ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 9: บรรทัดที่ 9:
==การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา==
==การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา==


ในรัฐประชาธิปไตยสมัยใหม่ มักใช้ระบบสองสภา (bicameral parliamentary systems)  ซึ่งประกอบด้วย วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ในการปกครองระบบรัฐสภา ระบบประธานาธิปดีและระบบกึ่งรัฐสภากึ่งประธานาธิปดี โดยวุฒิสภามักมีจำนวนสมาชิกน้อยกว่าสภาผู้แทนราษฎร แต่มีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนานกว่า ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และ ประเทศไทย เป็นต้น
ในรัฐประชาธิปไตยสมัยใหม่ มักใช้ระบบสองสภา (bicameral parliamentary systems)  ซึ่งประกอบด้วย วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ในการปกครองระบบรัฐสภา ระบบประธานาธิปดีและระบบกึ่งรัฐสภากึ่งประธานาธิปดี โดยวุฒิสภามักมีจำนวนสมาชิกน้อยกว่าสภาผู้แทนราษฎร แต่มีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนานกว่า ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และ ประเทศไทย เป็นต้น


ด้านที่มาของผู้ดำรงตำแหน่ง กล่าวได้ว่า วุฒิสภา เป็นองค์กรทางการเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานนับตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน โดยมีลักษณะทั่วไปที่เน้นการเข้ามาดำรงตำแหน่งของผู้มีวัยวุฒิและคุณวุฒิของกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ซึ่งในปัจจุบันเห็นได้ว่า ที่มาของสมาชิกวุฒิสภามีความหลากหลาย ทั้งที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เช่น วุฒิสภาออสเตรเลีย (Australian Senate)  สมาชิกมีวาระ 6 ปี แต่มีการเลือกตั้งสมาชิกครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาในทุกๆ  3 ปี  หรืออีกประเภทหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง เช่น วุฒิสภาแคนาดา (Canadian Senate ) สมาชิกจะได้รับการแต่งตั้งจากผู้สำเร็จราชการ  (Governor General) ของสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ โดยคำแนะนำจากนายกรัฐมนตรี  นอกจากนี้ยังมีรูปแบบที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่ใช้การเลือกตั้งควบคู่กับการแต่งตั้ง เช่น กรณีของประเทศอินเดีย สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมจากสมาชิกสภานิติบัญญัติประจำมลรัฐเลือกจำนวนไม่เกิน 238 คนและอีกส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยประธานาธิปดีอีก 12 คน เป็นต้น  
ด้านที่มาของผู้ดำรงตำแหน่ง กล่าวได้ว่า วุฒิสภา เป็นองค์กรทางการเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานนับตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน โดยมีลักษณะทั่วไปที่เน้นการเข้ามาดำรงตำแหน่งของผู้มีวัยวุฒิและคุณวุฒิของกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ซึ่งในปัจจุบันเห็นได้ว่า ที่มาของสมาชิกวุฒิสภามีความหลากหลาย ทั้งที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เช่น วุฒิสภาออสเตรเลีย (Australian Senate)  สมาชิกมีวาระ 6 ปี แต่มีการเลือกตั้งสมาชิกครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาในทุกๆ  3 ปี  หรืออีกประเภทหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง เช่น วุฒิสภาแคนาดา (Canadian Senate ) สมาชิกจะได้รับการแต่งตั้งจากผู้สำเร็จราชการ  (Governor General) ของสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ โดยคำแนะนำจากนายกรัฐมนตรี  นอกจากนี้ยังมีรูปแบบที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่ใช้การเลือกตั้งควบคู่กับการแต่งตั้ง เช่น กรณีของประเทศอินเดีย สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมจากสมาชิกสภานิติบัญญัติประจำมลรัฐเลือกจำนวนไม่เกิน 238 คนและอีกส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยประธานาธิปดีอีก 12 คน เป็นต้น  
บรรทัดที่ 37: บรรทัดที่ 37:
|-
|-
|align="center" |2
|align="center" |2
|align="center" |9 พ.ย. 2480
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2480|7 พ.ย. 2480]]
|  
|  
-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน
-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน
บรรทัดที่ 45: บรรทัดที่ 45:
|-
|-
|align="center" |3
|align="center" |3
|align="center" |12 พ.ย. 2481
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 3 วันที่ 12 พฤศจิกายน 2481|12 พ.ย. 2481]]
|
|
-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน
-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน
บรรทัดที่ 72: บรรทัดที่ 72:
|-
|-
|align="center" |6
|align="center" |6
|align="center" |29 ม.ค. 2491
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 6 วันที่ 29 มกราคม 2491|29 ม.ค. 2491]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
บรรทัดที่ 81: บรรทัดที่ 81:
|-
|-
|align="center" |7
|align="center" |7
|align="center" |5 มิ.ย. 2492
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 7 วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2492|5 มิ.ย. 2492]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
บรรทัดที่ 92: บรรทัดที่ 92:
|-
|-
|align="center" |8
|align="center" |8
|align="center" |26 ก.พ. 2495
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 8 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2495|26 ก.พ. 2495]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
บรรทัดที่ 101: บรรทัดที่ 101:
|-
|-
|align="center" |9
|align="center" |9
|align="center" |26 ก.พ. 2500
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 9 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2500|26 ก.พ. 2500]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
บรรทัดที่ 115: บรรทัดที่ 115:
|-
|-
|align="center" |11
|align="center" |11
|align="center" |10 ก.พ. 2512
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2512|10 ก.พ. 2512]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)
บรรทัดที่ 122: บรรทัดที่ 122:
|-
|-
|align="center" |12
|align="center" |12
|align="center" |26 ม.ค. 2518
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 12 วันที่ 26 มกราคม 2518|26 ม.ค. 2518]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์
-รวมเขตเรียงเบอร์
บรรทัดที่ 131: บรรทัดที่ 131:
|-
|-
|align="center" |13
|align="center" |13
|align="center" |4 เม.ย. 2519
|align="center" |[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 วันที่ 4 เมษายน 2519|4 เม.ย. 2519]]
|
|
-รวมเขตเรียงเบอร์
-รวมเขตเรียงเบอร์

