายอด” เป็นสมญาและภาพจำของนักการเมืองผู้มีลีลาการปราศรัยที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ “นายธรรมนูญ เทียนเงิน” นักการเมืองคนสำคัญของการเมืองไทย ที่เติบโตมาจากการเป็นนักเลง กระทั่งเข้าสู่เส้นทางการเมือง และเติบใหญ่ในเส้นทางสายนี้ จนได้เป็น[[เลขาธิการพรรค]][[ประชาธิปัตย์]] ในช่วงปี พ.ศ. 2513 – 2518 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ถือเป็นนักปราศรัยคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมักจะปราศรัยโจมตีรัฐบาลทหารของ[[ถนอม_กิตติขจร|จอมพล ถนอม กิตติขจร]] และ[[ประภาส_จารุเสถียร|จอมพล ประภาส จารุเสถียร]] อยู่เสมอ จนกระทั่งรัฐบาลทหารต้องออกจากอำนาจด้วยพลังของนิสิต นักศึกษา และประชาชน ในเหตุการณ์ “[[วันมหาวิปโยค_14_ตุลาคม_พ.ศ._2516]]” หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไป นายธรรมนูญ เทียนเงิน ก็ยังคงมีบทบาททางการเมืองอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปี พ.ศ. 2518 ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้ว นายธรรมนูญ เทียนเงินได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเป็น “[[ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร]]คนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง” | ||
<u>ประวัติการศึกษาและชีวิตครอบครัว</u> | <u>ประวัติการศึกษาและชีวิตครอบครัว</u> | ||
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2456 ที่จังหวัดชลบุรี บุตรของหลวงธรรมโสภิณ (บำรุง เทียนเงิน) กับ นางแดง เทียนเงิน สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมบริบูรณ์ จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ. 2474 ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2475 – 2480 ถูกเนรเทศไปอยู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากรัฐบาลในขณะนั้น มีการกวาดล้างผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ซึ่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว และเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาของการถูกเนรเทศ นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาธรรมศาสตรบัณฑิต วิชากฎหมาย ในปี พ.ศ. 2485[[#_ftn2|[2]]] | นายธรรมนูญ เทียนเงิน เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2456 ที่จังหวัดชลบุรี บุตรของหลวงธรรมโสภิณ (บำรุง เทียนเงิน) กับ นางแดง เทียนเงิน สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมบริบูรณ์ จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ. 2474 ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2475 – 2480 ถูกเนรเทศไปอยู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากรัฐบาลในขณะนั้น มีการกวาดล้างผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ซึ่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว และเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาของการถูกเนรเทศ นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าศึกษาต่อ ณ [[มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง]] จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาธรรมศาสตรบัณฑิต วิชากฎหมาย ในปี พ.ศ. 2485[[#_ftn2|[2]]] | ||
นายธรรมนูญ เทียนเงิน สมรสครั้งแรกกับนางสมพร เทียนเงิน มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คน คือ นายทิษณุ เทียนเงิน นางพรทิพย์ ชวนเวช และนายธรรมศักดิ์ เทียนเงิน ต่อมาได้สมรสครั้งที่สองกับนางองค์อร เทียนเงิน มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คน คือ นางเอกเอื้อย แสงหิรัญ นายอานนท์ เทียนเงิน และนายอรพงศ์ เทียนเงิน[[#_ftn3|[3]]] นายธรรมนูญ เทียนเงิน ถึงแก่กรรมด้วยอาการโลหิตเป็นพิษ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 เวลา 22.00 น. สิริรวมอายุ 76 ปี[[#_ftn4|[4]]] | นายธรรมนูญ เทียนเงิน สมรสครั้งแรกกับนางสมพร เทียนเงิน มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คน คือ นายทิษณุ เทียนเงิน นางพรทิพย์ ชวนเวช และนายธรรมศักดิ์ เทียนเงิน ต่อมาได้สมรสครั้งที่สองกับนางองค์อร เทียนเงิน มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คน คือ นางเอกเอื้อย แสงหิรัญ นายอานนท์ เทียนเงิน และนายอรพงศ์ เทียนเงิน[[#_ftn3|[3]]] นายธรรมนูญ เทียนเงิน ถึงแก่กรรมด้วยอาการโลหิตเป็นพิษ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 เวลา 22.00 น. สิริรวมอายุ 76 ปี[[#_ftn4|[4]]] | ||
บรรทัดที่ 20: | บรรทัดที่ 20: | ||
