8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:00, 3 ตุลาคม 2556 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม) (หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุต...')
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เป็นวันที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศต่อจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งนี้ เพราะพรรคเพื่อไทยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สังกัด ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 265 ที่นั่งจากจำนวนทั้งหมด 500 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งและเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลในเวลาเลือกตั้งได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเพียง 159 ที่นั่ง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเพื่อไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะมิได้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในตอนนั้น คือ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นผู้สมัครหมายเลข 1 ในประเภทบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย และเป็นน้องสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ก็สามารถจัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีเสียงของพรรคเพื่อไทยเองมากเกินกว่าครึ่งสภาผู้แทนราษฎร หากแต่ต้องการเอาพรรคการเมืองอื่นมาร่วมด้วย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากพรรคชาติไทยพัฒนา ที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ยังเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ พรรคนี้มีเสียงอยู่ 19 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร พรรคต่อมาที่เข้าร่วมรัฐบาล คือ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่มีเสียงอยู่ 7 เสียง ในสภาผู้แทนราษฎร พรรคนี้มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ พรรคที่สามที่เข้าร่วมรัฐบาลได้แก่พรรคพลังชน ที่มีนายสนธยา คุณปลื้ม มีบทบาทสำคัญ พรรคนี้ก็มีเสียงในสภาผู้แทนฯ จำนวนเท่ากัน 7 คน เหมือนพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน สำหรับพรรคสุดท้ายที่เข้าร่วมรัฐบาลโดยไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะมีเสียงในสภาผู้แทนฯ เพียงเสียงเดียว ได้แก่ พรรคมหาชน ดังนั้นในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554 เมื่อมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอมติเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น สภาผู้แทนราษฎรจึงมีมติ 296 ต่อ 3 เสียงเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีผู้งดออกเสียงจำนวน 197 คน

คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับเป็นคณะรัฐมนตรี คณะที่ 60 ของไทย รัฐมนตรีสำคัญ ๆ ของทางรัฐบาลนั้นมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล จากพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายธีระ วงศ์สมุทร จากพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสุกุมล คุณปลื้ม จากพรรคพลังชนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอื่น ๆ ที่สำคัญนั้นล้วนเป็นของพรรคเพื่อไทย ร่วมทั้งกระทรวงการต่างประเทศที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการ

ครั้นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเข้าบริหารประเทศ ก็มีทั้งผู้คนที่ให้กำลังใจเพราะเป็นสตรีคนแรกที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลและยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดด้วย แต่ก็มีผู้ที่ตามดูด้วยความสงสัยในฝีมือ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่วงการเมืองในระยะเวลาอันสั้น และก็ลงเลือกตั้งทั่วไปที่ทำหน้าที่ผู้นำพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงอย่างเต็มที่ แม้จะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคตามกฎหมายก็ตาม

ปรากฏว่างานของรัฐบาลที่หนักและทำให้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์มากนั้นก็คือการดำเนินการป้องกันและแก้ไขอุทกภัยที่ร้ายแรงมากใน พ.ศ. 2554 เพราะในช่วงเวลาที่เข้ารับตำแหน่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลนั้นก็มีน้ำท่วมมากทางภาคเหนือของประเทศ และเขื่อนต่าง ๆ ที่อยู่ทางเหนือของประเทศก็กักน้ำไว้สูง จึงต้องปล่อยน้ำลงสู่ภาคกลาง ทำให้น้ำท่วมทางภาคกลางหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งที่จังหวัดปทุมธานี น้ำท่วมมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและของเอกชน และที่รุนแรงเกินความคาดหมายคือน้ำได้บ่าเข้าท่วมกรุงเทพมหานครทางตอนเหนือ ถึงขนาดท่วมสนามบินดอนเมืองสูงกว่าหนึ่งเมตรในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 และน้ำได้ท่วมบริเวณกรุงเทพมหานครทางตอนเหนือลงไปจนถึงบริเวณใกล้กับพื้นที่ลาดพร้าว อันเป็นการท่วมที่ยาวนานเกือบ 2 เดือน และการป้องกันแก้ไขของรัฐบาลไม่เป็นที่ถูกใจประชาชนที่เดือดร้อน