ผลต่างระหว่างรุ่นของ "30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 6: | บรรทัดที่ 6: | ||
---- | ---- | ||
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เป็นวันที่[[พรรคไทยรักไทย]]ที่เป็น[[พรรคการเมือง]]ใหญ่และเป็นพรรคการเมืองที่เป็น[[รัฐบาล]]โดยได้ถูก[[คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ]]วินิจฉัยให้[[ยุบพรรค]] ด้วยมติ[[เอกฉันท์]]ของตุลาการ ทั้ง 9 ท่าน และ[[กรรมการบริหารพรรค]]ไทยรักไทยถูกวินิจฉัย[[เพิกถอนสิทธิทางการเมือง]]ทุกคนเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคำวินิจฉัยเพิกถอนสิทธินี้ไม่เป็นเอกฉันท์แต่เป็นมติ 6 ต่อ 3 เสียง จึงทำให้กรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน หมดสิทธิทางการเมืองในทันที ปรากฏในคำสั่งดังนี้ | วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เป็นวันที่[[ไทยรักไทย|พรรคไทยรักไทย]]ที่เป็น[[พรรคการเมือง]]ใหญ่และเป็นพรรคการเมืองที่เป็น[[รัฐบาล]]โดยได้ถูก[[คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ]]วินิจฉัยให้[[ยุบพรรค]] ด้วยมติ[[เอกฉันท์]]ของตุลาการ ทั้ง 9 ท่าน และ[[กรรมการบริหารพรรค]]ไทยรักไทยถูกวินิจฉัย[[เพิกถอนสิทธิทางการเมือง]]ทุกคนเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคำวินิจฉัยเพิกถอนสิทธินี้ไม่เป็นเอกฉันท์แต่เป็นมติ 6 ต่อ 3 เสียง จึงทำให้กรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน หมดสิทธิทางการเมืองในทันที ปรากฏในคำสั่งดังนี้ | ||
“คณะตุลาการรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทย ผู้ถูกร้องที่ 1 ตาม[[พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2524]]...กับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 จำนวน 111 คน ตามประกาศ[[นายทะเบียนพรรคการเมือง]] เรื่องตอบรับการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ฉบับลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2549...” | “คณะตุลาการรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทย ผู้ถูกร้องที่ 1 ตาม[[พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2524]]...กับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 จำนวน 111 คน ตามประกาศ[[นายทะเบียนพรรคการเมือง]] เรื่องตอบรับการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ฉบับลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2549...” | ||
ในวันที่มีคำวินิจฉัยนั้น พรรคไทยรักไทยมี [[จาตุรนต์ ฉายแสง|นายจาตุรนต์ ฉายแสง]] เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค และมี[[นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี]] เป็นรักษาการ[[เลขาธิการพรรค]] ถ้านับจากวันที่พรรคไทยรักไทยจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 พรรคการเมืองนี้ก็อยู่มาได้ประมาณเกือบ 8 ปี และที่บอกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองนี้ได้เป็น[[นายกรัฐมนตรี]]ก็คือ [[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร]] นั่นเอง | ในวันที่มีคำวินิจฉัยนั้น พรรคไทยรักไทยมี [[จาตุรนต์ ฉายแสง|นายจาตุรนต์ ฉายแสง]] เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค และมี[[วิเชษฐ์ เกษมทองศรี|นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี]] เป็นรักษาการ[[เลขาธิการพรรค]] ถ้านับจากวันที่พรรคไทยรักไทยจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 พรรคการเมืองนี้ก็อยู่มาได้ประมาณเกือบ 8 ปี และที่บอกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองนี้ได้เป็น[[นายกรัฐมนตรี]]ก็คือ [[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร]] นั่นเอง | ||
พรรคไทยรักไทยตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2541 ลงสู่[[สนามเลือกตั้ง]]ครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2544 ก็ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาได้มีการยุบพรรคการเมืองอื่นเข้ามารวมกับพรรคไทยรักไทย ทำให้พรรคไทยรักไทยเป็นเสียงข้างมากใน[[สภาผู้แทนราษฎร]] และเมื่อเป็นรัฐบาลครบ 4 ปี ได้ลงแข่งขันในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2548 ก็ชนะอย่างมากได้เสียงในสภาเกินกว่า 2 ใน 3 ได้เป็น[[รัฐบาลพรรคเดียว]]มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี | พรรคไทยรักไทยตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2541 ลงสู่[[สนามเลือกตั้ง]]ครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2544 ก็ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาได้มีการยุบพรรคการเมืองอื่นเข้ามารวมกับพรรคไทยรักไทย ทำให้พรรคไทยรักไทยเป็นเสียงข้างมากใน[[สภาผู้แทนราษฎร]] และเมื่อเป็นรัฐบาลครบ 4 ปี ได้ลงแข่งขันในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2548 ก็ชนะอย่างมากได้เสียงในสภาเกินกว่า 2 ใน 3 ได้เป็น[[รัฐบาลพรรคเดียว]]มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี | ||
บรรทัดที่ 16: | บรรทัดที่ 16: | ||
หลังเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 และได้เป็นรัฐบาลแล้ว สถานการณ์ทางการเมืองกลับไม่ดีนัก รัฐบาลถูก[[คัดค้าน]]ในสภาและถูก[[ชุมนุม]][[ประท้วง]]นอกสภา จนนำไปสู่การที่รัฐบาลเสนอ[[ยุบสภา]]ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และมี[[เลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549]] แต่การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนั้นถูกประท้วงจาก[[พรรคฝ่ายค้าน]]เดิมที่มีอยู่ 3 พรรคโดยการไม่ร่วมลงแข่งขันในการเลือกตั้ง และต่อมามีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 [[ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ]] จึงทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปกันใหม่ แต่ยังไม่ทันจะมีการเลือกตั้งใหม่ก็ได้ก็มีการยึดอำนาจโดยคณะทหารในวันที่ [[19 กันยายน พ.ศ. 2549]] | หลังเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 และได้เป็นรัฐบาลแล้ว สถานการณ์ทางการเมืองกลับไม่ดีนัก รัฐบาลถูก[[คัดค้าน]]ในสภาและถูก[[ชุมนุม]][[ประท้วง]]นอกสภา จนนำไปสู่การที่รัฐบาลเสนอ[[ยุบสภา]]ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และมี[[เลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549]] แต่การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนั้นถูกประท้วงจาก[[พรรคฝ่ายค้าน]]เดิมที่มีอยู่ 3 พรรคโดยการไม่ร่วมลงแข่งขันในการเลือกตั้ง และต่อมามีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 [[ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ]] จึงทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปกันใหม่ แต่ยังไม่ทันจะมีการเลือกตั้งใหม่ก็ได้ก็มีการยึดอำนาจโดยคณะทหารในวันที่ [[19 กันยายน พ.ศ. 2549]] | ||
ส่วนการร้องต่อ[[ศาลรัฐธรรมนูญ]]ให้ยุบพรรคไทยรักไทยนี้ก็มาจากเรื่องที่พรรคได้ทำใน[[การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549]] นั่นเอง และในคำวินิจฉัยยุบพรรคของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญครั้งเดียวกันนี้ก็มีพรรคการเมืองอื่นอีก 2 พรรค คือ[[พรรคพัฒนาชาติไทย]] กับ[[พรรคแผ่นดินไทย]] ถูกยุบด้วย | ส่วนการร้องต่อ[[ศาลรัฐธรรมนูญ]]ให้ยุบพรรคไทยรักไทยนี้ก็มาจากเรื่องที่พรรคได้ทำใน[[การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549]] นั่นเอง และในคำวินิจฉัยยุบพรรคของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญครั้งเดียวกันนี้ก็มีพรรคการเมืองอื่นอีก 2 พรรค คือ[[พัฒนาชาติไทย|พรรคพัฒนาชาติไทย]] กับ[[แผ่นดินไทย|พรรคแผ่นดินไทย]] ถูกยุบด้วย | ||
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2520-ปัจจุบัน]] | [[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2520-ปัจจุบัน]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 13:03, 16 ตุลาคม 2557
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 เป็นวันที่พรรคไทยรักไทยที่เป็นพรรคการเมืองใหญ่และเป็นพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลโดยได้ถูกคณะตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรค ด้วยมติเอกฉันท์ของตุลาการ ทั้ง 9 ท่าน และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยถูกวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิทางการเมืองทุกคนเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งคำวินิจฉัยเพิกถอนสิทธินี้ไม่เป็นเอกฉันท์แต่เป็นมติ 6 ต่อ 3 เสียง จึงทำให้กรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน หมดสิทธิทางการเมืองในทันที ปรากฏในคำสั่งดังนี้
“คณะตุลาการรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักไทย ผู้ถูกร้องที่ 1 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2524...กับให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 จำนวน 111 คน ตามประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่องตอบรับการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ฉบับลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2549...”
ในวันที่มีคำวินิจฉัยนั้น พรรคไทยรักไทยมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็นรักษาการหัวหน้าพรรค และมีนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี เป็นรักษาการเลขาธิการพรรค ถ้านับจากวันที่พรรคไทยรักไทยจดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 พรรคการเมืองนี้ก็อยู่มาได้ประมาณเกือบ 8 ปี และที่บอกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองนี้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง
พรรคไทยรักไทยตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2541 ลงสู่สนามเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2544 ก็ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาได้มีการยุบพรรคการเมืองอื่นเข้ามารวมกับพรรคไทยรักไทย ทำให้พรรคไทยรักไทยเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อเป็นรัฐบาลครบ 4 ปี ได้ลงแข่งขันในการเลือกตั้งเมื่อ พ.ศ. 2548 ก็ชนะอย่างมากได้เสียงในสภาเกินกว่า 2 ใน 3 ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
หลังเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 และได้เป็นรัฐบาลแล้ว สถานการณ์ทางการเมืองกลับไม่ดีนัก รัฐบาลถูกคัดค้านในสภาและถูกชุมนุมประท้วงนอกสภา จนนำไปสู่การที่รัฐบาลเสนอยุบสภาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และมีเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 แต่การเลือกตั้งทั่วไปในครั้งนั้นถูกประท้วงจากพรรคฝ่ายค้านเดิมที่มีอยู่ 3 พรรคโดยการไม่ร่วมลงแข่งขันในการเลือกตั้ง และต่อมามีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปกันใหม่ แต่ยังไม่ทันจะมีการเลือกตั้งใหม่ก็ได้ก็มีการยึดอำนาจโดยคณะทหารในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
ส่วนการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคไทยรักไทยนี้ก็มาจากเรื่องที่พรรคได้ทำในการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 นั่นเอง และในคำวินิจฉัยยุบพรรคของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญครั้งเดียวกันนี้ก็มีพรรคการเมืองอื่นอีก 2 พรรค คือพรรคพัฒนาชาติไทย กับพรรคแผ่นดินไทย ถูกยุบด้วย