ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาอนุมานราชธน"
สร้างหน้าด้วย " ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ ผู้ทรงคุณว..." |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ | ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ | ||
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต | ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต | ||
---- | ---- | ||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
'''พระยาอนุมานราชธน''' | '''พระยาอนุมานราชธน''' | ||
<br/> พระยาอนุมานราชธน เป็นนักปราชญ์และนักการศึกษาคนสำคัญของไทย เป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในหลายสาขาวิชา อาทิ ภาษาไทย นิรุกติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี มานุษยวิทยา รัฐศาสตร์ศาสนาและประเพณี โดยเฉพาะวิชาวัฒนธรรม | <br/> พระยาอนุมานราชธน เป็นนักปราชญ์และนักการศึกษาคนสำคัญของไทย เป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในหลายสาขาวิชา อาทิ ภาษาไทย นิรุกติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี มานุษยวิทยา รัฐศาสตร์ศาสนาและประเพณี โดยเฉพาะวิชาวัฒนธรรม เคยเป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรแด่[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล]][[#_ftn1|[1]]] ได้ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดและการดำเนินนโยบายต่างๆของผู้นำประเทศและ[[รัฐบาล]] โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายทางวัฒนธรรมที่เป็นรากฐานของการจัดความสัมพันธ์ทางสังคมและความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสังคมไทยตั้งแต่กลางทศวรรษ 2470จนถึงปลายทศวรรษ 2500[[#_ftn2|[2]]] เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมและเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกชาวไทย ประจำ พ.ศ. 2531 จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) | ||
| | ||
บรรทัดที่ 14: | บรรทัดที่ 14: | ||
'''ประวัติ''' | '''ประวัติ''' | ||
พระยาอนุมานราชธนมีนามเดิมว่า หลีกวงหยง ต่อมาท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยง | พระยาอนุมานราชธนมีนามเดิมว่า หลีกวงหยง ต่อมาท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยง นามสกุลได้รับพระราชทานจาก[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ว่าเสฐียรโกเศศ เป็นบุตรนายหลีหรือมะลิและนางเฮียะ เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2431 เริ่มเรียนหนังสือครั้งแรกกับบิดา จนอายุได้ 9 ขวบ มารดานำไปฝากเรียนที่โรงเรียนบ้านพระยานานา เรียนได้สองปีจึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญใน พ.ศ.2442[[#_ftn3|[3]]] | ||
| | ||
บรรทัดที่ 20: | บรรทัดที่ 20: | ||
'''เหตุการณ์สำคัญ''' | '''เหตุการณ์สำคัญ''' | ||
พระยาอนุมานราชธนได้เริ่มฝึกงานที่โอสถศาลารัฐบาล จากนั้นจึงมาเป็นเสมียนที่โรงแรมโอเรียลเต็ล | พระยาอนุมานราชธนได้เริ่มฝึกงานที่โอสถศาลารัฐบาล จากนั้นจึงมาเป็นเสมียนที่โรงแรมโอเรียลเต็ล และได้สมัครเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจาก[[พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฎางค์]] และมิสเตอร์ นอรแมน แมกซเวล (Norman Maxwell) เข้ารับราชการครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2447ในตำแหน่งเสมียนโท กองภาษีขาออก กรมศุลกากร แล้วโอนมาอยู่กองรายงาน เป็นเสมียนและเลขานุการของ นายนอร์แมน แมกซ์เวลส ที่ปรึกษากรมศุลกร เป็นปลัดกรมกองภาษีขาออกเมื่อพ.ศ.2456 เป็นหัวหน้าเจ้าพนักงานรับเงินภาษีอากรเมื่อพ.ศ.2463 และเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมศุลกากรเมื่อ พ.ศ.2465[[#_ftn4|[4]]] | ||
