ผลต่างระหว่างรุ่นของ "6 มกราคม พ.ศ. 2544"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุต...'
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 เป็นวันที่มี[[การเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 20]] ของไทย แต่ที่มีความน่าสนใจก็คือเป็น[[การเลือกตั้ง]]ทั่วไปที่[[พรรคไทยรักไทย]] ที่มี [[พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร]] เป็น[[หัวหน้าพรรค]]ได้ลงสู่สนามเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่พรรคไทยรักไทยเข้าแข่งขันเลือกตั้งแล้วได้คะแนนมากเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะได้ไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของ[[สภาผู้แทนราษฎร]] แต่ก็มากพอที่จะเป็นแกนจัดตั้ง[[รัฐบาล]]ที่หา[[พรรคการเมือง]]อื่นมาร่วมรัฐบาลได้ง่าย และพรรคการเมืองอื่นก็ต้องยอมพรรคไทยรักไทยโดยไม่กล้าบิดพลิ้ว
วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 เป็นวันที่มี[[การเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 20]] ของไทย แต่ที่มีความน่าสนใจก็คือเป็น[[การเลือกตั้ง]]ทั่วไปที่[[พรรคไทยรักไทย]] ที่มี [[ทักษิณ  ชินวัตร|พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร]] เป็น[[หัวหน้าพรรค]]ได้ลงสู่สนามเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่พรรคไทยรักไทยเข้าแข่งขันเลือกตั้งแล้วได้คะแนนมากเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะได้ไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของ[[สภาผู้แทนราษฎร]] แต่ก็มากพอที่จะเป็นแกนจัดตั้ง[[รัฐบาล]]ที่หา[[พรรคการเมือง]]อื่นมาร่วมรัฐบาลได้ง่าย และพรรคการเมืองอื่นก็ต้องยอมพรรคไทยรักไทยโดยไม่กล้าบิดพลิ้ว


การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีขึ้นใหม่สมัยที่ [[นายชวน หลีกภัย]] หัวหน้า[[พรรคประชาธิปัตย์]]เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] และเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังจากการประกาศใช้[[รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540]] ซึ่งบัญญัติส่งเสริมให้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยพรรคการเมืองก็จะเข้มแข็งด้วย ทั้งยังมีมาตรการส่งเสริมพรรคการเมืองขนาดใหญ่ กับมี[[คณะกรรมการการเลือกตั้ง]]มาจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก
การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีขึ้นใหม่สมัยที่ [[ชวน หลีกภัย|นายชวน หลีกภัย]] หัวหน้า[[พรรคประชาธิปัตย์]]เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] และเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังจากการประกาศใช้[[รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540]] ซึ่งบัญญัติส่งเสริมให้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยพรรคการเมืองก็จะเข้มแข็งด้วย ทั้งยังมีมาตรการส่งเสริมพรรคการเมืองขนาดใหญ่ กับมี[[คณะกรรมการการเลือกตั้ง]]มาจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก


ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกนี้อีกเช่นกันที่มีการแบ่งการเลือกตั้ง[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]เป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกนั้นได้แบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็ก มีผู้แทนราษฎรได้คนเดียว มี[เขตเลือกตั้ง]แบ่งทั่วประเทศอยู่ 400 เขต กับประเภทที่ 2 ใช้ประเทศไทยเป็นเขตเลือกตั้งและให้มี[[ผู้แทนราษฎร]]ในเขตนี้ได้รวมทั้งสิ้น 100 คน ทางพรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครประเภทนี้ที่เรียกว่า แบบ[[บัญชีรายชื่อ]]ได้พรรคละไม่เกิน 100 คน ดังนั้นประเภทหลังนี้จึงเป็นผู้แทนของพรรค การได้ที่นั่งในสภาของผู้แทนประเภทนี้ต้องคิดจากจำนวนคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับในวันที่เลือกตั้ง ซึ่งประชาชนจะได้สิทธิในการออกเสียง ทั้ง 2 ประเภทแยกกันเพียงแต่มีเงื่อนไขว่าคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับแล้วเอามาคำนวณเพื่อได้จำนวนผู้แทนราษฎรนั้นต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่ออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนน
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกนี้อีกเช่นกันที่มีการแบ่งการเลือกตั้ง[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]เป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกนั้นได้แบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็ก มีผู้แทนราษฎรได้คนเดียว มี[เขตเลือกตั้ง]แบ่งทั่วประเทศอยู่ 400 เขต กับประเภทที่ 2 ใช้ประเทศไทยเป็นเขตเลือกตั้งและให้มี[[ผู้แทนราษฎร]]ในเขตนี้ได้รวมทั้งสิ้น 100 คน ทางพรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครประเภทนี้ที่เรียกว่า แบบ[[บัญชีรายชื่อ]]ได้พรรคละไม่เกิน 100 คน ดังนั้นประเภทหลังนี้จึงเป็นผู้แทนของพรรค การได้ที่นั่งในสภาของผู้แทนประเภทนี้ต้องคิดจากจำนวนคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับในวันที่เลือกตั้ง ซึ่งประชาชนจะได้สิทธิในการออกเสียง ทั้ง 2 ประเภทแยกกันเพียงแต่มีเงื่อนไขว่าคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับแล้วเอามาคำนวณเพื่อได้จำนวนผู้แทนราษฎรนั้นต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่ออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนน

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 12:08, 16 ตุลาคม 2557

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2544 เป็นวันที่มีการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 20 ของไทย แต่ที่มีความน่าสนใจก็คือเป็นการเลือกตั้งทั่วไปที่พรรคไทยรักไทย ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคได้ลงสู่สนามเลือกตั้งเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่พรรคไทยรักไทยเข้าแข่งขันเลือกตั้งแล้วได้คะแนนมากเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะได้ไม่มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็มากพอที่จะเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลที่หาพรรคการเมืองอื่นมาร่วมรัฐบาลได้ง่าย และพรรคการเมืองอื่นก็ต้องยอมพรรคไทยรักไทยโดยไม่กล้าบิดพลิ้ว

การเลือกตั้งครั้งนี้จัดให้มีขึ้นใหม่สมัยที่ นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ซึ่งบัญญัติส่งเสริมให้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยพรรคการเมืองก็จะเข้มแข็งด้วย ทั้งยังมีมาตรการส่งเสริมพรรคการเมืองขนาดใหญ่ กับมีคณะกรรมการการเลือกตั้งมาจัดการเลือกตั้งเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกนี้อีกเช่นกันที่มีการแบ่งการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็น 2 ประเภท โดยประเภทแรกนั้นได้แบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็ก มีผู้แทนราษฎรได้คนเดียว มี[เขตเลือกตั้ง]แบ่งทั่วประเทศอยู่ 400 เขต กับประเภทที่ 2 ใช้ประเทศไทยเป็นเขตเลือกตั้งและให้มีผู้แทนราษฎรในเขตนี้ได้รวมทั้งสิ้น 100 คน ทางพรรคการเมืองต้องส่งผู้สมัครประเภทนี้ที่เรียกว่า แบบบัญชีรายชื่อได้พรรคละไม่เกิน 100 คน ดังนั้นประเภทหลังนี้จึงเป็นผู้แทนของพรรค การได้ที่นั่งในสภาของผู้แทนประเภทนี้ต้องคิดจากจำนวนคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับในวันที่เลือกตั้ง ซึ่งประชาชนจะได้สิทธิในการออกเสียง ทั้ง 2 ประเภทแยกกันเพียงแต่มีเงื่อนไขว่าคะแนนเสียงที่แต่ละพรรคได้รับแล้วเอามาคำนวณเพื่อได้จำนวนผู้แทนราษฎรนั้นต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของจำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่ออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนน

ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ทั้งหมด 42,759,001 คน มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งจริงจำนวน 29,904,940 คน คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 69.94 นับว่าไม่ต่ำ และผลการเลือกตั้งก็ปรากฏดังนี้

1. พรรคไทยรักไทย ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 248 คน

2. พรรคประชาธิปัตย์ ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 128 คน

3. พรรคชาติไทย ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 41 คน

4. พรรคความหวังใหม่ ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 36 คน

5. พรรคชาติพัฒนา ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 29 คน

6. พรรคเสรีธรรม ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 14 คน

7. พรรคราษฎร ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 2 คน

8. พรรคถิ่นไทย ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 1 คน

9. พรรคกิจสังคม ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมกัน 1 คน

หลังจากการเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศรับรองแล้ว พรรคไทยรักไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขึ้นเป็นรัฐบาลผสม 3 พรรค โดยมีพรรคชาติไทยกับพรรคความหวังใหม่เข้าร่วมและมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 รัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ชุดนี้อยู่บริหารประเทศได้ครบ 4 ปี และจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี พ.ศ. 2548