ดุลยภาพ (พ.ศ. 2550)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต



พรรคดุลยภาพ

พรรคดุลยภาพจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2550 [1] โดยมีนายวิมล ไทรนิ่มนวล[2] ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และมีนายประคอง สายแก้ว ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 นั้น พรรคดุลยภาพมิได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบสัดส่วนแต่อย่างใด


รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ [3]


ด้านการเมืองการปกครอง

1.สนับสนุนการปกครองส่วนท้องถิ่นและให้มีองค์กรเพื่อตรวจสอบ ถ่วงดุลอำนาจการตัดสินใจของฝ่ายผู้บริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ

2.สนับสนุนให้มีสภาอาชีพระดับชาติ

3.สนับสนุนองค์กรพัฒนาเอกชนต่าง ๆ

4.ส่งเสริมภาคประชาชนให้เข้มแข็ง

5.สนับสนุนให้เกิดสหภาพแรงงาน

6.ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในจังหวัดที่พร้อม

7.ให้มีการเลือกตั้งในองค์กรของรัฐและรัฐวิสาหกิจทุกระดับ

8.ดำเนินการเลือกตั้งคณะผู้บริหารองค์กร/หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

9.เพิ่มโทษการคอรัปชั่นให้หนักขึ้น


ด้านเศรษฐกิจ

1.สนับสนุนอุตสาหกรรมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุดแก่สังคม

2.ควบคุมหรือยกเลิกอุตสาหกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่เกิดประโยชน์แท้แก่สังคม

3.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรจากโรงงานหรือกิจการที่เข้าไปดำเนินงานในท้องถิ่น

4.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน

5.คัดค้าน การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

6.เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้เหมาะสมกับค่าครองชีพในปัจจุบัน


ด้านเกษตรกรรม

1.การจัดตั้งสหกรณ์ประเภทต่าง ๆ

2.สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

3.สนับสนุนโครงการพระราชดำริต่างๆ สนับสนุนงบประมาณเพื่อการเกษตรอินทรีย์

4.ส่งเสริมตลาดชุมชนเครือข่ายหรือเครือข่ายตลาดชุมชนเพื่อลดการพึ่งพาตลาดของทุนนิยมเสรีและทำให้ชุมชน/ท้องถิ่นเข้มแข็ง

5.เพิ่มราคาผลผลิตในภาคการเกษตรกรรมทั้งทางตรงและทางอ้อม

6.สนับสนุนงบประมาณในกระบวนการผลิตของภาคการเกษตร

7.สนับสนุนให้ฟื้นฟูประเพณีเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนแรงงงานในภาคเกษตรกรรม เพื่อลดต้นทุนการผลิต


ด้านการศึกษา

1.ส่งเสริมการศึกษาแบบที่ทำให้ผู้เรียนมีสติปัญญาที่แท้จริงคือให้มีทั้งความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ มีจริยธรรม มีความเข้าใจต่อความเป็นจริงของชีวิตและโลก

2.มุ่งสู่เนื้อหาสาระในปรัชญาการศึกษาที่แท้จริง โดยเน้นที่กระบวนการเรียนการสอนที่มีอยู่ในโลกจริง

3.ให้ครูอาจารย์ได้ร่วมมือกับผู้รู้ ผู้นำชุมชนสร้างหลักสูตรของชุมชน ท้องถิ่น

4.สนับสนุนให้โรงเรียน วัด ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการศึกษาร่วมกัน

5.สนับสนุนการศึกษาแบบทางเลือกเพื่อให้มีการศึกษาที่หลากหลาย ลดภาระของทางราชการลง

6.สนับสนุนให้มีสภาการศึกษาแบบทางเลือกเพื่อควบคุม ดูแล บุคลากรและคุณภาพของการศึกษาแบบทางเลือกทั้งระบบ รวมทั้งรับรองวุฒิการศึกษาให้นักเรียนที่จบการศึกษาในโรงเรียนแบบทางเลือก

7.เรียนฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงปริญญาตรี มีกองทุนให้กู้ยืมเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก


ด้านสาธารณสุข

1.จัดให้มีบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น และกระจายสู่ชุมชน

2.สนับสนุนการวิจัยในวงการวิชาการแพทย์และการผลิตยาต่าง ๆ

3.จัดให้เกิดการสาธารณสุขแบบป้องกันเต็มรูปแบบ

4.ให้การดูแลรักษาฟรีตลอดชีพ

5.ให้มีสถานที่สำหรับดูแล พักฟื้น พักผ่อนแก่ทารกและคนชราในชุมชน

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนพิเศษ 176ง หน้า 29
  2. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนพิเศษ 176ง หน้า 60
  3. สรุปความจากราชกิจจานุเบกษา เล่ม 124 ตอนพิเศษ 176ง หน้า 29-35