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:40, 1 สิงหาคม 2554

ผู้เรียบเรียง นครินทร์ เมฆไตรรัตน์


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาและการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา

ในรัฐประชาธิปไตยสมัยใหม่ มักใช้ระบบสองสภา (bicameral parliamentary systems) ซึ่งประกอบด้วย วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ในการปกครองระบบรัฐสภา ระบบประธานาธิปดีและระบบกึ่งรัฐสภากึ่งประธานาธิปดี โดยวุฒิสภามักมีจำนวนสมาชิกน้อยกว่าสภาผู้แทนราษฎร แต่มีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนานกว่า ตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และ ประเทศไทย เป็นต้น

ด้านที่มาของผู้ดำรงตำแหน่ง กล่าวได้ว่า วุฒิสภา เป็นองค์กรทางการเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานนับตั้งแต่สมัยกรีกและโรมัน โดยมีลักษณะทั่วไปที่เน้นการเข้ามาดำรงตำแหน่งของผู้มีวัยวุฒิและคุณวุฒิของกลุ่มชนชั้นผู้ปกครอง ซึ่งในปัจจุบันเห็นได้ว่า ที่มาของสมาชิกวุฒิสภามีความหลากหลาย ทั้งที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เช่น วุฒิสภาออสเตรเลีย (Australian Senate) สมาชิกมีวาระ 6 ปี แต่มีการเลือกตั้งสมาชิกครึ่งหนึ่งของวุฒิสภาในทุกๆ 3 ปี หรืออีกประเภทหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง เช่น วุฒิสภาแคนาดา (Canadian Senate ) สมาชิกจะได้รับการแต่งตั้งจากผู้สำเร็จราชการ (Governor General) ของสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ โดยคำแนะนำจากนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีรูปแบบที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่ใช้การเลือกตั้งควบคู่กับการแต่งตั้ง เช่น กรณีของประเทศอินเดีย สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมจากสมาชิกสภานิติบัญญัติประจำมลรัฐเลือกจำนวนไม่เกิน 238 คนและอีกส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยประธานาธิปดีอีก 12 คน เป็นต้น

