ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บัญญัติ บรรทัดฐาน"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Panu (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Panu (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 7: บรรทัดที่ 7:
[[ภาพ:บัญญัติ_บรรทัดฐาน.JPG]]
[[ภาพ:บัญญัติ_บรรทัดฐาน.JPG]]


ตามประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศไทย มีผู้นำ ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 7 ท่าน ซึ่ง'''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน''' เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นผู้ได้รับฉายาว่า “บัญญัติ 10 ประการ”<ref>วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. '''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.</ref>
ตามประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศไทย มี[[ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร]] จำนวน 7 ท่าน ซึ่ง'''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน''' เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นผู้ได้รับฉายาว่า “บัญญัติ 10 ประการ”<ref>วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. '''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.</ref>


==ประวัติ==
==ประวัติ==
บรรทัดที่ 31: บรรทัดที่ 31:
==การดำรงตำแหน่งทางการเมือง==
==การดำรงตำแหน่งทางการเมือง==


การเริ่มต้นชีวิตการเมืองของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นการเริ่มต้นขณะที่ประเทศไทยก้าวสู่ยุคที่เยาวชนก้าวขึ้นมามีบทบาททางการเมือง เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ร่วมมือกัน ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยเป็นผลสำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวความคิดอนุรักษ์ที่ขอจดทะเบียนใหม่ในปี 2518 โดยมี ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค และทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์กลับมาใหม่อีกครั้ง นักการเมืองรุ่นใหม่อย่างเช่นนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็สมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2518 และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกจำนวน 72 คน นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหนึ่งในจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่สมัครครั้งแรกก็ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้น<ref>ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. '''สุดยอดผู้นำทางการเมือง.''' กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 164-166.</ref> หลังจากนั้นท่านก็ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในหลายกระทรวง ดังนี้<ref>วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. '''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.</ref>
การเริ่มต้นชีวิตการเมืองของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นการเริ่มต้นขณะที่ประเทศไทยก้าวสู่ยุคที่เยาวชนก้าวขึ้นมามีบทบาททางการเมือง เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยเป็นผลสำเร็จ [[พรรคประชาธิปัตย์]]เป็น[[พรรคการเมือง]]ที่มีแนวความคิดอนุรักษ์ที่ขอจดทะเบียนใหม่ในปี 2518 โดยมี [[เสนีย์ ปราโมช|ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช]] เป็นหัวหน้าพรรค และทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์กลับมาใหม่อีกครั้ง นักการเมืองรุ่นใหม่อย่างเช่นนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็สมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก[[สภาผู้แทนราษฎร]] ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็น[[การเลือกตั้ง]]สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2518 และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกจำนวน 72 คน นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหนึ่งในจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่สมัครครั้งแรกก็ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้น<ref>ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. '''สุดยอดผู้นำทางการเมือง.''' กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 164-166.</ref> หลังจากนั้นท่านก็ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ[[รัฐมนตรี]]ในหลายกระทรวง ดังนี้<ref>วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. '''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.</ref>


1. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 13 สมัย ในปี  2518, 2519, 2522, 2526, 2529, 2531, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550 โดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาโดยตลอด ยกเว้นในปี 2544 เป็นต้นมาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ และสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรสัดส่วน
1. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 13 สมัย ในปี  2518, 2519, 2522, 2526, 2529, 2531, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550 โดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาโดยตลอด ยกเว้นในปี 2544 เป็นต้นมาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสัดส่วน


2. รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2519  
2. รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2519  
บรรทัดที่ 57: บรรทัดที่ 57:
12. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2546- 2548  
12. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2546- 2548  