| หลัง[[24_มิถุนายน_พ.ศ._2475|เปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475]] พระยาอนุมานราชธนได้รับการแต่งตั้งเป็น[[ผู้แทนราษฎรชั่วคราว]]ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 70คน[[#_ftn5|[5]]] แต่เมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2476ได้ถูกปลดออกจากราชการฐานรับราชการนาน โดยมีนายทหารมาดำรงตำแหน่งแทน ในระหว่างนั้นพระยาอนุมานราชธนยังคงทำหน้าที่ชำระปทานุกรมของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมี[[พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์]]เป็นประธานและ[[พระสารประเสริฐ]]เป็นเลขานุการ[[#_ftn6|[6]]] | ||
พระยาอนุมานราชธนได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งในตำแหน่งหัวหน้ากองศิลปวิทยาการ กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2478 | พระยาอนุมานราชธนได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งในตำแหน่งหัวหน้ากองศิลปวิทยาการ กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2478 จากการชักชวนของ[[หลวงวิจิตรวาทการ]] ดังที่พระยาอนุมานราชธนบันทึกไว้ว่า “...วันหนึ่ง ข้าพเจ้าเดินมาตามถนนสีลม สวนกับหลวงวิจิตรวาทการ ซึ่งขณะนั้นเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ที่ถนนสีลม หลวงวิจิตรวาทการชักชวนข้าพเจ้าไปทำงานที่กรมศิลปากร ในตำแหน่งหัวหน้ากองศิลปวิทยาการ...”[[#_ftn7|[7]]] ต่อมากองศิลปวิทยาการได้รวมเข้ากับกองหอสมุดแห่งชาติกลายเป็นกองวรรณคดีตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการในกรมศิลปากร พ.ศ.2481 และมีคำสั่งแต่งตั้งพระยาอนุมานราชธนเป็นหัวหน้ากอง จนถึง พ.ศ.2482 พระยาอนุมานราชธนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอธิบดีกรมศิลปากรอีกตำแหน่งหนึ่ง ได้เลื่อนเป็นข้าราชการชั้นพิเศษในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ กรมศิลปากรและเป็นอธิบดีกรมศิลปากรเมื่อ พ.ศ.2485 ในขณะนั้นกำหนดเกษียณอายุครบ 55 ปี แต่เนื่องจากพระยาอนุมานราชธนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทางราชการจึงต่ออายุให้จนมีอายุครบวันเกิด 60 ปี และเกษียณอายุเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2491[[#_ftn8|[8]]] | ||
พระยาอนุมานราชธนได้รับบรรดาศักดิ์พระราชทาน เมื่อครั้งรับราชการที่กรมศุลกากรตามลำดับ ดังนี้[[#_ftn9|[9]]] พ.ศ. 2454 เป็นขุนอนุมานราชธน พ.ศ. 2459 เป็นหลวงอนุมานราชธน พ.ศ. 2463 เป็นพระอนุมานราชธน พ.ศ. 2467 เป็นพระยาอนุมานราชธน | พระยาอนุมานราชธนได้รับบรรดาศักดิ์พระราชทาน เมื่อครั้งรับราชการที่กรมศุลกากรตามลำดับ ดังนี้[[#_ftn9|[9]]] พ.ศ. 2454 เป็นขุนอนุมานราชธน พ.ศ. 2459 เป็นหลวงอนุมานราชธน พ.ศ. 2463 เป็นพระอนุมานราชธน พ.ศ. 2467 เป็นพระยาอนุมานราชธน | ||
บรรทัดที่ 30: | บรรทัดที่ 30: | ||
ในตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากรพระยาอนุมานราชธนเป็นผู้ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งโรงเรียนศิลปากรแผนกช่างขึ้นซึ่งต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร | ในตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากรพระยาอนุมานราชธนเป็นผู้ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งโรงเรียนศิลปากรแผนกช่างขึ้นซึ่งต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร | ||