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เริ่มงานครั้งแรกในตำแหน่งเลขานุการ ในบริษัทไทยประกันชีวิต ในปี พ.ศ. 2486 และต่อมาได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ต่อมาในปี พ.ศ.2487 ได้ย้ายไปเป็นเลขานุการธนาคารกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากผู้จัดการบริษัทไทยประกันชีวิตได้เปิดธนาคารขึ้นใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองกลางธนาคารกรุงศรีอยุธยาเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง และในปี พ.ศ. 2501 ได้ย้ายจากตำแหน่งเลขานุการธนาคารและหัวหน้ากองกลาง ไปเป็นผู้ตรวจการธนาคาร และในปี พ.ศ. 2502 ธนาคารได้ยุบตำแหน่งผู้ตรวจการธนาคาร ส่งผลให้นายธรรมนูญ เทียนเงินต้องออกจากการทำงานในธนาคาร[[#_ftn5|[5]]] | นายธรรมนูญ เทียนเงิน เริ่มงานครั้งแรกในตำแหน่งเลขานุการ ในบริษัทไทยประกันชีวิต ในปี พ.ศ. 2486 และต่อมาได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ต่อมาในปี พ.ศ.2487 ได้ย้ายไปเป็นเลขานุการธนาคารกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากผู้จัดการบริษัทไทยประกันชีวิตได้เปิดธนาคารขึ้นใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองกลางธนาคารกรุงศรีอยุธยาเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง และในปี พ.ศ. 2501 ได้ย้ายจากตำแหน่งเลขานุการธนาคารและหัวหน้ากองกลาง ไปเป็นผู้ตรวจการธนาคาร และในปี พ.ศ. 2502 ธนาคารได้ยุบตำแหน่งผู้ตรวจการธนาคาร ส่งผลให้นายธรรมนูญ เทียนเงินต้องออกจากการทำงานในธนาคาร[[#_ftn5|[5]]] | ||
นายธรรมนูญ เทียนเงิน | นายธรรมนูญ เทียนเงิน เริ่มต้นงานการเมืองด้วยการลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็น[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]จังหวัดชลบุรี ถึง 2 สมัย ต่อมาในการเลือกตั้งวันที่ [[10_กุมภาพันธ์_พ.ศ._2512]] นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนคร แต่ก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 2 ปี เท่านั้น เนื่องจากมี[[การยึดอำนาจ]]ตัวเองของจอมพล ถนอม กิตติขจร นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังได้รับการเลือกตั้งให้เป็น “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์” ในระหว่างปี พ.ศ. 2513 – 2518 โดยเป็นเลขาธิการพรรคคนที่ 5 ของพรรคประชาธิปัตย์[[#_ftn6|[6]]] เมื่อสิ้นสุดตำแหน่งเลขาธิการพรรคแล้วนั้น นายธรรมนูญ เทียนเงินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปี พ.ศ. 2518 ต่อมามีการเลือกตั้งวันที่ [[26_มกราคม_พ.ศ._2518]] นายธรรมนูญ เทียนเงิน ไม่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงข้างมาก และสามารถจัดตั้ง[[รัฐบาล]] โดยมี[[หม่อมราชวงศ์เสนีย์_ปราโมช]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] ซึ่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าร่วม[[คณะรัฐมนตรี]]ชุดนี้ด้วย โดยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่คณะรัฐมนตรีชุดนี้มีอายุอยู่เพียง 1 เดือนเท่านั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ไม่ได้รับความไว้วางใจจาก[[สภาผู้แทนราษฎร]][[#_ftn7|[7]]] | ||
ต่อมาในช่วงกลางปี พ.ศ. 2518 มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติส่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับการเลือกตั้งเป็น “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” นับว่าเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง[[#_ftn8|[8]]] และพ้นจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2520[[#_ftn9|[9]]] นับเป็นการสิ้นสุดบทบาททางการเมืองของนายธรรมนูญ เทียนเงินอีกด้วย นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังคงมีตำแหน่ง “ผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร” ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์วันที่ | ต่อมาในช่วงกลางปี พ.ศ. 2518 มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติส่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับการเลือกตั้งเป็น “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” นับว่าเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง[[#_ftn8|[8]]] และพ้นจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2520[[#_ftn9|[9]]] นับเป็นการสิ้นสุดบทบาททางการเมืองของนายธรรมนูญ เทียนเงินอีกด้วย นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังคงมีตำแหน่ง “ผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร” ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์วันที่ [[6_ตุลาคม_พ.ศ._2519]][[#_ftn10|[10]]] | ||