ส่วนที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มักเน้นที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในประเทศ ด้วยระบบหรือวิธีการที่แตกต่างกันไป โดยมักคำนวณสัดส่วนสมาชิกจากจำนวนประชากรทั้งประเทศเป็นหลักมากกว่าการกำหนดสัดส่วนในเชิงภูมิศาสตร์ เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศญี่ปุ่น มีจำนวน 480 คน ภายในวาระ 4 ปี โดยแบ่งที่มาของสมาชิกตามระบบการเลือกตั้ง กล่าวคือ สมาชิกจำนวน 180 คน มาจากการเลือกตั้งระบบสัดส่วนและสมาชิกจำนวน 300 คนมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ในขณะที่สหรัฐอเมริกา กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีจำนวน 435 คน มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตในแต่ละมลรัฐ ซึ่งแต่ละเขตจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสัดส่วนจำนวนประชากรในแต่ละมลรัฐ เป็นต้น

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย

ประเทศไทยได้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 เป็นต้นมา แต่จะมีระบบและวิธีการที่แตกต่างกันไปในการเลือกตั้งแต่ละครั้งตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่บังคับใช้ในช่วงเวลานั้น ๆ โดยในภาพรวมมักเป็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการกำหนดเขตเลือกตั้ง หรือจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะมีได้ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งกล่าวได้ว่าภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 เป็นต้นมานับว่าได้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่ชัดเจนที่สุด นั่นคือ การนำระบบการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ควบคู่กับระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนบัญชีรายชื่อ ที่ประชาชนมีสิทธิลงคะแนนได้เพียง 1 คะแนนสำหรับเลือกผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้น ๆ ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวนหมายเลขที่มีสิทธิในการลงคะแนนเลือกและรูปแบบของระบบสัดส่วนบัญชีรายชื่อ

ตารางสรุปการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย

ครั้งที่ วันที่ ระบบการเลือกตั้ง จำนวน ส.ส.
1 15 พ.ย. 2476

-เลือกตั้งผู้แทนตำบล ตำบลละ 1 คน ผู้แทนตำบลเลือก ส.ส. ของจังหวัด จังหวัดละ 1 คน ต่อจำนวนประชากร 100,000 คน

-ส.ส.ประเภทที่ 2 คณะราษฎรแต่งตั้ง

78
2 7 พ.ย. 2480

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน

-จังหวัดที่มีจำนวนประชากรเกิน 200,000 คน มีเขตเลือกตั้งเพิ่ม 1 เขต ทุก 200,000 คน

91
3 12 พ.ย. 2481

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน

-จังหวัดที่มีจำนวนประชากรเกิน 200,000 คน มีเขตเลือกตั้งเพิ่ม 1 เขต ทุก 200,000 คน

91
4 6 ม.ค. 2489

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน

-จังหวัดที่มีจำนวนประชากรเกิน 200,000 คน มีเขตเลือกตั้งเพิ่ม 1 เขต ทุก 200,000 คน

96
5 5 ส.ค. 2489

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน

-ยกเลิก ส.ส. ประเภทที่ 2 และให้มีการเลือกตั้งเพื่อทดแทนจำนวน 82 คน

178 (96+82)
6 29 ม.ค. 2491

-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)

- ส.ส. 1 คน ทุกจำนวนประชากร 200,000 คน

96
7 5 มิ.ย. 2492

-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)

-จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง

-เลือก ส.ส. เพิ่ม 21 คน ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492

120 (99+21)
8 26 ก.พ. 2495

-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)

