ประสิทธิ์ ลุลิตานนท์

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


ประสิทธิ์ ลุลิตานนท์ : เสรีไทยผู้เจอข้อหากบฏ

          ผู้เข้าร่วมงานเสรีไทยนั้นมีอยู่กระจัดกระจายในหลายหน่วยงานและหลายพื้นที่ นักเรียนนอก นักเรียนใน มีทั้งที่มีปริญญาหลายใบ และไม่มีปริญญาสักใบ ล้วนแต่มีใจให้บ้านเมืองไทยกันทั้งนั้น กรณีของคุณประสิทธิ ลุลิตานนท์ นั้นทำงานเสรีไทยอยู่ในพระนคร คือพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ มีพี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกันอยู่ 12 คน แต่ปรากฏว่าพี่น้อง 3 คนลูกผู้ชายได้กล้าเข้าร่วมงานเสรีไทย ได้อาจารย์วิจิตร เป็นหัวขบวน เพราะทำงานที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง เป็นเลขาธิการมหาวิทยาลัย งานในองค์การเสรีไทยนั้นท่านเป็นเลขานุการหัวหน้าใหญ่ของเสรีไทย คือนาย ปรีดี พนมยงค์ น้องชายอีกคน

          นอกจากประสิทธิ ก็คือ พร้อม ลุลิตานนท์

          พื้นเพของประสิทธิ์ ลุลิตานนท์ เป็นคนพระนคร เป็นบุตรหลวงวิจารณ์สุขกรรม และนางน้อม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ปี 2453 ศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนมินประพาฬ ต่อโรงเรียนประถมที่โรงเรียนอัสสัมชัน สอบเทียบชั้นมัธยม 8 แล้วจึงได้ไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง การทำงานของท่านเริ่มต้นหลังจบชั้นมัธยม 6 โดยไปเป็นลูกมือทำงานที่บริษัทไฟฟ้าสยาม แล้วก็ถูกเกณฑ์ทหาร ทำหน้าที่ผู้ช่วยเสนารักษ์จนได้ยศสิบโท ตอนนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 พอดี แต่ก็ไม่ได้เข้าร่วม งานต่อมาที่มีผลกับอาชีพของท่านในอนาคตคือการทำงานกับโรงพิมพ์ไทยพาณิชย์ตอนกลางวัน และงานกลางคืนก็ไปทำงาน “ตรวจปรู๊ฟ”  ให้หนังสือพิมพ์ The Morning Express โดยหวังจะช่วยให้ภาษาอังกฤษดี ต่อมาจึงถูกดึงมาเป็นผู้จัดการโรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจึงเป็นโอกาสให้เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ฯ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดโอกาสให้เรียนไปทำงานไปด้วยได้ แต่ท่านก็เรียนไม่จบเพราะไม่สอบ จึงเป็นอันว่าท่านไม่ได้จบปริญญาตรี แต่ประสบการณ์ในการทำงานด้านพิมพ์หนังสือนั้นหาตัวจับยาก ทำงานที่โรงพิมพ์ธรรมศาสตร์ได้ 3 ปี แล้วก็ย้ายไปทำงานที่ธนาคารเอเซียเพื่ออุตสาหกรรมและพาณิชย์ ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ ที่มีทวี ตะเวทิกุล เป็นกรรมการ ธนาคารแห่งนี้เป็นของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ฯที่ซื้อธนาคารเก่ามาเปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อใช้เป็นแหล่งทุนสนับสนุนมหาวิทยาลัยในการจัดการศึกษา เมื่อปี 2482 แต่ธนาคารนี้ก็อยู่ได้ไม่ครบ 10 ปี การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้มาเอาธนาคารนี้ไปจากมหาวิทยาลัยในปี 2491
        เส้นทางการทำงานของประสิทธิ์นั้นมีทั้งหน่วยงานด้านการศึกษา หน่วยงานการเงินการคลัง และที่หลายคนอาจไม่ทราบก็คืองานการเมืองท้องถิ่น ประสิทธิ์ลงเล่นการเมืองท้องถิ่นในเมืองหลวงโดยลงสมัครแข่งขันเป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครกรุงเทพ ที่เขตบางรัก และท่านก็ชนะได้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครกรุงเทพ ส่วนการเข้าทำงานเป็นเสรีไทยของประสิทธิ์นั้นต้องอ่านจากคำบอกเล่าของท่านเอง