ทั้งนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปี 2546จึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 6 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2546 ภายใต้สโลแกน “ประชาธิปไตยทศวรรษใหม่” ด้วยการดำเนินงานเพื่อพัฒนาตามแผน “3 ป.” คือ เปิด ปรับ และเปลี่ยน ด้วยการเลือกของสมาชิกพรรค หลังจากนายชวน หลีกภัย หมดวาระไป<ref>ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. '''สุดยอดผู้นำทางการเมือง.''' กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 176 และ 182.</ref> ต่อมาหลังจากการเลือกตั้งในปี 2548 ท่านได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพรรคไม่ประสบความสำเร็จจากการเลือกตั้ง ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งจะขอลาออก อย่างไรก็ตาม นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้คดียุบพรรค โดยได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะทำงานเตรียมสำนวนคดี และสามารถนำพาพรรคผ่านพ้นคดียุบพรรคได้สำเร็จ ปัจจุบันท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน กลุ่ม 8 และสมาชิกสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์<ref>วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. '''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.</ref>  
ทั้งนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปี 2546 จึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 6 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2546 ภายใต้สโลแกน “ประชาธิปไตยทศวรรษใหม่” ด้วยการดำเนินงานเพื่อพัฒนาตามแผน “3 ป.” คือ เปิด ปรับ และเปลี่ยน ด้วยการเลือกของสมาชิกพรรค หลังจากนายชวน หลีกภัย หมดวาระไป<ref>ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. '''สุดยอดผู้นำทางการเมือง.''' กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 176 และ 182.</ref> ต่อมาหลังจากการเลือกตั้งในปี 2548 ท่านได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพรรคไม่ประสบความสำเร็จจากการเลือกตั้ง ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งจะขอลาออก อย่างไรก็ตาม นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้คดียุบพรรค โดยได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะทำงานเตรียมสำนวนคดี และสามารถนำพาพรรคผ่านพ้นคดียุบพรรคได้สำเร็จ ปัจจุบันท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน กลุ่ม 8 และสมาชิกสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์<ref>วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. '''นายบัญญัติ บรรทัดฐาน.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.</ref>  
 
 
==การดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร==
==การดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร==


นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อจากนายชวน หลีกภัย ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2546 และดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่  23 พฤษภาคม 2546 เนื่องจากนายชวน หลีกภัย ได้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2546 ทำให้นายชวน หลีกภัย ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้นำฝ่ายค้านใน สภาผู้แทนราษฎร จึงพ้นจากตำแหน่งตามความในมาตรา 120 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขณะเดียวกันนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ซึ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคุณสมบัติตามความในมาตรา 120 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สมควรเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นาย อุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ<ref>ประกาศแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร. '''ราชกิจจานุเบกษา''' ตอนที่ 120 ตอนพิเศษ 61 ง, วันที่ 30 พฤษภาคม 2546, หน้า 1.</ref>
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อจากนายชวน หลีกภัย ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2546 และดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่  23 พฤษภาคม 2546 เนื่องจากนาย[[ชวน หลีกภัย]] ได้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2546 ทำให้นายชวน หลีกภัย ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จึงพ้นจากตำแหน่งตามความในมาตรา 120 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขณะเดียวกันนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ซึ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคุณสมบัติตามความในมาตรา 120 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สมควรเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นาย[[อุทัย พิมพ์ใจชน]] [[ประธานสภาผู้แทนราษฎร]] เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ<ref>ประกาศแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร. '''ราชกิจจานุเบกษา''' ตอนที่ 120 ตอนพิเศษ 61 ง, วันที่ 30 พฤษภาคม 2546, หน้า 1.</ref>
   
   
ส่วน'''บทบาทผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร'''ของประเทศไทยที่ชื่อว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในระหว่างที่ท่านดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่  23 พฤษภาคม 2546 – 5 มกราคม 2548 นั้น ท่านได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยมีการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 ครั้ง คือ  
ส่วน'''บทบาทผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร'''ของประเทศไทยที่ชื่อว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในระหว่างที่ท่านดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่  23 พฤษภาคม 2546 – 5 มกราคม 2548 นั้น ท่านได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยมีการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 ครั้ง คือ  


'''1. การอภิปรายทั่วไป ครั้งที่ 50''' ในปี 2546 สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 130 คน เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่ได้เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายให้ทำหน้าที่เป็นผู้อภิปรายในการนำเสนอญัตติดังกล่าว โดยญัตติขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 5 คน ดังนี้<ref>รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 28(สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546 หน้า 13-16.</ref>
'''1. การอภิปรายทั่วไป ครั้งที่ 50''' ในปี 2546 สมัย [[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 130 คน เสนอ[[ญัตติ]]ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่ได้เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายให้ทำหน้าที่เป็นผู้อภิปรายในการนำเสนอญัตติดังกล่าว โดย[[ญัตติ]]ขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 5 คน ดังนี้<ref>รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 28(สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546 หน้า 13-16.</ref>


