พลังเสรี (พ.ศ. 2519)
ผู้เรียบเรียง รองศาสตราจารย์ ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคพลังเสรี
พรรคพลังเสรีเป็นพรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2517 โดยได้ยื่นจดทะเบียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 ทะเบียนเลขที่ 51/2519 โดยมีหัวหน้าพรรคคือ นายอัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ เลขาธิการพรรคคือ พันตำรวจเอก สุธรรม วรวิเชียรวงษ์ รองเลขาธิการพรรคคือ นายภักดี รมยานนท์ กรรมการอำนวยการอื่น ได้แก่ นายฐาณุพงศ์ เตวิทย์ นางสาวสิวลี จุลกะ นายสัญญา หุตะสังกาศ นายประภัศร์ กนิษฐานนท์ นายสมชาย มณีศร นางชีวนุช วิไลกิจ นางสาวสาคร กลิ่นสุคนธ์ นายพันธุ์พิศ อมาตยกุล
อุดมการณ์ของพรรคพลังเสรี
พรรคพลังเสรีมีอุดมการณ์อย่างแรงกล้าที่จะเสริมสร้างพลังแห่งความสามัคคีและพลังแห่งศรัทธาของมวลชนในชาติให้ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีความมั่นคงถาวรยืนอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยไปตลอดกาล
นโยบายของพรรคพลังเสรี
นโยบายทางการเมือง พรรคพลังเสรีจะเทอดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นสถาบันแห่งความมั่นคง และเป็นศูนย์รวมพลังแห่งความสามัคคีในชาติไว้ตลอดกาล จะส่งเสริมปรับปรุงพลังป้องกันประเทศทั้งสามเหล่าทัพ ให้มีสมรรถภาพพร้อมที่จะป้องกันราชอาณาจักรจากภัยที่จะมีมาทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะในสภาพการณ์ปัจจุบัน จะเร่งรัดปรับปรุงโครงสร้างของการบังคับบัญชาให้มีความคล่องตัวได้อย่างรวดเร็วฉับพลัน จะรักษาไว้ซึ่งความเป็นอิสระของตัวเองในกิจการระหว่างประเทศ โดยไม่ยอมให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมาชักจูงเป็นอันขาด จะดำรงรักษาความเป็นเอกราชและอิสระในขบวนการยุติธรรมของชาติไว้อย่างเคร่งครัด และจะส่งเสริมสถาบันศาลยุติธรรมให้มั่นคง เป็นที่พึ่งของประชาชนทุกสัญชาติในประเทศไทย
พรรคพลังเสรีจะส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยได้เข้ามีส่วนร่วมในขบวนการทางการเมืองของประเทศอย่างกว้างขวาง และจะยึอถือว่าพรรคการเมืองทุกพรรคเป็นผู้มีอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เว้นพรรคการเมืองที่มีพฤติการณ์บ่อนทำลายชาติ จะส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักใช้สิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่โดยการแนะนำชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจในความสำคัญของการมีสิทธิ และการใช้เสรีภาพในขอบเขตของกฎหมาย และกำจัดการใช้เสรีภาพที่ฝ่าฝืนกฎหมาย อันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง แต่สังคมส่วนรวมได้รับความเสียหาย
นโยบายด้านเศรษฐกิจ พรรคพลังเสรีจะดำเนินการพัฒนาแรงงานของชาติ ทั้งในด้านการเงินกำลังคน และวัสดุให้สอดคล้องกับนโยบายรักษาความมั่นคงของประเทศ ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะเผชิญกับภาวะฉุกเฉิน โดยจะเพิ่มพลังการผลิตผลทางการเกษตรทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ จะส่งเสริมเพิ่มพลังการอุตสาหกรรมของเอกชน โดยสนับสนุนการลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ และจะไม่ยอมให้รัฐเข้ามายึดครองผูกขาดเป็นอันขาด จะป้องกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันได้แก่ที่ดิน แหล่งน้ำ ป่าไม้ แร่ธาตุ และอื่น ๆ ให้นำมาใช้เป็นผลประโยชน์แก่ส่วนรวมให้มากที่สุด จะรักษาเสถียรภาพการคลังเพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ ส่งเสริมการออมทรัพย์ และการลงทุนของเอกชน กับหาทางเพิ่มรายได้ของรัฐให้สูงขึ้นโดยถือหลักความเป็นธรรมแก่สังคม จะป้องกันมิให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะเป็นการบั่นทอนกำลังในการพัฒนา และเป็นการกระทบกระเทือนต่อการครองชีพของประชาชนส่วนใหญ่ภายในประเทศ
