ผลต่างระหว่างรุ่นของ "1 ธันวาคม พ.ศ. 2494"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 8: บรรทัดที่ 8:
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2494 [[สภาผู้แทนราษฎร]]ได้มีการประชุมกันและมีมติเลือก [[พลโท พระประจนปัจจนึก]] เป็น[[ประธานสภาผู้แทนราษฎร]] คนที่ 8 โดยมี[[พระราชธรรมนิเทศ]] เป็น[[รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1]] และ[[พลตรี พระยาอานุภาพไตรภพ]] เป็น[[รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2]] ทั้ง 3 ท่านเป็น[[สมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ประเภทที่ 2 ที่ได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2494
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2494 [[สภาผู้แทนราษฎร]]ได้มีการประชุมกันและมีมติเลือก [[พลโท พระประจนปัจจนึก]] เป็น[[ประธานสภาผู้แทนราษฎร]] คนที่ 8 โดยมี[[พระราชธรรมนิเทศ]] เป็น[[รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1]] และ[[พลตรี พระยาอานุภาพไตรภพ]] เป็น[[รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2]] ทั้ง 3 ท่านเป็น[[สมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ประเภทที่ 2 ที่ได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2494


พลโทพระประจนปัจจนึก (พุก มหาดิลก) นั้นแม้จะมิได้มีชื่อเป็น[[ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 247]]5 ก็ตาม แต่ก็ได้ดีทางการเมืองได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 มาตั้งแต่การมีผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกในปี พ.ศ. 2476 จนถึง พ.ศ. 2489 ตอนนั้นท่านมียศทหารเพียง “นายพันโท” และในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2477 ก็ได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นอยู่เป็นเวลา 10 ปี หลังการยึดอำนาจของคณะผู้บริหารประเทศชั่วคราวที่นำโดยฯ นายพลจาก 3 กองทัพ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภท 2 อีกครั้ง
พลโทพระประจนปัจจนึก (พุก มหาดิลก) นั้นแม้จะมิได้มีชื่อเป็น[[ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2475]] ก็ตาม แต่ก็ได้ดีทางการเมืองได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 มาตั้งแต่การมีผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกในปี พ.ศ. 2476 จนถึง พ.ศ. 2489 ตอนนั้นท่านมียศทหารเพียง “นายพันโท” และในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2477 ก็ได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นอยู่เป็นเวลา 10 ปี หลังการยึดอำนาจของคณะผู้บริหารประเทศชั่วคราวที่นำโดยฯ นายพลจาก 3 กองทัพ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภท 2 อีกครั้ง


การเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้มีสมาชิกประเภทที่ 2 อยู่ประเภทเดียวก็ตาม แต่ก็ได้ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรจนกระทั้งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 มี[[การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475]] และได้ประกาศใช้ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 เป็น[[รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495]]
การเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้มีสมาชิกประเภทที่ 2 อยู่ประเภทเดียวก็ตาม แต่ก็ได้ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรจนกระทั้งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ [[26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495]] มี[[การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475]] และได้ประกาศใช้ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 เป็น[[รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495]]


ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2495 ได้มี[[การประชุมสภาผู้แทนราษฎร]] และมติที่ประชุมก็ได้เลือก พลโทพระประจนปัจจนึกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งโดยเลือกรองประธานคนเดิมทั้ง 2 ท่านเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และรองประธานสภาคนที่ 2 อย่างเดิม แต่[[พระราชธรรมนิเทศ]]นั้นเป็นผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งจังหวัดปทุมธานี โดย[[จอมพล ป.พิบูลสงคราม]]ก็ได้กลับเข้ามาเป็น[[นายกรัฐมนตรี]]
ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2495 ได้มี[[การประชุมสภาผู้แทนราษฎร]] และมติที่ประชุมก็ได้เลือก พลโทพระประจนปัจจนึกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งโดยเลือกรองประธานคนเดิมทั้ง 2 ท่านเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และรองประธานสภาคนที่ 2 อย่างเดิม แต่[[พระราชธรรมนิเทศ]]นั้นเป็นผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งจังหวัดปทุมธานี โดย[[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป.พิบูลสงคราม]]ก็ได้กลับเข้ามาเป็น[[นายกรัฐมนตรี]]