1. รัฐมนตรีที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจำนวน 1 ท่าน ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
1. รัฐมนตรีที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจำนวน 1 ท่าน ได้แก่ นาย[[สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม


2. รัฐมนตรีที่ถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียวมีจำนวน 4 ท่าน ได้แก่ 1) นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2) นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 3) นายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 4) นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  
2. รัฐมนตรีที่ถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียวมีจำนวน 4 ท่าน ได้แก่ 1) นาย[[สรอรรถ กลิ่นประทุม]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2) นาย[[อดิศัย โพธารามิก]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 3) นาย[[ปองพล อดิเรกสาร]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 4) นาย[[สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  


โดยสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 28/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546 ครั้งที่ 29/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546<ref>รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546 หน้า 1.</ref> และในการประชุมครั้งที่ 30/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ รัฐมนตรีการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 357 เสียง ไม่ไว้วางใจ 125 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการะทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายสรอรรถ กลิ่นประทุม) คะแนนเสียงไว้วางใจ 359 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอดิศัย โพธารามิก) คะแนนเสียงไว้วางใจ 358 เสียง ไม่ไว้วางใจ 125 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายปองพล อดิเรกสาร) คะแนนเสียงไว้วางใจ 359 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) คะแนนเสียงไว้วางใจ 358 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง<ref>รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 30 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546 หน้า 3-9.</ref>
โดยสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 28/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546 ครั้งที่ 29/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546<ref>รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546 หน้า 1.</ref> และในการประชุมครั้งที่ 30/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ รัฐมนตรีการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 357 เสียง ไม่ไว้วางใจ 125 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการะทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายสรอรรถ กลิ่นประทุม) คะแนนเสียงไว้วางใจ 359 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอดิศัย โพธารามิก) คะแนนเสียงไว้วางใจ 358 เสียง ไม่ไว้วางใจ 125 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายปองพล อดิเรกสาร) คะแนนเสียงไว้วางใจ 359 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) คะแนนเสียงไว้วางใจ 358 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง<ref>รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 30 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546 หน้า 3-9.</ref>
บรรทัดที่ 75: บรรทัดที่ 75:
'''2. การอภิปรายทั่วไป ครั้งที่ 51''' ในปี 2547 สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 158 คน เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่ได้เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายให้เป็นผู้นำเสนอญัตติและอภิปรายก่อน โดยญัตติขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 8 คน ดังนี้<ref>ตวงรัตน์ เลาหัตถพงษ์ภูริ. '''สถิติการเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา.''' กรุงเทพฯ : ม.ป.ท., ม.ป.ป.. หน้า 33-39.</ref>
'''2. การอภิปรายทั่วไป ครั้งที่ 51''' ในปี 2547 สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 158 คน เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่ได้เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายให้เป็นผู้นำเสนอญัตติและอภิปรายก่อน โดยญัตติขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 8 คน ดังนี้<ref>ตวงรัตน์ เลาหัตถพงษ์ภูริ. '''สถิติการเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา.''' กรุงเทพฯ : ม.ป.ท., ม.ป.ป.. หน้า 33-39.</ref>


1. รัฐมนตรีที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจำนวน 2 ท่าน ได้แก่ 1) นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รองนายกรัฐมนตรี
1. รัฐมนตรีที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจำนวน 2 ท่าน ได้แก่ 1) นาย[[อดิศัย โพธารามิก]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2) นาย[[วันมูหะมัดนอร์ มะทา]] รองนายกรัฐมนตรี


2. รัฐมนตรีที่ถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียว มีจำนวน 6 ท่าน ได้แก่ 1) พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี 2) ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายกรัฐมนตรี 3) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 5) นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร 6) นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
2. รัฐมนตรีที่ถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียว มีจำนวน 6 ท่าน ได้แก่ 1) [[ชวลิต ยงใจยุทธ|พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ]] รองนายกรัฐมนตรี 2) [[สุชาติ เชาว์วิศิษฐ|ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ]] รองนายกรัฐมนตรี 3) นาย[[สมคิด จาตุศรีพิทักษ์]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4) นาย[[สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 5) นาย[[สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6) นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์


โดยสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 28/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2547 ครั้งที่ 29/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2547 และครั้งที่ 30/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2547 และในการประชุมครั้งที่ 31/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2547 ที่ประชุมได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอดิศัย โพธารามิก) คะแนนเสียงไว้วางใจ 335 เสียง ไม่ไว้วางใจ 152 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 334 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 331 เสียง ไม่ไว้วางใจ 157 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 157 เสียง งดออกเสียง 6 เสียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) คะแนนเสียงไว้วางใจ 331 เสียง ไม่ไว้วางใจ 158 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวัฒนา เมืองสุข) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง
โดยสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 28/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2547 ครั้งที่ 29/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2547 และครั้งที่ 30/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2547 และในการประชุมครั้งที่ 31/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2547 ที่ประชุมได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอดิศัย โพธารามิก) คะแนนเสียงไว้วางใจ 335 เสียง ไม่ไว้วางใจ 152 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 334 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 331 เสียง ไม่ไว้วางใจ 157 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 157 เสียง งดออกเสียง 6 เสียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) คะแนนเสียงไว้วางใจ 331 เสียง ไม่ไว้วางใจ 158 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวัฒนา เมืองสุข) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง


นอกจากนี้ ในสมัยนายอุทัย พิมพ์ใจชน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง<ref>รัฐสภา. สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547. ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, February 24, 2004.</ref> ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประมวล รุจนเสรี) ตอบกระทู้ว่า นับแต่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารราชการนั้นประชาชนจำนวนมากถูกลอบฆ่าและถูกทำร้ายเสียชีวิตเป็นประจำ และไม่สามารถหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้นั้น เนื่องจากคดีทุกคดีที่เกิดขึ้นกระทรวงมหาดไทยได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและได้ให้ความสำคัญกับทุกคดีที่เกิดขึ้น แต่กระทรวงฯ ก็ได้มอบนโยบายให้ตำรวจภูธรทุกแห่งดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดกำแพงเพชรนั้น จะมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดูแลด้วยตนเอง และจะนำผลการสอบสวนมารายงานให้รับทราบเป็นระยะๆ ต่อไป รวมทั้งในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอยู่นั้น ท่านยังให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตหลายประเทศ อาทิ นาย Stefano Starace Janfolla เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย<ref>สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สำนักประชาสัมพันธ์. '''สาร ส.ส.''' ฉบับที่ 32 ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2546.</ref> นายโลรอง โอแบลง (Mr.Laurent Aublin) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย<ref>สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สำนักประชาสัมพันธ์. '''สาร ส.ส.''' ฉบับที่ 33 ประจำวันที่ 4-10 สิงหาคม 2546.</ref> นางลีลา กฤษณะมูรติ โปนัปปะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย<ref>รัฐสภา. '''ใช้ศิลปะปลูกฝังคุณธรรมในภาพยนตร์อินเดีย.''' ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, August 26, 2003.</ref> นายออ ซอง ชูล (Mr. O Song Chol) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย<ref>รัฐสภา. '''ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองทูตเกาหลีคนใหม่.''' ฐานข้อมูล Biznews. Monday, December 01, 2003. </ref> และนายซูซูมุ ฮาเซกาว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย<ref>สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,สำนักประชาสัมพันธ์. '''สาร ส.ส.''' ฉบับที่ 51 ประจำวันที่ 15-21 ธันวาคม 2546. </ref>
นอกจากนี้ ในสมัยนาย[[อุทัย พิมพ์ใจชน]] ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง<ref>รัฐสภา. สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547. ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, February 24, 2004.</ref> ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นาย[[ประมวล รุจนเสรี]]) ตอบกระทู้ว่า นับแต่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารราชการนั้นประชาชนจำนวนมากถูกลอบฆ่าและถูกทำร้ายเสียชีวิตเป็นประจำ และไม่สามารถหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้นั้น เนื่องจากคดีทุกคดีที่เกิดขึ้นกระทรวงมหาดไทยได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและได้ให้ความสำคัญกับทุกคดีที่เกิดขึ้น แต่กระทรวงฯ ก็ได้มอบนโยบายให้ตำรวจภูธรทุกแห่งดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดกำแพงเพชรนั้น จะมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดูแลด้วยตนเอง และจะนำผลการสอบสวนมารายงานให้รับทราบเป็นระยะๆ ต่อไป รวมทั้งในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอยู่นั้น ท่านยังให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตหลายประเทศ อาทิ นาย Stefano Starace Janfolla เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย<ref>สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สำนักประชาสัมพันธ์. '''สาร ส.ส.''' ฉบับที่ 32 ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2546.</ref> นายโลรอง โอแบลง (Mr.Laurent Aublin) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย<ref>สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สำนักประชาสัมพันธ์. '''สาร ส.ส.''' ฉบับที่ 33 ประจำวันที่ 4-10 สิงหาคม 2546.</ref> นางลีลา กฤษณะมูรติ โปนัปปะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย<ref>รัฐสภา. '''ใช้ศิลปะปลูกฝังคุณธรรมในภาพยนตร์อินเดีย.''' ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, August 26, 2003.</ref> นายออ ซอง ชูล (Mr. O Song Chol) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย<ref>รัฐสภา. '''ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองทูตเกาหลีคนใหม่.''' ฐานข้อมูล Biznews. Monday, December 01, 2003. </ref> และนายซูซูมุ ฮาเซกาว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย<ref>สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,สำนักประชาสัมพันธ์. '''สาร ส.ส.''' ฉบับที่ 51 ประจำวันที่ 15-21 ธันวาคม 2546. </ref>