          “'ข้าพเจ้าเข้าร่วมขบวนการเสรีไทยกับพี่และน้องชายอีกสองคน คือคุณวิจิตรผู้พี่และคุณพร้อมน้องชาย ข้าพเจ้ามีหน้าที่อยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯทำหน้าที่รับส่งวิทยุ คุณวิจิตรมีหน้าที่สำคัญ

มาก คือจัดการเรื่องลักลอบส่งสมาชิกเสรีไทยออกนอกประเทศ...”
          เวลานั้นนอกจากที่ทำงานของท่านจะอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้วท่านยังพักอยู่ในมหาวิทยาลัยอีกด้วย การทำงานเสรีไทยทำให้ประสิทธิ์ได้รู้จักคุ้นเคยกับมิตรต่างชาติที่ร่วมต่อต้านญี่ปุ่นหลายคน ที่ภายหลังสงครามสงบลงแล้ว ทำให้ประสิทธิ์ได้เข้ามาสู่วงการหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
          “พรรคพวกที่ร่วมก๊งร่วมขวดด้วยกันและเป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับนั้นประกอบด้วย นายอเล็กซานเดอร์ แมคโดนัลด์ ซึ่งข้าพเจ้ารู้จักมาตั้งแต่สมัยที่เป็นเสรีไทย ดร.ทวี ตะเวทิกุล และคนอื่นๆอีก”

นายแมคโดนัลด์ ผู้นี้เองเป็นผู้เสนอชื่อหนังสือพิมพ์ว่า The Bangkok Post ซึ่งได้ฤกษ์พิมพ์ออกมาในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2490 ตอนนั้นผู้ร่วมหุ้นมี นายแมคโดนัลด์ ทวี ตะเวทิกุล ดร.เสริม วินิจฉัยกุล พระยาปรีชานุศาสตร์ และ ดร.เดือน บุนนาค เป็นต้น ส่วนตัวประสิทธิ์เอง เจ้าตัวระบุว่า “ข้าพเจ้าทำหน้าที่จิปาถะ ทำทุกอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ...”  นั่นก็คือทำทุกอย่างที่คนอื่นยังไม่ได้ทำ เพื่อจะให้ออกหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษให้ได้ ที่สำคัญเป็นคนที่ติดต่อหาโฆษณามาเลี้ยงหนังสือพิมพ์ได้ดี

          แต่ที่เจอข้อหากบฏนั้นไม่ได้เกี่ยวกับที่มาทำหนังสือพิมพ์แต่อย่างใด หากแต่ว่าหลังจากที่หลวงพิบูลสงครามพึ่งพาคณะรัฐประหารล้มรัฐบาลหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ในปลายปี 2490 แล้ว พอถึงต้นปี 2492 หลวงประดิษฐ์มนูธรรมก็นำกำลังจะล้มรัฐบาลหลวงพิบูลฯ แต่ไม่สำเร็จ การปฏิบัติการครั้งนั้นถูกเรียกว่า กบฏวังหลวงและเป็นงานที่ประสิทธิ์ได้เข้าร่วมด้วย ดังที่ท่านเขียนเล่า
          “ข้าพเจ้าออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 พร้อมด้วยอาวุธปืนและกระสุนซึ่งขนไปกับรถบรรทุกตรงไปที่พระบรมมหาราชวัง โดยเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี”

          เมื่อการยึดอำนาจไม่สำเร็จ ประสิทธิ์ซึ่งร่วมปฏิบัติการกับพรรคพวกจึงต้องหนี แต่เมื่อมีค่าหัวท่านจึงถูกตำรวจตามไปจับตัวได้ ครั้งนั้น ทวี ตะเวทิกุล ถูกจับตาย ประสิทธิ์ยังโชคดีถูกจับตัวมาขึ้นศาลและถูกศาลตัดสินติดคุกอยู่ 9 ปี มาพ้นโทษเอาเมื่อปี 2500 ออกมาจากคุกแล้วท่านก็ไปทำมาค้าขาย และที่สำคัญก็คือไปทำงานที่หนังสือพิมพ์ The Bangkok Post ประสิทธิ์ ลุลิตานนท์ เสียชีวิตและจากคุณกานดา ภรรยาไปในวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2540