<u>ผลงานที่สำคัญในทางการเมือง</u> | <u>ผลงานที่สำคัญในทางการเมือง</u> | ||
บรรทัดที่ 28: | บรรทัดที่ 28: | ||
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นนักการเมืองที่มีลีลาการปราศรัยถูกใจประชาชน สามารถสร้างความนิยมให้ประชาชนได้ โดยในสมัยแรกนายธรรมนูญ เทียนเงินได้ปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร โดยเฉพาะการโจมตีจอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่เป็นไปอย่างดุเดือด แต่ทั้งนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน และจอมพล ประภาส เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาในวัยเยาว์ดังที่นายธรรมนูญ เทียนเงินมักจะเรียกจอมพลประภาสว่า “เพื่อนของผม”[[#_ftn11|[11]]] การปราศรัยโจมตีรัฐบาลทหารอยู่บ่อยครั้งเช่นนี้ ส่งผลให้ในที่สุดจอมพล ถนอม กิตติขจร ได้ตัดสินใจทำการยึดอำนาจตนเอง ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โดยให้เหตุผลว่า “นักการเมืองด่าว่าหัวหน้ารัฐบาลอย่างรุนแรง”[[#_ftn12|[12]]] | นายธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นนักการเมืองที่มีลีลาการปราศรัยถูกใจประชาชน สามารถสร้างความนิยมให้ประชาชนได้ โดยในสมัยแรกนายธรรมนูญ เทียนเงินได้ปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร โดยเฉพาะการโจมตีจอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่เป็นไปอย่างดุเดือด แต่ทั้งนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน และจอมพล ประภาส เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาในวัยเยาว์ดังที่นายธรรมนูญ เทียนเงินมักจะเรียกจอมพลประภาสว่า “เพื่อนของผม”[[#_ftn11|[11]]] การปราศรัยโจมตีรัฐบาลทหารอยู่บ่อยครั้งเช่นนี้ ส่งผลให้ในที่สุดจอมพล ถนอม กิตติขจร ได้ตัดสินใจทำการยึดอำนาจตนเอง ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โดยให้เหตุผลว่า “นักการเมืองด่าว่าหัวหน้ารัฐบาลอย่างรุนแรง”[[#_ftn12|[12]]] | ||
เมื่อรัฐบาลทหารของจอมพล ถนอม กิตติขจร พ้นจากอำนาจภายหลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ส่งผลให้จอมพล ถนอม กิตติขจร ต้องเดินทางออกไปต่างประเทศ ระหว่างนั้นนายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จนกระทั่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2518 | เมื่อรัฐบาลทหารของจอมพล ถนอม กิตติขจร พ้นจากอำนาจภายหลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ส่งผลให้จอมพล ถนอม กิตติขจร ต้องเดินทางออกไปต่างประเทศ ระหว่างนั้นนายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จนกระทั่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็น[[การเลือกตั้งแบบแบ่งเขต]]เป็นครั้งแรก โดยนายธรรมนูญ เทียนเงินลงสมัครในเขต 1 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตทหาร แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในกลางปี พ.ศ. 2518 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง[[#_ftn13|[13]]] | ||
ในช่วงเวลาที่นายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอยู่นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ทางการเมืองมีความร้อนแรงอย่างยิ่ง โดยในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2519 กลุ่มนักศึกษาและประชาชนได้มีกระแสต่อต้านการเข้ามาของจอมพล ถนอม กิตติขจร ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุเข้ามายังวัดบวรนิเวศวิหาร ขณะเดียวกัน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์แตกออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มปีกซ้ายประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย นายดำรง ลัทธพิพัฒน์ นายชวน หลีกภัย นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ฯลฯ และกลุ่มปีกขวาประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย นายธรรมนูญ เทียนเงิน นายสมบุญ ศิริธร นายสมัคร สุนทรเวช ฯลฯ ทั้งนี้ นายธรรมนูญ เทียนเงิน ซึ่งมีตำแหน่งทั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร มีภาพที่ชัดเจนในการเป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ส. กลุ่มปีกซ้ายประชาธิปัตย์[[#_ftn14|[14]]] | ในช่วงเวลาที่นายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอยู่นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ทางการเมืองมีความร้อนแรงอย่างยิ่ง โดยในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2519 กลุ่มนักศึกษาและประชาชนได้มีกระแสต่อต้านการเข้ามาของจอมพล ถนอม กิตติขจร ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุเข้ามายังวัดบวรนิเวศวิหาร ขณะเดียวกัน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์แตกออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มปีกซ้ายประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย [[ดำรง_ลัทธพิพัฒน์|นายดำรง ลัทธพิพัฒน์]] [[ชวน_หลีกภัย|นายชวน หลีกภัย]] [[สุรินทร์_มาศดิตถ์|นายสุรินทร์ มาศดิตถ์]] ฯลฯ และกลุ่มปีกขวาประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย นายธรรมนูญ เทียนเงิน [[สมบุญ_ศิริธร|นายสมบุญ ศิริธร]] [[สมัคร_สุนทรเวช|นายสมัคร สุนทรเวช]] ฯลฯ ทั้งนี้ นายธรรมนูญ เทียนเงิน ซึ่งมีตำแหน่งทั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร มีภาพที่ชัดเจนในการเป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ส. กลุ่มปีกซ้ายประชาธิปัตย์[[#_ftn14|[14]]] | ||
เมื่อเหตุการณ์ได้ลุกลามไปจนเกิดการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาและประชาชน กระทั่งนำมาสู่การล้อมปราบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นายธรรมนูญ เทียนเงิน มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร ซึ่งกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน เป็น 1 ในกลุ่มของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เข้ามาล้อมปราบนักศึกษาในครั้งนี้ด้วย โดยในช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้นายธรรมนูญ เทียนเงิน เข้าเฝ้าฯ และมีรับสั่งเกี่ยวกับการที่มีลูกเสือชาวบ้านจากต่างจังหวัดนับหมื่นคนมาชุมนุม โดยให้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ชี้แจงแก่ลูกเสือชาวบ้านให้สลายตัว ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฏราชกุมาร ได้เสด็จพร้อมกับนายธรรมนูญ เทียนเงิน มายังที่ชุมนุมลูกเสือชาวบ้าน และมีพระราชดำรัสให้ลูกเสือชาวบ้านสลายการชุมนุม[[#_ftn15|[15]]] | เมื่อเหตุการณ์ได้ลุกลามไปจนเกิดการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาและประชาชน กระทั่งนำมาสู่การล้อมปราบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นายธรรมนูญ เทียนเงิน มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร ซึ่งกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน เป็น 1 ในกลุ่มของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เข้ามาล้อมปราบนักศึกษาในครั้งนี้ด้วย โดยในช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้นายธรรมนูญ เทียนเงิน เข้าเฝ้าฯ และมีรับสั่งเกี่ยวกับการที่มีลูกเสือชาวบ้านจากต่างจังหวัดนับหมื่นคนมาชุมนุม โดยให้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ชี้แจงแก่ลูกเสือชาวบ้านให้สลายตัว ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฏราชกุมาร ได้เสด็จพร้อมกับนายธรรมนูญ เทียนเงิน มายังที่ชุมนุมลูกเสือชาวบ้าน และมีพระราชดำรัสให้ลูกเสือชาวบ้านสลายการชุมนุม[[#_ftn15|[15]]] | ||
นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งที่นายสมัคร ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายธรรมนูญ เทียนเงิน มีศักดิ์เป็นอาของนายสมัคร สุนทรเวช และเป็นที่มาให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น เรียกขานนายธรรมนูญ เทียนเงิน ด้วยความเคารพว่า “คุณอา”[[#_ftn16|[16]]] นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้รับฉายาว่า | นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งที่นายสมัคร ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายธรรมนูญ เทียนเงิน มีศักดิ์เป็นอาของนายสมัคร สุนทรเวช และเป็นที่มาให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น เรียกขานนายธรรมนูญ เทียนเงิน ด้วยความเคารพว่า “คุณอา”[[#_ftn16|[16]]] นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้รับฉายาว่า “[[นักเลงเก้ายอด]]” เนื่องจากพฤติกรรมในช่วงวัยรุ่นนั้น มีลักษณะของการเป็นนักเลงที่ผ่านการทะเลาะวิวาทมามากมายในสมัยวัยรุ่น จนกระทั่งได้รับการกล่าวขานว่า “เก้ายอด” ซึ่งถือว่าเป็นที่สุดของวงการนักเลง[[#_ftn17|[17]]] | ||
'''<u>บรรณานุกรม</u>''' | '''<u>บรรณานุกรม</u>''' | ||
ทองทิว สุวรรณฑัต, '''วิญญาณมีจริงหรือไม่ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายธรรมนูญ ''' '''เทียนเงิน''', (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2532). | ทองทิว สุวรรณฑัต, '''วิญญาณมีจริงหรือไม่ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายธรรมนูญ ''' '''เทียนเงิน''', (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2532). | ||