จากการปฏิบัติหน้าที่ของนายบัญญัติ บรรทัดฐานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่าท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ขยันหมั่นเพียร ดังจะเห็นได้จากการที่ท่านเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 164 คน ที่เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้ง โดยไม่เคยขาดหรือลาการประชุม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป สมัยวิสามัญ และสมัยสามัญนิติบัญญัติ ปี 2546อีกด้วย<ref>'''มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ส.ส. ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.ryt9.com/s/ryt9/129025 สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.</ref>
จากการปฏิบัติหน้าที่ของนายบัญญัติ บรรทัดฐานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่าท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ขยันหมั่นเพียร ดังจะเห็นได้จากการที่ท่านเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 164 คน ที่เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้ง โดยไม่เคยขาดหรือลาการประชุมใน[[การประชุมสภา]]ผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป สมัยวิสามัญ และสมัยสามัญนิติบัญญัติ ปี 2546อีกด้วย<ref>'''มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ส.ส. ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น.''' (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.ryt9.com/s/ryt9/129025 สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.</ref>


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:48, 23 กุมภาพันธ์ 2553

ผู้เรียบเรียง พุทธชาติ ทองเอม

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง


ตามประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศไทย มีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 7 ท่าน ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นผู้ได้รับฉายาว่า “บัญญัติ 10 ประการ”[1]

ประวัติ

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม 2485[2] ที่ตำบลกะแดะ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมชื่อ เก้าแซ่ แซ่ลิ้ม[3] เป็นบุตรของนายตริ กับ นางหยี แซ่ลิ้ม หรือที่ต่อมาคือ “บรรทัดฐาน”[4]

การศึกษา[5]

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เริ่มต้นเข้าเรียนชั้นประถมและมัธยมตอนต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัด สุราษฎร์ธานี หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมตอนต้นแล้วก็เดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อเรียนต่อในชั้นมัธยมปีที่ 7 และ 8 ที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ และสมัครเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์รุ่นแรกที่ต้องสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อ โดยใช้เวลาเรียน 4 ปี ก็สำเร็จการศึกษา “นิติศาสตร์บัณฑิต” มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รับราชการ[6],[7]

เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในปี 2513 นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เข้ารับราชการตำแหน่งวิทยากรประจำจังหวัดเลย ในสังกัดสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท กระทรวงมหาดไทยอยู่ระยะหนึ่ง ท่านก็ลาออกเพื่อเป็นทนายความ แต่ท่านยึดอาชีพทนายความได้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ท่านก็กลับเข้ารับราชการอีกครั้งในตำแหน่งพัฒนากรประจำสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทแห่งจังหวัดเลย และในปี 2518 ท่านก็เข้าสู่วงการเมืองเป็นนักการเมืองอาชีพตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

สถานภาพ สมรสกับนางจิตติมา สังขะทรัพย์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[8]

มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)

มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)

