ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสด็จฯ เยือนญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
ภายหลังการเสด็จประพาสประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สองครั้ง ครั้งแรกคือสิงคโปร์ ชวา บาหลี และครั้งที่สอง คือ อินโดจีนของฝรั่งเศส  ต่อมา[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]และ[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี]] ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนญี่ปุ่น  สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ในพุทธศักราช ๒๔๗๔


นอกจากเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปเข้ารับการผ่าตัดพระเนตรที่สหรัฐอเมริกาแล้ว ทรงถือโอกาสในการเจริญพระราชไมตรีไปในคราวเดียวกันนี้ด้วย
          ภายหลังการเสด็จประพาสประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สองครั้ง ครั้งแรกคือสิงคโปร์ ชวา บาหลี และครั้งที่สอง คือ อินโดจีนของฝรั่งเศส ต่อมา[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว|พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]และ[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี_พระบรมราชินี|สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี]] ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ในพุทธศักราช ๒๔๗๔


กล่าวได้ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเจริญพระราชไมตรีกับประเทศทั้งสามด้วยพระองค์เอง ก่อนหน้านั้นเมื่อ[[สงครามโลกครั้งที่ ๑]] สิ้นสุดลง [[รัฐบาล]]ไทยได้เริ่มเจรจาขอแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคซึ่งได้ลงนามไว้กับประเทศต่างๆรวมทั้งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น  ในที่สุดทั้งสองประเทศได้ยินยอมให้มีการแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคดังกล่าว  นับเป็นการปลดเปลื้องพันธนาการทางอธิปไตยตลอดจนลดความเสียเปรียบทางเศรษฐกิจที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศไทยมายาวนานนับทศวรรษ 
          นอกจากเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปเข้ารับการผ่าตัดพระเนตรที่สหรัฐอเมริกาแล้ว ทรงถือโอกาสในการเจริญพระราชไมตรีไปในคราวเดียวกันนี้ด้วย


ขณะเดียวกันนับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนชาติมหาอำนาจครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทยด้วย สถานะที่ไทยมีความเสมอภาคทัดเทียมกับประเทศที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อการเจริญพระราชไมตรีครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศที่มีความสำคัญที่ได้ทรงสานต่อพระราชไมตรีที่พระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆได้ทรงสานสายสัมพันธ์ไว้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และดำรงสืบมาตราบจนทุกวันนี้
          กล่าวได้ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเจริญพระราชไมตรีกับประเทศทั้งสามด้วยพระองค์เอง ก่อนหน้านั้นเมื่อ[[สงครามโลกครั้งที่_1|สงครามโลกครั้งที่ ๑]] สิ้นสุดลง [[รัฐบาล|รัฐบาล]]ไทยได้เริ่มเจรจาขอแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคซึ่งได้ลงนามไว้กับประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ในที่สุดทั้งสองประเทศได้ยินยอมให้มีการแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคดังกล่าว นับเป็นการปลดเปลื้องพันธนาการทางอธิปไตยตลอดจนลดความเสียเปรียบทางเศรษฐกิจที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศไทยมายาวนานนับทศวรรษ
 
          ขณะเดียวกันนับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนชาติมหาอำนาจครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทยด้วย สถานะที่ไทยมีความเสมอภาคทัดเทียมกับประเทศที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อการเจริญพระราชไมตรีครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศที่มีความสำคัญที่ได้ทรงสานต่อพระราชไมตรีที่พระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆได้ทรงสานสายสัมพันธ์ไว้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และดำรงสืบมาตราบจนทุกวันนี้
 
'''ที่มา'''


'''ที่มา '''
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖
บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖


*[https://www.youtube.com/watch?v=mILjLBCo2vg&index=79&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo YOU TUBE : ทางสายพระราชไมตรี : เสด็จฯ เยือนญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา]
*[https://www.youtube.com/watch?v=mILjLBCo2vg&index=79&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo YOU TUBE : ทางสายพระราชไมตรี : เสด็จฯ เยือนญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา]  


[[หมวดหมู่:พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ|ส]]
[[Category:พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ|ส]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:13, 13 ธันวาคม 2562

          ภายหลังการเสด็จประพาสประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สองครั้ง ครั้งแรกคือสิงคโปร์ ชวา บาหลี และครั้งที่สอง คือ อินโดจีนของฝรั่งเศส ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ในพุทธศักราช ๒๔๗๔

          นอกจากเป็นการเสด็จพระราชดำเนินไปเข้ารับการผ่าตัดพระเนตรที่สหรัฐอเมริกาแล้ว ทรงถือโอกาสในการเจริญพระราชไมตรีไปในคราวเดียวกันนี้ด้วย

          กล่าวได้ว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเจริญพระราชไมตรีกับประเทศทั้งสามด้วยพระองค์เอง ก่อนหน้านั้นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๑ สิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้เริ่มเจรจาขอแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคซึ่งได้ลงนามไว้กับประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ในที่สุดทั้งสองประเทศได้ยินยอมให้มีการแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคดังกล่าว นับเป็นการปลดเปลื้องพันธนาการทางอธิปไตยตลอดจนลดความเสียเปรียบทางเศรษฐกิจที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศไทยมายาวนานนับทศวรรษ

          ขณะเดียวกันนับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนชาติมหาอำนาจครั้งแรกของพระมหากษัตริย์ไทยด้วย สถานะที่ไทยมีความเสมอภาคทัดเทียมกับประเทศที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน การเสด็จพระราชดำเนินเพื่อการเจริญพระราชไมตรีครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศที่มีความสำคัญที่ได้ทรงสานต่อพระราชไมตรีที่พระมหากษัตริย์รัชกาลก่อนๆได้ทรงสานสายสัมพันธ์ไว้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และดำรงสืบมาตราบจนทุกวันนี้

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