ธรรมนูญยืนยันไม่ยอมอ่อนข้อ, '''ประชาธิปไตย''' (2 กันยายน 2519). | ธรรมนูญยืนยันไม่ยอมอ่อนข้อ, '''ประชาธิปไตย''' (2 กันยายน 2519). | ||
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, '''สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย''', (กรุงเทพฯ : มูลนิธิสายธาร ประชาธิปไตย, 2551). | สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, '''สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย''', (กรุงเทพฯ : มูลนิธิสายธาร ประชาธิปไตย, 2551). | ||
'''<u>เว็บไซต์</u>''' | '''<u>เว็บไซต์</u>''' | ||
ประวัติพรรคประชาธิปัตย์, เข้าถึงจาก <http://www.democrat.or.th/th/about/history/> เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | ประวัติพรรคประชาธิปัตย์, เข้าถึงจาก <[http://www.democrat.or.th/th/about/history/ http://www.democrat.or.th/th/about/history/]> เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | ||
นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง โรงเรียนเทพศิรินทร์, เข้าถึงจาก <http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622> เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง โรงเรียนเทพศิรินทร์, เข้าถึงจาก <[http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622 http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622]> เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | ||
<div><u>'''อ้างอิง'''</u> <div id="ftn1"> | <div><u>'''อ้างอิง'''</u> <div id="ftn1"> | ||
[[#_ftnref1|[1]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, วิญญาณมีจริงหรือไม่ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายธรรมนูญ เทียนเงิน, (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2532), น. 13. | [[#_ftnref1|[1]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, วิญญาณมีจริงหรือไม่ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายธรรมนูญ เทียนเงิน, (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2532), น. 13. | ||
</div> <div id="ftn2"> | </div> <div id="ftn2"> | ||
[[#_ftnref2|[2]]] เพิ่งอ้าง, น. 4. | [[#_ftnref2|[2]]] เพิ่งอ้าง, น. 4. | ||
บรรทัดที่ 60: | บรรทัดที่ 60: | ||
[[#_ftnref5|[5]]] เพิ่งอ้าง, น. 4. | [[#_ftnref5|[5]]] เพิ่งอ้าง, น. 4. | ||
</div> <div id="ftn6"> | </div> <div id="ftn6"> | ||
[[#_ftnref6|[6]]] ประวัติพรรคประชาธิปัตย์, เข้าถึงจาก http://www.democrat.or.th/th/about/history/ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref6|[6]]] ประวัติพรรคประชาธิปัตย์, เข้าถึงจาก [http://www.democrat.or.th/th/about/history/ http://www.democrat.or.th/th/about/history/] เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | ||
</div> <div id="ftn7"> | </div> <div id="ftn7"> | ||
[[#_ftnref7|[7]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 5. | [[#_ftnref7|[7]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 5. | ||
</div> <div id="ftn8"> | </div> <div id="ftn8"> | ||
[[#_ftnref8|[8]]] ศูนย์ข้อมูลกรุงเทพมหานคร, เข้าถึงจาก http://www.bangkok.go.th/info/ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref8|[8]]] ศูนย์ข้อมูลกรุงเทพมหานคร, เข้าถึงจาก [http://www.bangkok.go.th/info/ http://www.bangkok.go.th/info/] เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | ||
</div> <div id="ftn9"> | </div> <div id="ftn9"> | ||
[[#_ftnref9|[9]]] เพิ่งอ้าง. | [[#_ftnref9|[9]]] เพิ่งอ้าง. | ||
</div> <div id="ftn10"> | </div> <div id="ftn10"> | ||
[[#_ftnref10|[10]]] สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย,(กรุงเทพฯ : มูลนิธิสายธารประชาธิปไตย, 2551), น. 156-157. | [[#_ftnref10|[10]]] สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย,(กรุงเทพฯ : มูลนิธิสายธารประชาธิปไตย, 2551), น. 156-157. | ||
</div> <div id="ftn11"> | </div> <div id="ftn11"> | ||
[[#_ftnref11|[11]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 13. | [[#_ftnref11|[11]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 13. | ||
บรรทัดที่ 78: | บรรทัดที่ 78: | ||
[[#_ftnref14|[14]]] ธรรมนูญยืนยันไม่ยอมอ่อนข้อ, ประชาธิปไตย (2 กันยายน 2519), น. 1. | [[#_ftnref14|[14]]] ธรรมนูญยืนยันไม่ยอมอ่อนข้อ, ประชาธิปไตย (2 กันยายน 2519), น. 1. | ||