การดำรงตำแหน่งทางการเมือง

การเริ่มต้นชีวิตการเมืองของนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นการเริ่มต้นขณะที่ประเทศไทยก้าวสู่ยุคที่เยาวชนก้าวขึ้นมามีบทบาททางการเมือง เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ร่วมมือกันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยเป็นผลสำเร็จ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีแนวความคิดอนุรักษ์ที่ขอจดทะเบียนใหม่ในปี 2518 โดยมี ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช เป็นหัวหน้าพรรค และทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์กลับมาใหม่อีกครั้ง นักการเมืองรุ่นใหม่อย่างเช่นนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็สมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2518 และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกจำนวน 72 คน นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหนึ่งในจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่สมัครครั้งแรกก็ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้น[9] หลังจากนั้นท่านก็ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในหลายกระทรวง ดังนี้[10]

1. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 13 สมัย ในปี 2518, 2519, 2522, 2526, 2529, 2531, 2535/1, 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550 โดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมาโดยตลอด ยกเว้นในปี 2544 เป็นต้นมาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสัดส่วน

2. รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2519

3. เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี 2519

4. โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2522 – 2523

5. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี 2523 – 2526

6. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2526 – 2529

7. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพลังงาน ปี 2529 – 2531

8. ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปี 2531 – 2533

9. รองนายกรัฐมนตรี ปี 2535- 2538

10. ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปี 2541 – 2543[11]

11. รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปี 2543

12. หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2546- 2548

ทั้งนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี 2530 จนถึงปี 2546 จึงก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 6 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2546 ภายใต้สโลแกน “ประชาธิปไตยทศวรรษใหม่” ด้วยการดำเนินงานเพื่อพัฒนาตามแผน “3 ป.” คือ เปิด ปรับ และเปลี่ยน ด้วยการเลือกของสมาชิกพรรค หลังจากนายชวน หลีกภัย หมดวาระไป[12] ต่อมาหลังจากการเลือกตั้งในปี 2548 ท่านได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อพรรคไม่ประสบความสำเร็จจากการเลือกตั้ง ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าพรรคพ่ายแพ้การเลือกตั้งจะขอลาออก อย่างไรก็ตาม นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้คดียุบพรรค โดยได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะทำงานเตรียมสำนวนคดี และสามารถนำพาพรรคผ่านพ้นคดียุบพรรคได้สำเร็จ ปัจจุบันท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบสัดส่วน กลุ่ม 8 และสมาชิกสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์[13]

การดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต่อจากนายชวน หลีกภัย ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2546 และดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2546 เนื่องจากนายชวน หลีกภัย ได้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2546 ทำให้นายชวน หลีกภัย ขาดคุณสมบัติของการเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จึงพ้นจากตำแหน่งตามความในมาตรา 120 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขณะเดียวกันนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ซึ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคุณสมบัติตามความในมาตรา 120 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย สมควรเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ[14]

ส่วนบทบาทผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรของประเทศไทยที่ชื่อว่า นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ในระหว่างที่ท่านดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2546 – 5 มกราคม 2548 นั้น ท่านได้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 โดยมีการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 ครั้ง คือ

1. การอภิปรายทั่วไป ครั้งที่ 50 ในปี 2546 สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 130 คน เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่ได้เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายให้ทำหน้าที่เป็นผู้อภิปรายในการนำเสนอญัตติดังกล่าว โดยญัตติขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 5 คน ดังนี้[15]

1. รัฐมนตรีที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจำนวน 1 ท่าน ได้แก่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

2. รัฐมนตรีที่ถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียวมีจำนวน 4 ท่าน ได้แก่ 1) นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2) นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ 3) นายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 4) นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

โดยสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 28/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546 ครั้งที่ 29/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546[16] และในการประชุมครั้งที่ 30/2546 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ รัฐมนตรีการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 357 เสียง ไม่ไว้วางใจ 125 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการะทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายสรอรรถ กลิ่นประทุม) คะแนนเสียงไว้วางใจ 359 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอดิศัย โพธารามิก) คะแนนเสียงไว้วางใจ 358 เสียง ไม่ไว้วางใจ 125 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายปองพล อดิเรกสาร) คะแนนเสียงไว้วางใจ 359 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) คะแนนเสียงไว้วางใจ 358 เสียง ไม่ไว้วางใจ 126 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง[17]

