27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 นับว่าเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 14 ของไทย แต่ก็เป็นการเลือกตั้งก่อนกำหนดเวลา เพราะได้มีการยุบสภาโดยนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 และเป็นการเลือกตั้งในขณะที่มีการใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2521 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2528 จึงทำให้เป็นการเลือกตั้งที่เหมือนดังคราวก่อนที่แบ่งเป็นเขตมีผู้แทนราษฎรได้ไม่เกินเขตละ 3 คน ในการเลือกตั้งครั้งนี้จำนวนผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นเป็น 347 คน

จำนวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเองได้เพิ่มเป็น 26,224,470 คน และในวันเลือกตั้งได้มีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 16,670,957 คน นับว่าเป็นอัตราส่วนร้อยละ 61.43 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด มากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อน

ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้มีเรื่องที่น่าสังเกตของการเคลื่อนไหวของกองทัพที่เข้ามาติดตามดูแลการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด โดยกองทัพบกที่มี พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก เป็นผู้บัญชาการได้มีคำสั่งตั้งศูนย์ติดตามการเลือกตั้งและตั้งให้รองผู้บัญชาการทหารบก พลเอกจุไท แสงทวีป เป็นผู้อำนวยการศูนย์ จึงทำให้ทางรัฐบาลที่รักษาการณ์อยู่เห็นว่าอาจเป็นผลเสียต่อการเลือกตั้งและผลเสียต่อกองทัพบก จึงได้ออกประกาศโยกย้ายผู้บัญชาการทหารบกทันที ในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 และตั้งพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เสนาธิการทหารบกให้ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบก อันเป็นการแสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้กุมอำนาจอย่างแท้จริง

ผลการเลือกตั้งก็คือไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่ง แม้พรรคประชาธิปัตย์จะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเป็นอันดับหนึ่งถึง 100 ที่ แต่พรรคการเมืองอื่น ๆ ก็ไม่ยอมให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากแต่เต็มใจที่จะขอให้ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีจัดตั้งรัฐบาลผสมที่พรรคการเมืองสำคัญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคกิจสังคมได้เข้ามาร่วม

สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่สืบมา แต่ก็ไม่ครบวาระ เพราะนายกรัฐมนตรีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ยุบสภาอีกในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2531 และกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2531