ผลต่างระหว่างรุ่นของ "10 มิถุนายน พ.ศ. 2535"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2535 เป็นวันที่มีการแต่งตั้ง [[นายอานันท์  ปันยารชุน]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]]ครั้งที่ 2 โดยออกประกาศมาในตอนค่ำของวัน และในวันเดียวกันนี้ในตอนบ่าย[[รัฐสภา]]ได้มีการลงมติในวาระที่ 3 เห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 4 ประเด็นไปก่อนหน้านั้นแล้วคือ
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2535 เป็นวันที่มีการแต่งตั้ง [[อานันท์  ปันยารชุน|นายอานันท์  ปันยารชุน]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]]ครั้งที่ 2 โดยออกประกาศมาในตอนค่ำของวัน และในวันเดียวกันนี้ในตอนบ่าย[[รัฐสภา]]ได้มีการลงมติในวาระที่ 3 เห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 4 ประเด็นไปก่อนหน้านั้นแล้วคือ


ประเด็นที่ 1 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมาจาก[[การเลือกตั้ง]]เท่านั้น
ประเด็นที่ 1 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมาจาก[[การเลือกตั้ง]]เท่านั้น
บรรทัดที่ 16: บรรทัดที่ 16:
ประเด็นที่ 4 แก้ไข[[สมัยการประชุม]] โดยการประชุมสมัยที่ 2 ให้สามารถพิจารณา[[ญัตติ]]ต่าง ๆ ได้
ประเด็นที่ 4 แก้ไข[[สมัยการประชุม]] โดยการประชุมสมัยที่ 2 ให้สามารถพิจารณา[[ญัตติ]]ต่าง ๆ ได้


นายอานันท์  ปันยารชุน ได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ก็เนื่องมาจาก [[พลเอก สุจินดา คราประยูร]] ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นมาเพียง 48 วัน ท่ามกลาง[[การชุมนุม]][[ประท้วง]]ของผู้คน ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 สถานการณ์ทางการเมืองหลังการลาออกของ พลเอก สุจินดา  คราประยูร ก็คือ [[นายอาทิตย์  อุไรรัตน์]] ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องนำชื่อผู้เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย นายอาทิตย์  อุไรรัตน์ มีทางเลือกอยู่ 2 ทางจาก[[สภาผู้แทนราษฎร]] คือ ทางแรก [[พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ]] หัวหน้า[[พรรคความหวังใหม่]] ที่ได้รับการยอมรับจาก[[ฝ่ายค้าน]]และประชาชน แต่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ในสภาผู้แทนฯ ไม่ถึงครึ่ง กับอีกทางหนึ่ง [[พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้า[[พรรคชาติไทย]]ที่มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนฯ เกินกว่าครึ่ง แต่ผู้คนเห็นว่าเป็นผู้สนับสนุน[[คณะ รสช.]] มาตลอดอาจได้รับการประท้วงจากประชาชน และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้เลือกเสนอ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เล่นการเมืองให้เข้ามาแก้ปัญหาการเมืองโดยการ[[ยุบสภา]] ให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ นายอานันท์  ปันยารชุน ผู้ที่มิได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและมิได้สังกัด[[พรรคการเมือง]]จึงได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใคร ๆ ก็แน่ใจว่าต้องเป็นอยู่ในตำแหน่งเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น
นายอานันท์  ปันยารชุน ได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ก็เนื่องมาจาก [[สุจินดา คราประยูร|พลเอก สุจินดา คราประยูร]] ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นมาเพียง 48 วัน ท่ามกลาง[[การชุมนุม]][[ประท้วง]]ของผู้คน ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 สถานการณ์ทางการเมืองหลังการลาออกของ พลเอก สุจินดา  คราประยูร ก็คือ [[อาทิตย์  อุไรรัตน์|นายอาทิตย์  อุไรรัตน์]] ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องนำชื่อผู้เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย นายอาทิตย์  อุไรรัตน์ มีทางเลือกอยู่ 2 ทางจาก[[สภาผู้แทนราษฎร]] คือ ทางแรก [[ชวลิต  ยงใจยุทธ|พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ]] หัวหน้า[[พรรคความหวังใหม่]] ที่ได้รับการยอมรับจาก[[ฝ่ายค้าน]]และประชาชน แต่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ในสภาผู้แทนฯ ไม่ถึงครึ่ง กับอีกทางหนึ่ง [[สมบุญ ระหงษ์|พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์]] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้า[[พรรคชาติไทย]]ที่มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนฯ เกินกว่าครึ่ง แต่ผู้คนเห็นว่าเป็นผู้สนับสนุน[[คณะ รสช.]] มาตลอดอาจได้รับการประท้วงจากประชาชน และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้เลือกเสนอ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เล่นการเมืองให้เข้ามาแก้ปัญหาการเมืองโดยการ[[ยุบสภา]] ให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ นายอานันท์  ปันยารชุน ผู้ที่มิได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและมิได้สังกัด[[พรรคการเมือง]]จึงได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใคร ๆ ก็แน่ใจว่าต้องเป็นอยู่ในตำแหน่งเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น


