ผลต่างระหว่างรุ่นของ "23 มีนาคม พ.ศ. 2492"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร ---- '''ผู้ทรงคุณวุ...'
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
'''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร
'''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


----
----
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2492 เป็นวันที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญถาวรเป็นฉบับที่ 3 ของประเทศ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความสำคัญอยู่พอสมควร เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่จะออกมาใช้แทนรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว)  พ.ศ. 2490 ของคณะรัฐประหารที่ได้เข้ามาล้มรัฐบาลและล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ทั้งยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างกันโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ สภาแรกของประเทศ ดังที่ปรากฏในความนำของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ถึงองค์ประกอบของสภาร่างรัฐธรรมนูญ
วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2492 เป็นวันที่มีการประกาศใช้[[รัฐธรรมนูญถาวรเป็นฉบับที่ 3]] ของประเทศ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความสำคัญอยู่พอสมควร เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่จะออกมาใช้แทน[[รัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว)  พ.ศ. 2490]] ของคณะรัฐประหารที่ได้เข้ามาล้ม[[รัฐบาล]]และล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ทั้งยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างกันโดย[[สภาร่างรัฐธรรมนูญ]] สภาแรกของประเทศ ดังที่ปรากฏในความนำของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ถึงองค์ประกอบของสภาร่างรัฐธรรมนูญ


“...ประกอบด้วยสมาชิก ซึ่งรัฐสภาเลือกตั้งจากสมาชิกวุฒิสภา 10 คน จากสมาชิกสภาผู้แทน 10 คน และจากผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 4 ประเภท...ประเภทละ 5 คน”
“...ประกอบด้วยสมาชิก ซึ่งรัฐสภาเลือกตั้งจาก[[สมาชิกวุฒิสภา]] 10 คน จากสมาชิกสภาผู้แทน 10 คน และจากผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 4 ประเภท...ประเภทละ 5 คน”
รูปแบบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็คงยึดการมีสองสภา แต่เปลี่ยนเรียกสภาสูงว่า “วุฒิสภา” และให้ความสำคัญแก่วุฒิสภามาก โดยให้ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา แต่สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 100 คนนั้นมีที่มาตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญว่า
รูปแบบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็คงยึดการมีสองสภา แต่เปลี่ยนเรียก[[สภาสูง]]ว่า “[[วุฒิสภา]]” และให้ความสำคัญแก่วุฒิสภามาก โดยให้[[ประธานวุฒิสภา]]เป็น[[ประธานรัฐสภา]] แต่สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 100 คนนั้นมีที่มาตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญว่า


“วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่งร้อยคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเลือก และแต่งตั้งจากผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง...”
“วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่งร้อยคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเลือก และแต่งตั้งจากผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง...”
ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา”
ให้[[ประธานองคมนตรี]]เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา”
นอกจากนั้นได้มีการบัญญัติเรื่องที่ใหม่มากเข้ามาในรัฐธรรมนูญ คือ การบัญญัติหมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐไว้เป็นครั้งแรก จำนวน 19 มาตรา ซึ่งเป็นต้นแบบที่ทำให้รัฐธรรมนูญไทยฉบับถาวรที่มีต่อมาทุกฉบับได้คงหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐไว้ตลอดมา ทั้ง ๆ ที่มีเสียงวิจารณ์ว่าไม่น่าบัญญัติไว้ก็ตาม
นอกจากนั้นได้มีการบัญญัติเรื่องที่ใหม่มากเข้ามาในรัฐธรรมนูญ คือ การบัญญัติหมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐไว้เป็นครั้งแรก จำนวน 19 มาตรา ซึ่งเป็นต้นแบบที่ทำให้รัฐธรรมนูญไทยฉบับถาวรที่มีต่อมาทุกฉบับได้คงหมวด[[แนวนโยบายแห่งรัฐ]]ไว้ตลอดมา ทั้ง ๆ ที่มีเสียงวิจารณ์ว่าไม่น่าบัญญัติไว้ก็ตาม
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างและประกาศใช้ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และคณะทหารมีอำนาจครอบงำการเมืองสูง ได้ใช้ต่อมาประมาณ 2 ปี ถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 คณะทหารที่มีอำนาจดูแลรัฐบาลนั่นเองก็เข้ายึดอำนาจล้มรัฐบาล และล้มรัฐธรรมนูญ โดยเรียกตัวเองว่า “คณะบริหารประเทศชั่วคราว”
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างและประกาศใช้ในสมัยที่[[จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] และคณะทหารมีอำนาจครอบงำการเมืองสูง ได้ใช้ต่อมาประมาณ 2 ปี ถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 คณะทหารที่มีอำนาจดูแลรัฐบาลนั่นเองก็เข้ายึดอำนาจล้มรัฐบาล และล้มรัฐธรรมนูญ โดยเรียกตัวเองว่า “[[คณะบริหารประเทศชั่วคราว]]”


[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 08:44, 16 กันยายน 2556

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2492 เป็นวันที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญถาวรเป็นฉบับที่ 3 ของประเทศ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความสำคัญอยู่พอสมควร เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่จะออกมาใช้แทนรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) พ.ศ. 2490 ของคณะรัฐประหารที่ได้เข้ามาล้มรัฐบาลและล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ทั้งยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ร่างกันโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ สภาแรกของประเทศ ดังที่ปรากฏในความนำของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ถึงองค์ประกอบของสภาร่างรัฐธรรมนูญ

“...ประกอบด้วยสมาชิก ซึ่งรัฐสภาเลือกตั้งจากสมาชิกวุฒิสภา 10 คน จากสมาชิกสภาผู้แทน 10 คน และจากผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 4 ประเภท...ประเภทละ 5 คน”

รูปแบบของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็คงยึดการมีสองสภา แต่เปลี่ยนเรียกสภาสูงว่า “วุฒิสภา” และให้ความสำคัญแก่วุฒิสภามาก โดยให้ประธานวุฒิสภาเป็นประธานรัฐสภา แต่สมาชิกวุฒิสภา จำนวน 100 คนนั้นมีที่มาตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญว่า

“วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวนหนึ่งร้อยคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเลือก และแต่งตั้งจากผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง...”

ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา”

นอกจากนั้นได้มีการบัญญัติเรื่องที่ใหม่มากเข้ามาในรัฐธรรมนูญ คือ การบัญญัติหมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐไว้เป็นครั้งแรก จำนวน 19 มาตรา ซึ่งเป็นต้นแบบที่ทำให้รัฐธรรมนูญไทยฉบับถาวรที่มีต่อมาทุกฉบับได้คงหมวดแนวนโยบายแห่งรัฐไว้ตลอดมา ทั้ง ๆ ที่มีเสียงวิจารณ์ว่าไม่น่าบัญญัติไว้ก็ตาม

รัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างและประกาศใช้ในสมัยที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และคณะทหารมีอำนาจครอบงำการเมืองสูง ได้ใช้ต่อมาประมาณ 2 ปี ถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 คณะทหารที่มีอำนาจดูแลรัฐบาลนั่นเองก็เข้ายึดอำนาจล้มรัฐบาล และล้มรัฐธรรมนูญ โดยเรียกตัวเองว่า “คณะบริหารประเทศชั่วคราว