พรรคพลังเสรีจะหาทางเพิ่มรายได้ของรัฐให้มากขึ้น โดยจะยึดหลักความเป็นธรรมของสังคมเป็นแนวทางในการปรับปรุงรายได้ดังกล่าว จะดำเนินการใช้จ่ายเงินของรัฐอย่างประหยัดและให้ได้ผลคุ้มค่า จะส่งเสริมการออมทรัพย์ของเอกชน เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนในกิจการที่จะสร้างสรรค์ความเจริญให้แก่ประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนในกิจการที่จะสร้างสรรค์ความเจริญให้แก่ประเทศ และได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงต่อส่วนรวม จะรักษาดุลย์การชำระเงินระหว่างประเทศไว้มิให้ขาดดุลย์และรักษากองทุนสำรองของประเทศในปริมาณเพียงพอและเหมาะสมกับความจำเป็นในการธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและอิสรภาพในทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ
นโยบายด้านสังคม พรรคพลังเสรีจะปรับปรุงระบบสังคมให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อความเสมอภาคยิ่งขึ้นและลดช่องว่างระหว่างชนทุกระดับกับจัดสวัสดิการสังคมให้ดีขึ้น โดยจะให้ความอนุเคราะห์ในด้านสังคมสงเคราะห์แก่บุคคลซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เต็มที่ตามความเหมาะสม จะส่งเสริมสวัสดิภาพของสังคมด้วยการพิทักษ์รักษาความปลอดภัยในร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนทั่วไป จะช่วยผ่อนคลายภาษีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย เช่น เพิ่มอัตราการลดหย่อนให้มากขึ้น จัดสวัสดิการเกี่ยวกับสาธารณูปโภค การจัดสร้างอาคารสงเคราะห์เพิ่มขึ้น และวางมาตรการคุ้มครองผู้ใช้แรงงานให้มีสวัสดิการเพียงพอด้วยความเป็นธรรมระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างกับช่วยจัดหางานให้ผู้ว่างงานทำเป็นหลักแหล่ง จะส่งเสริมให้มีการป้องกันและปราบปรามบุคคลที่กระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบกอบโกยเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติ
นโยบายด้านการเกษตร พรรคพลังเสรีจะช่วยเหลือเกษตรกรในด้านวิชาการทันสมัยเพื่อเพิ่มผลผลิต ช่วยให้มีตลาดประกันผลิตผลเกษตรกรรม ช่วยประนอมหนี้ ช่วยควบคุมค่าเช่าที่ดินและชว่ยให้มีที่ดินของตนเอง โดยการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเผยแพร่วิชากรที่ทันสมัยเกี่ยวกับการเกษตรให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึง จะจัดหาและจำหน่ายปุ๋ยวิทยาศาสตร์ในราคาถูกให้กับเกษตรกร ขยายกิจการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรออกไปให้กว้างขวางทั่วประเทศ จะขยายและรักษาตลาดภายนอกประเทศสำหรับผลิตผลทางเกษตรไว้อย่างมั่นคง