เมื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งรัฐบาลเรียบร้อยก็ได้นำร่าง[[รัฐธรรมนูญ]]แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา (ประเด็นที่ 2) เรื่องไม่ให้สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล (ประเด็นที่ 3) และเรื่องแก้ไขสมัยการ[[ประชุมสภา]] (ประเด็นที่ 4) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อ[[ลงพระปรมาภิไธย]]ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ส่วนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 ที่บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ประเด็นที่ 1) นั้น ได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายหลัง และได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการประกาศใช้ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2535 โดยให้มีผลในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535 ซึ่งทำให้ นายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งที่อยู่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีหลังการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้วยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปเมื่อมี[[การเลือกตั้ง]]ทั่วไปในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535 จนได้ผลการเลือกตั้ง และได้ตัวนายกรัฐมนตรีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติแล้ว และได้รับการแต่งตั้งคือ [[นายชวน  หลีกภัย]] [[หัวหน้าพรรค]]ประชาธิปัตย์ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง
เมื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งรัฐบาลเรียบร้อยก็ได้นำร่าง[[รัฐธรรมนูญ]]แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา (ประเด็นที่ 2) เรื่องไม่ให้สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล (ประเด็นที่ 3) และเรื่องแก้ไขสมัยการ[[ประชุมสภา]] (ประเด็นที่ 4) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อ[[ลงพระปรมาภิไธย]]ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ส่วนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 ที่บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ประเด็นที่ 1) นั้น ได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายหลัง และได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการประกาศใช้ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2535 โดยให้มีผลในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535 ซึ่งทำให้ นายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งที่อยู่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีหลังการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้วยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปเมื่อมี[[การเลือกตั้ง]]ทั่วไปในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535 จนได้ผลการเลือกตั้ง และได้ตัวนายกรัฐมนตรีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติแล้ว และได้รับการแต่งตั้งคือ [[ชวน  หลีกภัย|นายชวน  หลีกภัย]] [[หัวหน้าพรรค]]ประชาธิปัตย์ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง




[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2520-ปัจจุบัน]]
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2520-ปัจจุบัน]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 15:27, 13 ตุลาคม 2557

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2535 เป็นวันที่มีการแต่งตั้ง นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 โดยออกประกาศมาในตอนค่ำของวัน และในวันเดียวกันนี้ในตอนบ่ายรัฐสภาได้มีการลงมติในวาระที่ 3 เห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 4 ประเด็นไปก่อนหน้านั้นแล้วคือ

ประเด็นที่ 1 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น

ประเด็นที่ 2 ประธานรัฐสภามาจากประธานสภาผู้แทนราษฎร

ประเด็นที่ 3 ตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภาในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ประเด็นที่ 4 แก้ไขสมัยการประชุม โดยการประชุมสมัยที่ 2 ให้สามารถพิจารณาญัตติต่าง ๆ ได้

นายอานันท์ ปันยารชุน ได้เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ก็เนื่องมาจาก พลเอก สุจินดา คราประยูร ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เป็นมาเพียง 48 วัน ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงของผู้คน ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 สถานการณ์ทางการเมืองหลังการลาออกของ พลเอก สุจินดา คราประยูร ก็คือ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะต้องนำชื่อผู้เหมาะสมเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ มีทางเลือกอยู่ 2 ทางจากสภาผู้แทนราษฎร คือ ทางแรก พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ที่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายค้านและประชาชน แต่มีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ในสภาผู้แทนฯ ไม่ถึงครึ่ง กับอีกทางหนึ่ง พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคชาติไทยที่มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนฯ เกินกว่าครึ่ง แต่ผู้คนเห็นว่าเป็นผู้สนับสนุนคณะ รสช. มาตลอดอาจได้รับการประท้วงจากประชาชน และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ได้เลือกเสนอ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้เล่นการเมืองให้เข้ามาแก้ปัญหาการเมืองโดยการยุบสภา ให้ประชาชนตัดสินกันใหม่ นายอานันท์ ปันยารชุน ผู้ที่มิได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและมิได้สังกัดพรรคการเมืองจึงได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ใคร ๆ ก็แน่ใจว่าต้องเป็นอยู่ในตำแหน่งเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น

เมื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งรัฐบาลเรียบร้อยก็ได้นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา (ประเด็นที่ 2) เรื่องไม่ให้สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล (ประเด็นที่ 3) และเรื่องแก้ไขสมัยการประชุมสภา (ประเด็นที่ 4) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อลงพระปรมาภิไธยในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2535 ส่วนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 4 ที่บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ประเด็นที่ 1) นั้น ได้มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายหลัง และได้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการประกาศใช้ในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2535 โดยให้มีผลในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535 ซึ่งทำให้ นายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งที่อยู่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีหลังการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้วยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปเมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535 จนได้ผลการเลือกตั้ง และได้ตัวนายกรัฐมนตรีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติแล้ว และได้รับการแต่งตั้งคือ นายชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง