ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แปลงสินทรัพย์เป็นทุน"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัดที่ 5: | บรรทัดที่ 5: | ||
'''แปลงสินทรัพย์เป็นทุน''' | '''แปลงสินทรัพย์เป็นทุน''' | ||
แปลงสินทรัพย์เป็นทุน | แปลงสินทรัพย์เป็นทุน เป็นนโยบายของ[[รัฐบาล]] [[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร]] ที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ไม่มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ หากจะไปกู้เงินจากสถาบันการเงินก็ไม่มีหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน ที่จะไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันได้ จึงต้องกู้ยืมเงินจากนายทุนที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดซึ่งผิด[[กฎหมาย]] และต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้มีอิทธิพลผู้เป็นนายทุนผู้ให้กู้ยืมเงิน | ||
รัฐบาลจึงมีแนวคิดว่าให้ประชาชนผู้ไม่มีเงินทุนและไม่มีหลักทรัพย์ดังกล่าว แต่มีสินทรัพย์อย่างอื่น หรือสิทธิอื่นใดอันจะอยู่ในวิสัยที่จะทำให้เป็นหลักทรัพย์ทำนองเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีโฉนดที่ดิน ตัวอย่างเช่น สิทธิในการได้รับอนุญาตให้วางของจำหน่ายบนบาทวิถี สิทธิในการเช่าแผงลอยในตลาดจตุจักรหรือตลาดทั่วไป โดยนำสิทธิดังกล่าวมาจดทะเบียนจำนองไว้กับสถาบันการเงินเพื่อจะได้นำเงินกู้ไปเป็นทุนประกอบอาชีพ แต่ติดขัดในปัญหาข้อกฎหมายหลายประการ เช่น การยอมรับสิทธินั้นตามกฎหมาย การขายทอดตลาดสิทธิโดยการบังคับจำนอง เป็นต้น | รัฐบาลจึงมีแนวคิดว่าให้ประชาชนผู้ไม่มีเงินทุนและไม่มีหลักทรัพย์ดังกล่าว แต่มีสินทรัพย์อย่างอื่น หรือสิทธิอื่นใดอันจะอยู่ในวิสัยที่จะทำให้เป็นหลักทรัพย์ทำนองเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีโฉนดที่ดิน ตัวอย่างเช่น สิทธิในการได้รับอนุญาตให้วางของจำหน่ายบนบาทวิถี สิทธิในการเช่าแผงลอยในตลาดจตุจักรหรือตลาดทั่วไป โดยนำสิทธิดังกล่าวมาจดทะเบียนจำนองไว้กับสถาบันการเงินเพื่อจะได้นำเงินกู้ไปเป็นทุนประกอบอาชีพ แต่ติดขัดในปัญหาข้อกฎหมายหลายประการ เช่น การยอมรับสิทธินั้นตามกฎหมาย การขายทอดตลาดสิทธิโดยการบังคับจำนอง เป็นต้น |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:27, 7 กันยายน 2553
ผู้เรียบเรียง รศ.ดร.กมลชัย รัตนสกาววงศ์
แปลงสินทรัพย์เป็นทุน
แปลงสินทรัพย์เป็นทุน เป็นนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ไม่มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ หากจะไปกู้เงินจากสถาบันการเงินก็ไม่มีหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน ที่จะไปจดทะเบียนจำนองเป็นประกันได้ จึงต้องกู้ยืมเงินจากนายทุนที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดซึ่งผิดกฎหมาย และต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้มีอิทธิพลผู้เป็นนายทุนผู้ให้กู้ยืมเงิน
รัฐบาลจึงมีแนวคิดว่าให้ประชาชนผู้ไม่มีเงินทุนและไม่มีหลักทรัพย์ดังกล่าว แต่มีสินทรัพย์อย่างอื่น หรือสิทธิอื่นใดอันจะอยู่ในวิสัยที่จะทำให้เป็นหลักทรัพย์ทำนองเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีโฉนดที่ดิน ตัวอย่างเช่น สิทธิในการได้รับอนุญาตให้วางของจำหน่ายบนบาทวิถี สิทธิในการเช่าแผงลอยในตลาดจตุจักรหรือตลาดทั่วไป โดยนำสิทธิดังกล่าวมาจดทะเบียนจำนองไว้กับสถาบันการเงินเพื่อจะได้นำเงินกู้ไปเป็นทุนประกอบอาชีพ แต่ติดขัดในปัญหาข้อกฎหมายหลายประการ เช่น การยอมรับสิทธินั้นตามกฎหมาย การขายทอดตลาดสิทธิโดยการบังคับจำนอง เป็นต้น