</div> <div id="ftn15"> | </div> <div id="ftn15"> | ||
[[#_ftnref15|[15]]] นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง โรงเรียนเทพศิรินทร์, เข้าถึงจาก http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | [[#_ftnref15|[15]]] นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง โรงเรียนเทพศิรินทร์, เข้าถึงจาก [http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622 http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622] เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559. | ||
</div> <div id="ftn16"> | </div> <div id="ftn16"> | ||
[[#_ftnref16|[16]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 17. | [[#_ftnref16|[16]]] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 17. | ||
บรรทัดที่ 84: | บรรทัดที่ 84: | ||
[[#_ftnref17|[17]]] เพิ่งอ้าง, น. 10. | [[#_ftnref17|[17]]] เพิ่งอ้าง, น. 10. | ||
</div> </div> | </div> </div> | ||
| |||
[[Category:สมาชิกคณะราษฎร]] | [[Category:สมาชิกคณะราษฎร]] | ||
[[Category:บุคคลสำคัญด้านอื่นๆ]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:53, 12 มีนาคม 2561
ผู้เรียบเรียง : ผศ.ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศ.นรนิติ เศรษฐบุตร
“ไอ้จอมพลเพื่อนผมคนนี้
มันคือ สมเด็จเจ้าพระยาจอมพลประภาส
จารุเสถียร มเหี้ยมมหึมา”
นายธรรมนูญ เทียนเงิน[1]
“นักเลงเก้ายอด” เป็นสมญาและภาพจำของนักการเมืองผู้มีลีลาการปราศรัยที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ “นายธรรมนูญ เทียนเงิน” นักการเมืองคนสำคัญของการเมืองไทย ที่เติบโตมาจากการเป็นนักเลง กระทั่งเข้าสู่เส้นทางการเมือง และเติบใหญ่ในเส้นทางสายนี้ จนได้เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงปี พ.ศ. 2513 – 2518 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ถือเป็นนักปราศรัยคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมักจะปราศรัยโจมตีรัฐบาลทหารของจอมพล ถนอม กิตติขจร และจอมพล ประภาส จารุเสถียร อยู่เสมอ จนกระทั่งรัฐบาลทหารต้องออกจากอำนาจด้วยพลังของนิสิต นักศึกษา และประชาชน ในเหตุการณ์ “วันมหาวิปโยค_14_ตุลาคม_พ.ศ._2516” หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านพ้นไป นายธรรมนูญ เทียนเงิน ก็ยังคงมีบทบาททางการเมืองอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปี พ.ศ. 2518 ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อพ้นจากตำแหน่งแล้ว นายธรรมนูญ เทียนเงินได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเป็น “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง”
ประวัติการศึกษาและชีวิตครอบครัว
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2456 ที่จังหวัดชลบุรี บุตรของหลวงธรรมโสภิณ (บำรุง เทียนเงิน) กับ นางแดง เทียนเงิน สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมบริบูรณ์ จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ในปี พ.ศ. 2474 ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2475 – 2480 ถูกเนรเทศไปอยู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากรัฐบาลในขณะนั้น มีการกวาดล้างผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ซึ่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว และเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาของการถูกเนรเทศ นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง จนกระทั่งสำเร็จการศึกษาธรรมศาสตรบัณฑิต วิชากฎหมาย ในปี พ.ศ. 2485[2]
นายธรรมนูญ เทียนเงิน สมรสครั้งแรกกับนางสมพร เทียนเงิน มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คน คือ นายทิษณุ เทียนเงิน นางพรทิพย์ ชวนเวช และนายธรรมศักดิ์ เทียนเงิน ต่อมาได้สมรสครั้งที่สองกับนางองค์อร เทียนเงิน มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คน คือ นางเอกเอื้อย แสงหิรัญ นายอานนท์ เทียนเงิน และนายอรพงศ์ เทียนเงิน[3] นายธรรมนูญ เทียนเงิน ถึงแก่กรรมด้วยอาการโลหิตเป็นพิษ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 เวลา 22.00 น. สิริรวมอายุ 76 ปี[4]
หน้าที่การงานและตำแหน่งทางการเมืองที่สำคัญ