นโยบายด้านการศึกษา จะส่งเสริมการศึกษาของชาติให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความสามารถที่จะประกอบอาชีพทุกสาขาตามความต้องการ โดยจะกำหนดเป้าหมายไว้ในแผนการศึกษาให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจ จะขายการศึกษาภาคบังคับออกไปให้ทั่วประเทศ จะปรับปรุงหลักสูตรของการศึกษาภาคบังคับให้ดียิ่งขึ้น จะปรับปรุงโรงเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะโรงเพรียนอาชีวะให้มีคุณภาพสูงขึ้นและเพิ่มจำนวนให้เพียงพอกับความต้องการ จะปรับปรุงมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยที่มีอยู่แล้วให้มีคุณภาพสูงขึ้น จะช่วยเหลือบรรดาครูอาจารย์และศาสตราจารย์ในรูปสวัสดิการต่าง ๆ เพื่อให้บรรดาครูอาจารย์และศาสตราจารย์ได้มีความรู้สึกมั่นคงในอาชีพของตน และสามารถอุทิศเวลาเพื่อการศึกษาอบรมแก่เยาวชนได้อย่างเต็มที่ จะส่งเสริมการศึกษาวิจัยในสาขาวิชาต่าง ๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
นโยบายด้านการต่างประเทศ พรรคพลังเสรีจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดสันติภาพในโลก รวมทั้งเพื่อสร้างความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ โดยจะรักษาศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประเทศไทยในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอื่นให้สูงอยู่เสมอ จะสนับสนุนการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านในการรักษาความสงบเรียบร้อยและสร้างความเจริญมั่งคงให้แก่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จะมีนโยบายผูกมิตรกับทุกประเทศในโลกไม่มีเจตนามุ่งร้ายต่อประเทศไทย จะสนับสนุนวิธีการระงับความขัดแย้งระหว่างประเทศโดยสันติวิธี
นโยบายด้านการปกครอง พรรคพลังเสรีจะส่งเสริมระบบการบริหารระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และส่วนกลางให้สอดคล้องประสานกันยิ่งขึ้น เพื่อขจัดความล่าช้า ซ้อนซ้ำและสูญเปล่าในการดำเนินงานโดยจะให้อำนาจการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นมีอิสระในการกำหนดนโยบายการปกครองท้องถิ่นของตนเอง และมีอิสระในการภาษีอากรและการเงินแห่งท้องถิ่น จะไม่ให้องค์การบริหารส่วนกลางไปทำงานแข่งขันหรือซ้ำซ้อนกับองค์การบริหารส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น
พรรคพลังเสรีส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2519 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งแม้แต่คนเดียว เช่นเดียวกับพรรคขนาดเล็กอื่น ๆ อีก 18 พรรค ซึ่งไม่ได้รับการเลือกตั้งแม้แต่ที่นั่งเดียว ได้แก่ พรรคไทยอิสระ พรรคฟื้นฟูชาติไทย พรรคแนวสันติ พรรคกรุงสยาม พรรคเกษตรกร พรรคพลังสยาม พรรคชาติสยาม พรรคสันติชน พรรคประชาก้าวหน้า พรรคเศรษฐกร พรรคศรีอารยะ พรรคนิยมไทย พรรคสังคมประชาธรรม พรรคพลังราษฎร์ พรรคไทยรวมไทย พรรคชาตินิยม พรรคสงเคราะห์อาชีพ และพรรคไท พรรคการเมืองทั้งหมดที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ 2517 ต้องสิ้นสภาพลงเมื่อคณะทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2516
ที่มา
ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ ตอนที่ 93 เล่มที่ 29 ฉบับพิเศษ ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519, หน้า 29-38
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช, การสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคการเมืองในประเทศไทย, วิทยานิพนธ์หลักสูตรชั้นปริญญาโท ภาค 2 ทางรัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2519
สุจิต บุญบงการ, การพัฒนาการเมืองของไทย: ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทหาร สถาบันทางการเมือง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531
บุญทัน ดอกไธสง, การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย, กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์, 2520