พลโท พระประจนปัจจานึกได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ต่อมาจนมามี[[การเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500]] หลังเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ท่านก็ยังได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อเนื่องมาแม้จะมีการยึดอำนาจของ[[จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์]] เข้ามาแทรกในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ก็ตาม เมื่อมีสภาผู้แทนราษฎรท่านก็ยังได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 เมื่อจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะยึดอำนาจซ้ำอีกครั้ง แสดงว่าท่านมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำทหารทั้ง[[จอมพล ป.พิบูลสงคราม]] และจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แม้จะเปลี่ยน[[รัฐบาล]]ท่านก็ยังเป็นตัวเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร จนมามี[[สภาร่างรัฐธรรมนูญ]]สภาที่ 2 ใน พ.ศ. 2502 ท่านจึงไม่ได้เป็นประธานแต่ก็ยังเป็น[[สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ]] มาจนสิ้นวาระใน พ.ศ. 2511 ท่านเสียชีวิตในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531
พลโท พระประจนปัจจานึกได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ต่อมาจนมามีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ [[26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500]] หลังเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ท่านก็ยังได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อเนื่องมาแม้จะมีการยึดอำนาจของ[[สฤษดิ์ ธนะรัชต์|จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์]] เข้ามาแทรกในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ก็ตาม เมื่อมีสภาผู้แทนราษฎรท่านก็ยังได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 เมื่อจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะยึดอำนาจซ้ำอีกครั้ง แสดงว่าท่านมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำทหารทั้งจอมพล ป.พิบูลสงคราม และจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แม้จะเปลี่ยน[[รัฐบาล]]ท่านก็ยังเป็นตัวเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร จนมามี[[สภาร่างรัฐธรรมนูญ]]สภาที่ 2 ใน พ.ศ. 2502 ท่านจึงไม่ได้เป็นประธานแต่ก็ยังเป็น[[สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ]] มาจนสิ้นวาระใน พ.ศ. 2511 ท่านเสียชีวิตในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531




[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:38, 15 ตุลาคม 2557

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2494 สภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุมกันและมีมติเลือก พลโท พระประจนปัจจนึก เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 8 โดยมีพระราชธรรมนิเทศ เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และพลตรี พระยาอานุภาพไตรภพ เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทั้ง 3 ท่านเป็นสมาชิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ที่ได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2494

พลโทพระประจนปัจจนึก (พุก มหาดิลก) นั้นแม้จะมิได้มีชื่อเป็นผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2475 ก็ตาม แต่ก็ได้ดีทางการเมืองได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 มาตั้งแต่การมีผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกในปี พ.ศ. 2476 จนถึง พ.ศ. 2489 ตอนนั้นท่านมียศทหารเพียง “นายพันโท” และในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2477 ก็ได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นอยู่เป็นเวลา 10 ปี หลังการยึดอำนาจของคณะผู้บริหารประเทศชั่วคราวที่นำโดยฯ นายพลจาก 3 กองทัพ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภท 2 อีกครั้ง

การเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้มีสมาชิกประเภทที่ 2 อยู่ประเภทเดียวก็ตาม แต่ก็ได้ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรจนกระทั้งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 และได้ประกาศใช้ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 เป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495

ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2495 ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และมติที่ประชุมก็ได้เลือก พลโทพระประจนปัจจนึกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งโดยเลือกรองประธานคนเดิมทั้ง 2 ท่านเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และรองประธานสภาคนที่ 2 อย่างเดิม แต่พระราชธรรมนิเทศนั้นเป็นผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งจังหวัดปทุมธานี โดยจอมพล ป.พิบูลสงครามก็ได้กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี

พลโท พระประจนปัจจานึกได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ต่อมาจนมามีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 หลังเลือกตั้งทั่วไปแล้ว ท่านก็ยังได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อเนื่องมาแม้จะมีการยึดอำนาจของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เข้ามาแทรกในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ก็ตาม เมื่อมีสภาผู้แทนราษฎรท่านก็ยังได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรมาจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 เมื่อจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะยึดอำนาจซ้ำอีกครั้ง แสดงว่าท่านมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำทหารทั้งจอมพล ป.พิบูลสงคราม และจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลท่านก็ยังเป็นตัวเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร จนมามีสภาร่างรัฐธรรมนูญสภาที่ 2 ใน พ.ศ. 2502 ท่านจึงไม่ได้เป็นประธานแต่ก็ยังเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ มาจนสิ้นวาระใน พ.ศ. 2511 ท่านเสียชีวิตในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2531