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เริ่มงานครั้งแรกในตำแหน่งเลขานุการ ในบริษัทไทยประกันชีวิต ในปี พ.ศ. 2486 และต่อมาได้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ต่อมาในปี พ.ศ.2487 ได้ย้ายไปเป็นเลขานุการธนาคารกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากผู้จัดการบริษัทไทยประกันชีวิตได้เปิดธนาคารขึ้นใหม่ ต่อมาในปี พ.ศ. 2491 ได้รับตำแหน่งหัวหน้ากองกลางธนาคารกรุงศรีอยุธยาเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง และในปี พ.ศ. 2501 ได้ย้ายจากตำแหน่งเลขานุการธนาคารและหัวหน้ากองกลาง ไปเป็นผู้ตรวจการธนาคาร และในปี พ.ศ. 2502 ธนาคารได้ยุบตำแหน่งผู้ตรวจการธนาคาร ส่งผลให้นายธรรมนูญ เทียนเงินต้องออกจากการทำงานในธนาคาร[5]
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เริ่มต้นงานการเมืองด้วยการลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี ถึง 2 สมัย ต่อมาในการเลือกตั้งวันที่ 10_กุมภาพันธ์_พ.ศ._2512 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนคร แต่ก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 2 ปี เท่านั้น เนื่องจากมีการยึดอำนาจตัวเองของจอมพล ถนอม กิตติขจร นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังได้รับการเลือกตั้งให้เป็น “เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์” ในระหว่างปี พ.ศ. 2513 – 2518 โดยเป็นเลขาธิการพรรคคนที่ 5 ของพรรคประชาธิปัตย์[6] เมื่อสิ้นสุดตำแหน่งเลขาธิการพรรคแล้วนั้น นายธรรมนูญ เทียนเงินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปี พ.ศ. 2518 ต่อมามีการเลือกตั้งวันที่ 26_มกราคม_พ.ศ._2518 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ไม่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเสียงข้างมาก และสามารถจัดตั้งรัฐบาล โดยมีหม่อมราชวงศ์เสนีย์_ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีชุดนี้ด้วย โดยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่คณะรัฐมนตรีชุดนี้มีอายุอยู่เพียง 1 เดือนเท่านั้น เนื่องจากคณะรัฐมนตรีของหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ไม่ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎร[7]
ต่อมาในช่วงกลางปี พ.ศ. 2518 มีการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขึ้นเป็นครั้งแรก พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติส่งนายธรรมนูญ เทียนเงิน ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับการเลือกตั้งเป็น “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” นับว่าเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง[8] และพ้นจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2520[9] นับเป็นการสิ้นสุดบทบาททางการเมืองของนายธรรมนูญ เทียนเงินอีกด้วย นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังคงมีตำแหน่ง “ผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร” ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์วันที่ 6_ตุลาคม_พ.ศ._2519[10]
ผลงานที่สำคัญในทางการเมือง
นายธรรมนูญ เทียนเงิน เป็นนักการเมืองที่มีลีลาการปราศรัยถูกใจประชาชน สามารถสร้างความนิยมให้ประชาชนได้ โดยในสมัยแรกนายธรรมนูญ เทียนเงินได้ปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอมพล ถนอม กิตติขจร โดยเฉพาะการโจมตีจอมพล ประภาส จารุเสถียร ที่เป็นไปอย่างดุเดือด แต่ทั้งนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน และจอมพล ประภาส เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาในวัยเยาว์ดังที่นายธรรมนูญ เทียนเงินมักจะเรียกจอมพลประภาสว่า “เพื่อนของผม”[11] การปราศรัยโจมตีรัฐบาลทหารอยู่บ่อยครั้งเช่นนี้ ส่งผลให้ในที่สุดจอมพล ถนอม กิตติขจร ได้ตัดสินใจทำการยึดอำนาจตนเอง ในวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 โดยให้เหตุผลว่า “นักการเมืองด่าว่าหัวหน้ารัฐบาลอย่างรุนแรง”[12]
เมื่อรัฐบาลทหารของจอมพล ถนอม กิตติขจร พ้นจากอำนาจภายหลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ส่งผลให้จอมพล ถนอม กิตติขจร ต้องเดินทางออกไปต่างประเทศ ระหว่างนั้นนายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จนกระทั่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเป็นครั้งแรก โดยนายธรรมนูญ เทียนเงินลงสมัครในเขต 1 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเขตทหาร แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในกลางปี พ.ศ. 2518 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง[13]
ในช่วงเวลาที่นายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอยู่นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ทางการเมืองมีความร้อนแรงอย่างยิ่ง โดยในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2519 กลุ่มนักศึกษาและประชาชนได้มีกระแสต่อต้านการเข้ามาของจอมพล ถนอม กิตติขจร ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุเข้ามายังวัดบวรนิเวศวิหาร ขณะเดียวกัน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์แตกออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มปีกซ้ายประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย นายดำรง ลัทธพิพัฒน์ นายชวน หลีกภัย นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ ฯลฯ และกลุ่มปีกขวาประชาธิปัตย์ อันประกอบด้วย นายธรรมนูญ เทียนเงิน นายสมบุญ ศิริธร นายสมัคร สุนทรเวช ฯลฯ ทั้งนี้ นายธรรมนูญ เทียนเงิน ซึ่งมีตำแหน่งทั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร มีภาพที่ชัดเจนในการเป็นคู่ขัดแย้งกับ ส.ส. กลุ่มปีกซ้ายประชาธิปัตย์[14]
เมื่อเหตุการณ์ได้ลุกลามไปจนเกิดการชุมนุมประท้วงของนักศึกษาและประชาชน กระทั่งนำมาสู่การล้อมปราบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 นายธรรมนูญ เทียนเงิน มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้อำนวยการลูกเสือชาวบ้านพระนคร ซึ่งกลุ่มลูกเสือชาวบ้าน เป็น 1 ในกลุ่มของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่เข้ามาล้อมปราบนักศึกษาในครั้งนี้ด้วย โดยในช่วงเย็นของวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับสั่งให้นายธรรมนูญ เทียนเงิน เข้าเฝ้าฯ และมีรับสั่งเกี่ยวกับการที่มีลูกเสือชาวบ้านจากต่างจังหวัดนับหมื่นคนมาชุมนุม โดยให้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ชี้แจงแก่ลูกเสือชาวบ้านให้สลายตัว ต่อมาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฏราชกุมาร ได้เสด็จพร้อมกับนายธรรมนูญ เทียนเงิน มายังที่ชุมนุมลูกเสือชาวบ้าน และมีพระราชดำรัสให้ลูกเสือชาวบ้านสลายการชุมนุม[15]
นายธรรมนูญ เทียนเงิน ยังมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อครั้งที่นายสมัคร ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายธรรมนูญ เทียนเงิน มีศักดิ์เป็นอาของนายสมัคร สุนทรเวช และเป็นที่มาให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น เรียกขานนายธรรมนูญ เทียนเงิน ด้วยความเคารพว่า “คุณอา”[16] นอกจากนี้นายธรรมนูญ เทียนเงิน ได้รับฉายาว่า “นักเลงเก้ายอด” เนื่องจากพฤติกรรมในช่วงวัยรุ่นนั้น มีลักษณะของการเป็นนักเลงที่ผ่านการทะเลาะวิวาทมามากมายในสมัยวัยรุ่น จนกระทั่งได้รับการกล่าวขานว่า “เก้ายอด” ซึ่งถือว่าเป็นที่สุดของวงการนักเลง[17]
บรรณานุกรม
ทองทิว สุวรรณฑัต, วิญญาณมีจริงหรือไม่ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายธรรมนูญ เทียนเงิน, (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2532).
ธรรมนูญยืนยันไม่ยอมอ่อนข้อ, ประชาธิปไตย (2 กันยายน 2519).
สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย, (กรุงเทพฯ : มูลนิธิสายธาร ประชาธิปไตย, 2551).
เว็บไซต์
ประวัติพรรคประชาธิปัตย์, เข้าถึงจาก <http://www.democrat.or.th/th/about/history/> เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559.
นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง โรงเรียนเทพศิรินทร์, เข้าถึงจาก <http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622> เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559.
[1] ทองทิว สุวรรณฑัต, วิญญาณมีจริงหรือไม่ ที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ นายธรรมนูญ เทียนเงิน, (ม.ป.ท. : ม.ป.พ., 2532), น. 13.
[2] เพิ่งอ้าง, น. 4.
[3] เพิ่งอ้าง, น. 4.
[4] เพิ่งอ้าง, น. 5.
[5] เพิ่งอ้าง, น. 4.
[6] ประวัติพรรคประชาธิปัตย์, เข้าถึงจาก http://www.democrat.or.th/th/about/history/ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559.
[7] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 5.
[8] ศูนย์ข้อมูลกรุงเทพมหานคร, เข้าถึงจาก http://www.bangkok.go.th/info/ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559.
[9] เพิ่งอ้าง.
[10] สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ, สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย,(กรุงเทพฯ : มูลนิธิสายธารประชาธิปไตย, 2551), น. 156-157.
[11] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 13.
[12] เพิ่งอ้าง, น. 5.
[13] เพิ่งอ้าง, น. 5.
[14] ธรรมนูญยืนยันไม่ยอมอ่อนข้อ, ประชาธิปไตย (2 กันยายน 2519), น. 1.
[15] นักเรียนเก่า ที่มีชื่อเสียง โรงเรียนเทพศิรินทร์, เข้าถึงจาก http://www.debsirin.ac.th/about-us/detail-student.php?id=622 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559.
[16] ทองทิว สุวรรณฑัต, อ้างแล้ว, น. 17.
[17] เพิ่งอ้าง, น. 10.