-กลับมาใช้ระบบสภาเดียว มี ส.ส. 2 ประเภท

123
9 26 ก.พ. 2500

-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)

-ส่งผู้สมัครในนามของพรรค

160
10 15 ธ.ค. 2500

-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)

160
11 10 ก.พ. 2512

-รวมเขตเรียงเบอร์ (เขตจังหวัด)

219
12 26 ม.ค. 2518

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

269
13 4 เม.ย. 2519

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

279
14 22 เม.ย. 2522

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

301
15 18 เม.ย. 2526

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

324
16 27 ก.ค. 2529

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

347
17 24 ก.ค. 2531

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

257
18 22 มี.ค. 2535

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

360
19 13 ก.ย. 2535

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

360
20 2 ก.ค. 2538

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

391
21 17 พ.ย. 2539

-รวมเขตเรียงเบอร์

-เขตเลือกตั้ง มี ส.ส. ไม่เกิน 3 คน

393
22 6 ม.ค. 2544

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน จำนวน 400 คน

-บัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน

500
23 6 ก.พ. 2548

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน จำนวน 400 คน

-บัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน

500
24 2 เม.ย. 2549

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน จำนวน 400 คน

-บัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน(ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้การเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นโมฆะ)

500
25 15 ต.ค. 2549

-แบ่งเขต 1 เขต 1 คน จำนวน 400 คน

-บัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน(การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกยกเลิกไป หลังจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549)

500
26 23 ธ.ค. 2550

-แบ่งเขต (จำนวน ส.ส.ในแต่ละเขต และจำนวนเขตในแต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร)จำนวนทั้งหมด 400 คน

-แบบสัดส่วน จำนวน 80 คน

480 (400+80)

การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในประเทศไทย

กรณีของประเทศไทยนั้น วุฒิสภาเดิมใช้ชื่อว่า “พฤฒสภา” ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 กำหนดให้มีสมาชิกจำนวน 80 คน จากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยผ่านผู้แทนตำบล หลังจากนั้นในรัฐธรรมนูญฉบับต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “วุฒิสภา” โดยมีที่มาจากที่พระมหากษัตริย์ทรงเลือกหรือแต่งตั้งตามที่รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับได้บัญญัติไว้ จนกระทั่งเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ได้มีการกำหนดให้ที่มาของสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 200 คน ซึ่งในแต่ละจังหวัดจะมีจำนวนสมาชิกวุฒิสภาได้เท่าไรขึ้นอยู่กับสัดส่วนจำนวนประชากรในแต่ละจังหวัดนั้นๆ ด้านวิธีการลงคะแนน กำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนเลือกผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาได้เพียง 1 คน เท่านั้น ทั้งนี้ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้มีการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในปี พ.ศ. 2543 และ พ.ศ. 2549

จากนั้น เมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ได้มีการปรับเปลี่ยนที่มาของสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 150 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมาชิกวุฒิสภาจากการเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด กับ สมาชิกวุฒิสภาจากการสรรหา โดยคณะกรรมการสรรหาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งนั้น ได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาโดยตรงจากประชาชนในแต่ละจังหวัด จังหวัดละ 1 คน รวมเป็นจำนวนทั้งหมด 76 คนโดยกำหนดให้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง ซึ่งภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้มีการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2551

การสรรหาสมาชิกวุฒิสภาในประเทศไทย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งมาจากการสรรหา โดยคณะกรรมการสรรหาที่มีตำแหน่งเชื่อถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความเป็นอิสระ มีความยุติธรรมและได้รับความไว้วางใจในการทำหน้าที่สรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจำนวนของสมาชิกวุฒิสภาจากการสรรหามีจำนวนเท่ากับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งหักด้วยจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งหมด 150 คน ดังนั้นจึงได้สมาชิกวุฒิสภาจากการสรรหาเป็นจำนวน 74 คน โดยคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ประกอบไปด้วย