พระยาอนุมานราชธนยังมีโอกาสทำงานด้านการเมืองวัฒนธรรมให้กับ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ทั้งในทศวรรษ 2480และทศวรรษ 2490 มีบทบาทอย่างสูงในการนิยามความหมายของความเป็นไทยในต้นทศวรรษ 2480 และมีผลต่อนโยบายชาตินิยมของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่นนโยบายสร้างชาติไทยให้เป็นมหาอำนาจในแหลมทอง นอกจากทำงานทางวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งแล้ว พระยาอนุมานราชธนยังเป็นผู้ช่วยเขียนบทความจำนวนมากในนาม “สามัคคีชัย” และ “2475” ซึ่งเป็นนามแฝงของจอมพล ป.พิบูลสงคราม[[#_ftn10|[10]]] | พระยาอนุมานราชธนยังมีโอกาสทำงานด้านการเมืองวัฒนธรรมให้กับ [[จอมพล_แปลก_พิบูลสงคราม|จอมพล ป.พิบูลสงคราม]] ทั้งในทศวรรษ 2480และทศวรรษ 2490 มีบทบาทอย่างสูงในการนิยามความหมายของความเป็นไทยในต้นทศวรรษ 2480 และมีผลต่อนโยบายชาตินิยมของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่นนโยบายสร้างชาติไทยให้เป็นมหาอำนาจในแหลมทอง นอกจากทำงานทางวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งแล้ว พระยาอนุมานราชธนยังเป็นผู้ช่วยเขียนบทความจำนวนมากในนาม “สามัคคีชัย” และ “2475” ซึ่งเป็นนามแฝงของจอมพล ป.พิบูลสงคราม[[#_ftn10|[10]]] พระยาอนุมานราชธนได้รับการแต่งตั้งเป็น[[วุฒิสมาชิก]]ในพ.ศ.2490 | ||
| | ||
บรรทัดที่ 52: | บรรทัดที่ 52: | ||
กษิดิศ อนันทนาธร,รำฤก 125 ปีพระยาอนุมานราชธน, ใน'''''จุลสารเตรียมงานรำลึก 100 ปี ชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์''''', ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 ธันวาคม 2556, หน้า 7. | กษิดิศ อนันทนาธร,รำฤก 125 ปีพระยาอนุมานราชธน, ใน'''''จุลสารเตรียมงานรำลึก 100 ปี ชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์''''', ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 ธันวาคม 2556, หน้า 7. | ||
พระยาอนุมานราชธน, '''อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม, พิมพ์ครั้งที่เจ็ด 2549). | พระยาอนุมานราชธน, '''อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม, พิมพ์ครั้งที่เจ็ด 2549). | ||
มหาวิทยาลัยศิลปากร, '''พระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ม.ป.ป.). | มหาวิทยาลัยศิลปากร, '''พระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ม.ป.ป.). | ||
สายชล สัตยานุรักษ์, '''10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks, 2549). | สายชล สัตยานุรักษ์, '''10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks, 2549). | ||
| | ||
บรรทัดที่ 62: | บรรทัดที่ 62: | ||
'''หนังสือแนะนำ''' | '''หนังสือแนะนำ''' | ||
พระยาอนุมานราชธน. (2549). '''อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน'''. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม. | พระยาอนุมานราชธน. (2549). '''อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน'''. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม. | ||
สายชล สัตยานุรักษ์. (2549). '''10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475'''. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks. | สายชล สัตยานุรักษ์. (2549). '''10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475'''. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks. | ||
| | ||
บรรทัดที่ 70: | บรรทัดที่ 70: | ||
---- | ---- | ||
<div id="ftn1"> | <div id="ftn1"> | ||
[[#_ftnref1|[1]]] มหาวิทยาลัยศิลปากร, '''พระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ม.ป.ป.), หน้า 7 | [[#_ftnref1|[1]]] มหาวิทยาลัยศิลปากร, '''พระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ม.ป.ป.), หน้า 7 | ||
</div> <div id="ftn2"> | </div> <div id="ftn2"> | ||
[[#_ftnref2|[2]]] สายชล สัตยานุรักษ์, '''10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks, 2549) หน้า 79 | [[#_ftnref2|[2]]] สายชล สัตยานุรักษ์, '''10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks, 2549) หน้า 79 | ||
</div> <div id="ftn3"> | </div> <div id="ftn3"> | ||
[[#_ftnref3|[3]]] พระยาอนุมานราชธน, '''อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม, พิมพ์ครั้งที่เจ็ด 2549), หน้า 6-7. | [[#_ftnref3|[3]]] พระยาอนุมานราชธน, '''อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน''', (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม, พิมพ์ครั้งที่เจ็ด 2549), หน้า 6-7. | ||
</div> <div id="ftn4"> | </div> <div id="ftn4"> | ||
[[#_ftnref4|[4]]] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 5-6 | [[#_ftnref4|[4]]] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 5-6 |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 01:08, 2 สิงหาคม 2561
ผู้เรียบเรียง : ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พระยาอนุมานราชธน
พระยาอนุมานราชธน เป็นนักปราชญ์และนักการศึกษาคนสำคัญของไทย เป็นผู้มีความรู้และเชี่ยวชาญในหลายสาขาวิชา อาทิ ภาษาไทย นิรุกติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี มานุษยวิทยา รัฐศาสตร์ศาสนาและประเพณี โดยเฉพาะวิชาวัฒนธรรม เคยเป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล[1] ได้ใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดและการดำเนินนโยบายต่างๆของผู้นำประเทศและรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายทางวัฒนธรรมที่เป็นรากฐานของการจัดความสัมพันธ์ทางสังคมและความสัมพันธ์เชิงอำนาจในสังคมไทยตั้งแต่กลางทศวรรษ 2470จนถึงปลายทศวรรษ 2500[2] เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมและเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของโลกชาวไทย ประจำ พ.ศ. 2531 จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
ประวัติ
พระยาอนุมานราชธนมีนามเดิมว่า หลีกวงหยง ต่อมาท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น ยง นามสกุลได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าเสฐียรโกเศศ เป็นบุตรนายหลีหรือมะลิและนางเฮียะ เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2431 เริ่มเรียนหนังสือครั้งแรกกับบิดา จนอายุได้ 9 ขวบ มารดานำไปฝากเรียนที่โรงเรียนบ้านพระยานานา เรียนได้สองปีจึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนอัสสัมชัญใน พ.ศ.2442[3]
เหตุการณ์สำคัญ
พระยาอนุมานราชธนได้เริ่มฝึกงานที่โอสถศาลารัฐบาล จากนั้นจึงมาเป็นเสมียนที่โรงแรมโอเรียลเต็ล และได้สมัครเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ และมิสเตอร์ นอรแมน แมกซเวล (Norman Maxwell) เข้ารับราชการครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2447ในตำแหน่งเสมียนโท กองภาษีขาออก กรมศุลกากร แล้วโอนมาอยู่กองรายงาน เป็นเสมียนและเลขานุการของ นายนอร์แมน แมกซ์เวลส ที่ปรึกษากรมศุลกร เป็นปลัดกรมกองภาษีขาออกเมื่อพ.ศ.2456 เป็นหัวหน้าเจ้าพนักงานรับเงินภาษีอากรเมื่อพ.ศ.2463 และเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมศุลกากรเมื่อ พ.ศ.2465[4]
หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 พระยาอนุมานราชธนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนราษฎรชั่วคราวซึ่งมีสมาชิกจำนวน 70คน[5] แต่เมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2476ได้ถูกปลดออกจากราชการฐานรับราชการนาน โดยมีนายทหารมาดำรงตำแหน่งแทน ในระหว่างนั้นพระยาอนุมานราชธนยังคงทำหน้าที่ชำระปทานุกรมของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์เป็นประธานและพระสารประเสริฐเป็นเลขานุการ[6]
พระยาอนุมานราชธนได้กลับเข้ารับราชการอีกครั้งในตำแหน่งหัวหน้ากองศิลปวิทยาการ กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2478 จากการชักชวนของหลวงวิจิตรวาทการ ดังที่พระยาอนุมานราชธนบันทึกไว้ว่า “...วันหนึ่ง ข้าพเจ้าเดินมาตามถนนสีลม สวนกับหลวงวิจิตรวาทการ ซึ่งขณะนั้นเช่าบ้านหลังหนึ่งอยู่ที่ถนนสีลม หลวงวิจิตรวาทการชักชวนข้าพเจ้าไปทำงานที่กรมศิลปากร ในตำแหน่งหัวหน้ากองศิลปวิทยาการ...”[7] ต่อมากองศิลปวิทยาการได้รวมเข้ากับกองหอสมุดแห่งชาติกลายเป็นกองวรรณคดีตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการในกรมศิลปากร พ.ศ.2481 และมีคำสั่งแต่งตั้งพระยาอนุมานราชธนเป็นหัวหน้ากอง จนถึง พ.ศ.2482 พระยาอนุมานราชธนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยอธิบดีกรมศิลปากรอีกตำแหน่งหนึ่ง ได้เลื่อนเป็นข้าราชการชั้นพิเศษในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ กรมศิลปากรและเป็นอธิบดีกรมศิลปากรเมื่อ พ.ศ.2485 ในขณะนั้นกำหนดเกษียณอายุครบ 55 ปี แต่เนื่องจากพระยาอนุมานราชธนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทางราชการจึงต่ออายุให้จนมีอายุครบวันเกิด 60 ปี และเกษียณอายุเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2491[8]
พระยาอนุมานราชธนได้รับบรรดาศักดิ์พระราชทาน เมื่อครั้งรับราชการที่กรมศุลกากรตามลำดับ ดังนี้[9] พ.ศ. 2454 เป็นขุนอนุมานราชธน พ.ศ. 2459 เป็นหลวงอนุมานราชธน พ.ศ. 2463 เป็นพระอนุมานราชธน พ.ศ. 2467 เป็นพระยาอนุมานราชธน
ในตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากรพระยาอนุมานราชธนเป็นผู้ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งโรงเรียนศิลปากรแผนกช่างขึ้นซึ่งต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร
พระยาอนุมานราชธนยังมีโอกาสทำงานด้านการเมืองวัฒนธรรมให้กับ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ทั้งในทศวรรษ 2480และทศวรรษ 2490 มีบทบาทอย่างสูงในการนิยามความหมายของความเป็นไทยในต้นทศวรรษ 2480 และมีผลต่อนโยบายชาตินิยมของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่นนโยบายสร้างชาติไทยให้เป็นมหาอำนาจในแหลมทอง นอกจากทำงานทางวัฒนธรรมอย่างเข้มแข็งแล้ว พระยาอนุมานราชธนยังเป็นผู้ช่วยเขียนบทความจำนวนมากในนาม “สามัคคีชัย” และ “2475” ซึ่งเป็นนามแฝงของจอมพล ป.พิบูลสงคราม[10] พระยาอนุมานราชธนได้รับการแต่งตั้งเป็นวุฒิสมาชิกในพ.ศ.2490
ผลงานอื่นๆ
พระยาอนุมานราชธนได้รับเชิญเป็นอาจารย์พิเศษที่สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง เช่นคณะอักษรศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
พระยาอนุมานราชธนได้มีผลงานทางวิชาการ สารคดีและบันเทิงคดีทั้งงานแปลและงานเขียน ซึ่งได้พิมพ์เผยแพร่จำนวนมากกว่า 200 เรื่อง ที่รู้จักกันแพร่หลาย เช่น นิรุกติศาสตร์เบื้องต้น นิรุกติศาสตร์ ภาค 1-2, กามนิต แปลจากเรื่อง The Pilgrim Kamanita by John E. Logie โดยแปลและเรียบเรียงร่วมกับนาคะประทีป หิโตปเทศ (เรียบเรียงร่วมกับนาคะประทีป) ศาสนาเปรียบเทียบ ลัทธิของเพื่อน พื้นความหลัง เรื่องของชาติไทย, โดยใช้นามปากกาว่า เสฐียรโกเศศ ย. เสถียรโกเศศ คารม พ.ศ. (เปลี่ยนตาม พ.ศ. ที่ประพันธ์) นามานุลักษณ์ และ ส.ก.[11]
พระยาอนุมานราชธนยังเคยดำรงตำแหน่งในงานราชการพิเศษหลายตำแหน่ง เช่น รักษาการในตำแหน่งนายกราชบัณฑิตยสถาน ประธานคณะบรรณาธิการทำสารานุกรมไทยของราชบัณฑิตยสถาน ประธานกรรมการทำอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ ประธานกรรมการบัญญัติศัพท์ภาษาไทย ประธานกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ประธานกรรมการชำระพจนานุกรมฉบับใหม่ กรรมการจัดพิมพ์เอกสารทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และโบราณคดี กรรมการอำนวยการพัฒนาเกาะเมือง และบริเวณใกล้เคียง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรรมการบริหารสภาวิจัยแห่งชาติ กรรมการสมาคมวรรณคดี กรรมการจัดการส่งเสริมการศึกษาโดยทางวิทยุกระจายเสียง กรรมการสอบแข่งขันชิงทุนเล่าเรียนหลวง พ.ศ. 2481-2482 นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายกสมาคมวารสารสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์
พระยาอนุมานราชธนได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์และศาสตราจารย์พิเศษ จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[12]
พระยาอนุมานราชธนถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2512 ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยเส้นโลหิตในสมองแตก[13] รวมอายุได้ 81 ปี
บรรณานุกรม
กษิดิศ อนันทนาธร,รำฤก 125 ปีพระยาอนุมานราชธน, ในจุลสารเตรียมงานรำลึก 100 ปี ชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์, ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 ธันวาคม 2556, หน้า 7.
พระยาอนุมานราชธน, อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม, พิมพ์ครั้งที่เจ็ด 2549).
มหาวิทยาลัยศิลปากร, พระยาอนุมานราชธน, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ม.ป.ป.).
สายชล สัตยานุรักษ์, 10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks, 2549).
หนังสือแนะนำ
พระยาอนุมานราชธน. (2549). อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม.
สายชล สัตยานุรักษ์. (2549). 10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks.
[1] มหาวิทยาลัยศิลปากร, พระยาอนุมานราชธน, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร, ม.ป.ป.), หน้า 7
[2] สายชล สัตยานุรักษ์, 10 ปัญญาชนสยาม เล่ม 2 ปัญญาชนสยามหลังการปฏิวัติ 2475, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ Openbooks, 2549) หน้า 79
[3] พระยาอนุมานราชธน, อัตชีวประวัติของพระยาอนุมานราชธน, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ศยาม, พิมพ์ครั้งที่เจ็ด 2549), หน้า 6-7.
[4] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 5-6
[5] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 8
[6] พระยาอนุมานราชธน, หน้า 68-70
[7] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 17
[8] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 7
[9] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 7
[10] สายชล สัตยานุรักษ์, หน้า 79
[11] มหาวิทยาลัยศิลปากร, หน้า 9-14
[12] พระยาอนุมานราชธน, หน้า 68-70
[13] กษิดิศ อนันทนาธร,รำฤก 125 ปีพระยาอนุมานราชธน, ในจุลสารเตรียมงานรำลึก 100 ปี ชาตกาล ป๋วย อึ๊งภากรณ์, ปีที่ 2 ฉบับที่ 12 ธันวาคม 2556, หน้า 7