2. การอภิปรายทั่วไป ครั้งที่ 51 ในปี 2547 สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 158 คน เสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่ได้เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายให้เป็นผู้นำเสนอญัตติและอภิปรายก่อน โดยญัตติขอเปิดอภิปรายในครั้งนี้มีรัฐมนตรีถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ จำนวน 8 คน ดังนี้[18]

1. รัฐมนตรีที่ถูกยื่นคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีจำนวน 2 ท่าน ได้แก่ 1) นายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 2) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา รองนายกรัฐมนตรี

2. รัฐมนตรีที่ถูกขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียว มีจำนวน 6 ท่าน ได้แก่ 1) พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี 2) ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รองนายกรัฐมนตรี 3) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 5) นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6) นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาในการประชุมครั้งที่ 28/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2547 ครั้งที่ 29/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2547 และครั้งที่ 30/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2547 และในการประชุมครั้งที่ 31/2547 (สมัยสามัญทั่วไป) วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2547 ที่ประชุมได้ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ดังนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายอดิศัย โพธารามิก) คะแนนเสียงไว้วางใจ 335 เสียง ไม่ไว้วางใจ 152 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 334 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยเอก สุชาติ เชาว์วิศิษฐ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 331 เสียง ไม่ไว้วางใจ 157 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 157 เสียง งดออกเสียง 6 เสียงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) คะแนนเสียงไว้วางใจ 331 เสียง ไม่ไว้วางใจ 158 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวัฒนา เมืองสุข) คะแนนเสียงไว้วางใจ 333 เสียง ไม่ไว้วางใจ 156 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง

นอกจากนี้ ในสมัยนายอุทัย พิมพ์ใจชน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังได้ตั้งกระทู้ถามสด ถามนายกรัฐมนตรี เรื่อง[19] ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประมวล รุจนเสรี) ตอบกระทู้ว่า นับแต่รัฐบาลได้เข้ามาบริหารราชการนั้นประชาชนจำนวนมากถูกลอบฆ่าและถูกทำร้ายเสียชีวิตเป็นประจำ และไม่สามารถหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้นั้น เนื่องจากคดีทุกคดีที่เกิดขึ้นกระทรวงมหาดไทยได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและได้ให้ความสำคัญกับทุกคดีที่เกิดขึ้น แต่กระทรวงฯ ก็ได้มอบนโยบายให้ตำรวจภูธรทุกแห่งดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดและหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นในจังหวัดกำแพงเพชรนั้น จะมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดูแลด้วยตนเอง และจะนำผลการสอบสวนมารายงานให้รับทราบเป็นระยะๆ ต่อไป รวมทั้งในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอยู่นั้น ท่านยังให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตหลายประเทศ อาทิ นาย Stefano Starace Janfolla เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย[20] นายโลรอง โอแบลง (Mr.Laurent Aublin) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย[21] นางลีลา กฤษณะมูรติ โปนัปปะ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย[22] นายออ ซอง ชูล (Mr. O Song Chol) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย[23] และนายซูซูมุ ฮาเซกาว่า เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย[24]

จากการปฏิบัติหน้าที่ของนายบัญญัติ บรรทัดฐานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่าท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน ขยันหมั่นเพียร ดังจะเห็นได้จากการที่ท่านเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 164 คน ที่เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้ง โดยไม่เคยขาดหรือลาการประชุมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญทั่วไป สมัยวิสามัญ และสมัยสามัญนิติบัญญัติ ปี 2546อีกด้วย[25]