(1) ประธานศาลรัฐธรรมนูญ

(2) ประธานกรรมการการเลือกตั้ง

(3) ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน

(4) ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

(5) ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน

(6) ผู้พิพากษาในศาลฎีกาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาที่ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามอบหมายจำนวน 1 คน

(7) ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดที่ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดมอบหมายจำนวน 1 คนเป็นกรรมการ

โดยกรรมการเหล่านี้จะดำเนินการเลือกกันเองให้กรรมการผู้หนึ่งเป็นประธานกรรมการ และในกรณีที่ไม่มีกรรมการในตำแหน่งใด หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ากรรมการที่เหลืออยู่นั้นมีจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ให้คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาประกอบด้วยกรรมการที่เหลืออยู่ และกำหนดแนวทางให้คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อจากองค์กรต่างๆ ในภาควิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาชีพและภาคอื่นที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยต้องคำนึงถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานของวุฒิสภาเป็นสำคัญ และให้คำนึงถึงองค์ประกอบจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ ที่แตกต่างกัน โอกาสและความเท่าเทียมกันทางเพศ สัดส่วนของบุคคลในแต่ละภาคส่วนที่ใกล้เคียงกัน รวมทั้งการให้โอกาสกับผู้ด้อยโอกาสทางสังคมด้วย

ด้านกระบวนการสรรหาสมาชิกวุฒิสภานั้น มีขั้นตอน ดังนี้

(1) คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดระยะเวลาให้องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน วิชาการ วิชาชีพ และภาคอื่น ๆ ได้เสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยยื่นความจำนงเป็นหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมทั้งเอกสารและหลักฐานต่างๆ ตามแบบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้ ซึ่งองค์กรที่มีสิทธิเสนอชื่อต้องเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นโดยกฎหมาย หรือเป็นนิติบุคคลที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมายให้จัดตั้งขึ้นในราชอาณาจักรมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องมิใช่เป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไรหรือดำเนินกิจกรรมทางการเมือง

(2) คณะกรรมการการเลือกตั้งรวบรวมรายชื่อบุคคลซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากองค์กรต่างๆ เสนอต่อคณะกรรมการสรรหาภายใน 15 วันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลาการเสนอชื่อ

(3) คณะกรรมการสรรหาดำเนินการพิจารณาบุคคลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายชื่อจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง และให้ถือว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาให้ถือเป็นที่สุด โดยมติในการสรรหาต้องลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่

จากเงื่อนไขดังกล่าว ได้มีการดำเนินการสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสมจากการเสนอชื่อขององค์กรต่างๆ เพื่อดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยได้มีการกำหนดให้วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นวันสรรหาสมาชิกวุฒิสภาและต่อมาได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการสรรหาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 จำนวน 74 คน โดยแบ่งเป็น ภาควิชาการ จำนวน 15 คน ภาครัฐ จำนวน 14 คน ภาคเอกชน จำนวน 15 คน และภาควิชาชีพ จำนวน 15 คน

ที่มา

“การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา”,Retrieved from URL http://library2.parliament.go.th/giventake/ content_elect/senate_summary.pdf โคทม อารียา.สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง ระบบการเลือกตั้ง.กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2544 หน้า 11 – 12.

“ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 37 ก (22 กุมภาพันธ์ 2551).

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พุทธศักราช 2550 วิชญ์ชัย ธรรมประดิษฐ์.สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ.2540) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง วุฒิสภา.กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2544 หน้า 10-11.

วิชญ์ชัย ธรรมประดิษฐ์.สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ.2540) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่อง สภาผู้แทนราษฎร.กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, 2544 หน้า.

“House of Representatives”,Retrieved from [URL] http://en.wikipedia.org/wiki/ House_of_ Representatives

“Senate” ,Retrieved from [URL] http://en.wikipedia.org/wiki/Senate