อ้างอิง

  1. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.
  2. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.democrat.or.th/teamwork_democrat/ per_banyat.htm สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.
  3. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.
  4. ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. สุดยอดผู้นำทางการเมือง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 159.
  5. ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. สุดยอดผู้นำทางการเมือง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 160-161.
  6. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.
  7. ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. สุดยอดผู้นำทางการเมือง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 162-163.
  8. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.democrat.or.th/teamwork_democrat/ per_banyat.htm สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.
  9. ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. สุดยอดผู้นำทางการเมือง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 164-166.
  10. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.
  11. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.democrat.or.th/teamwork_democrat/ per_banyat.htm สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.
  12. ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. สุดยอดผู้นำทางการเมือง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547. หน้า 176 และ 182.
  13. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.
  14. ประกาศแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 120 ตอนพิเศษ 61 ง, วันที่ 30 พฤษภาคม 2546, หน้า 1.
  15. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 28(สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546 หน้า 13-16.
  16. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546 หน้า 1.
  17. รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 30 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546 หน้า 3-9.
  18. ตวงรัตน์ เลาหัตถพงษ์ภูริ. สถิติการเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา. กรุงเทพฯ : ม.ป.ท., ม.ป.ป.. หน้า 33-39.
  19. รัฐสภา. สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547. ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, February 24, 2004.
  20. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สำนักประชาสัมพันธ์. สาร ส.ส. ฉบับที่ 32 ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2546.
  21. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, สำนักประชาสัมพันธ์. สาร ส.ส. ฉบับที่ 33 ประจำวันที่ 4-10 สิงหาคม 2546.
  22. รัฐสภา. ใช้ศิลปะปลูกฝังคุณธรรมในภาพยนตร์อินเดีย. ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, August 26, 2003.
  23. รัฐสภา. ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองทูตเกาหลีคนใหม่. ฐานข้อมูล Biznews. Monday, December 01, 2003.
  24. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,สำนักประชาสัมพันธ์. สาร ส.ส. ฉบับที่ 51 ประจำวันที่ 15-21 ธันวาคม 2546.
  25. มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ส.ส. ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.ryt9.com/s/ryt9/129025 สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.

หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ

ตวงรัตน์ เลาหัตถพงษ์ภูริ. สถิติการเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา. กรุงเทพฯ : ม.ป.ท., ม.ป.ป..

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 55 ก เล่ม 114, วันที่ 11 ตุลาคม 2540.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. หนังสือที่ระลึกครบรอบ 72 ปี รัฐสภาไทย. กรุงเทพฯ : สำนักการพิมพ์, 2547.

บรรณานุกรม

ตวงรัตน์ เลาหัตถพงษ์ภูริ. สถิติการเปิดอภิปรายทั่วไปในรัฐสภา. กรุงเทพฯ : ม.ป.ท., ม.ป.ป..

ธนวัฒน์ ทรัพย์ไพบูลย์. สุดยอดผู้นำทางการเมือง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ทรีบีส์ บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, 2547.

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.democrat.or.th/teamwork_democrat/ per_banyat.htm สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.

ประกาศแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 120 ตอนพิเศษ 61 ง, วันที่ 30 พฤษภาคม 2546.

เปิดฉากซักฟอก บัญญัติแจงเหตุ ยื่นญัตติ "สุริยะ" ข้อหาหนัก. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.bangkokbiznews.com/2003/special/apipry/news.php?news=news2807.html สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.

มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ส.ส. ผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.ryt9.com/s/ryt9/129025 สืบค้น ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2552.

รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 28(สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2546.

รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม 2546.

รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 3 ครั้งที่ 30 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม 2546.

รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 4 ครั้งที่ 31 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม 2547

รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 21 ปีที่ 4 ครั้งที่ 28 (สมัยสามัญทั่วไป) เป็นพิเศษ วันพุธที่ 19 พฤษภาคม 2547.

รัฐสภา. สรุปการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2547. ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, February 24, 2004.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,สำนักประชาสัมพันธ์. สาร ส.ส. ฉบับที่ 32 ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2546.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,สำนักประชาสัมพันธ์. สาร ส.ส. ฉบับที่ 33 ประจำวันที่ 4-10 สิงหาคม 2546.

รัฐสภา. ใช้ศิลปะปลูกฝังคุณธรรมในภาพยนตร์อินเดีย. ฐานข้อมูล Biznews. Tuesday, August 26, 2003.

รัฐสภา. ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้การรับรองทูตเกาหลีคนใหม่. ฐานข้อมูล Biznews. Monday, December 1, 2003.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,สำนักประชาสัมพันธ์. สาร ส.ส. ฉบับที่ 51 ประจำวันที่ 15-21 ธันวาคม 2546.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. ราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 55 ก เล่ม 114, วันที่ 11 ตุลาคม 2540.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. ทำเนียบผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://www.parliament.go.th/parcy/sapa_index.php?item=0900&post_id=5 สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. หนังสือที่ระลึกครบรอบ 72 ปี รัฐสภาไทย. กรุงเทพฯ : สำนักการพิมพ์, 2547.

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. รายนามผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย. (ออนไลน์) เข้าถึงได้จาก http://th.wikipedia.org/wiki สืบค้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2552.