ผลต่างระหว่างรุ่นของ "2 มีนาคม พ.ศ. 2477"
หน้าที่ถูกสร้างด้วย ''''ผู้เรียบเรียง''' ศ.นรนิต เศรษฐบุตร ---- '''ผู้ทรงคุณวุ...' |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
'''ผู้เรียบเรียง''' | '''ผู้เรียบเรียง''' ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร | ||
---- | ---- | ||
บรรทัดที่ 7: | บรรทัดที่ 7: | ||
---- | ---- | ||
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 เป็นวันที่มีความสำคัญทางการเมืองของประเทศไทยมาก | วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 เป็นวันที่มีความสำคัญทางการเมืองของประเทศไทยมาก เพราะเป็นวันที่[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ได้สละราชสมบัติ ขณะนั้นพระองค์ได้ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ในวันที่เกิด[[การเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน]] เมื่อวันที่ [[24 มิถุนายน พ.ศ. 2475]] ที่กรุงเทพ ตอนนั้นพระองค์ท่านได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับอยู่ที่วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินของ “[[คณะราษฎร]]” ที่นำกำลังทหารมาชุมนุมและกุมตัวบุคคลสำคัญในรัฐบาลไว้ สามารถดำเนินการลุล่วงไปโดยไม่มีการรบพุ่งฆ่าฟันกันเองเกิดขึ้นนั้น ก็เพราะพระองค์ได้ตกลงรับเป็นกษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ อันเป็นการเสียสละเพื่อประเทศชาติ และทรงพระราชทานกติกาการปกครองชั่วคราวตามที่คณะราษฎรได้ขอ คือ [[พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว]] วันที่ [[27 มิถุนายน พ.ศ. 2475]] | ||
ครั้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 | ครั้นถึงวันที่[[10 ธันวาคม พ.ศ. 2475]] เมื่อทาง[[สภาผู้แทนราษฎร]]พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 แต่การเมืองในประเทศหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองยังมี[[ความขัดแย้ง]]กันอยู่ทั้งจากภายใน[[คณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง]]และนอกคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองจนทำให้มีการยึดอำนาจในวันที่ [[20 มิถุนายน พ.ศ. 2476]] ของ[[พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา]] กับ[[พันตรีหลวงพิบูลสงคราม]] และมี[[กบฏบวรเดช]]ในช่วงกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2476 | ||
ในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมกับพระราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศเพื่อรักษาพระองค์ และต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 | ในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมกับพระราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศเพื่อรักษาพระองค์ และต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 พระองค์ก็ได้มีพระราชหัตถเลขาถึง[[เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ]] [[ประธานสภาผู้แทนราษฎร]] ซึ่งเป็นผู้แทน[[รัฐบาล]]ที่ลอนดอน ทรงสละราชสมบัติ ดังมีความตอนหนึ่งในพระราชหัตถเลขาที่ขอยกมาดังนี้ | ||
“ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และไม่ฟังเสียอันแท้จริงของราษฎร” | “ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และไม่ฟังเสียอันแท้จริงของราษฎร” | ||
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] | [[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 08:33, 16 กันยายน 2556
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 เป็นวันที่มีความสำคัญทางการเมืองของประเทศไทยมาก เพราะเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้สละราชสมบัติ ขณะนั้นพระองค์ได้ประทับอยู่ที่ประเทศอังกฤษพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ในวันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ที่กรุงเทพ ตอนนั้นพระองค์ท่านได้เสด็จแปรพระราชฐานประทับอยู่ที่วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินของ “คณะราษฎร” ที่นำกำลังทหารมาชุมนุมและกุมตัวบุคคลสำคัญในรัฐบาลไว้ สามารถดำเนินการลุล่วงไปโดยไม่มีการรบพุ่งฆ่าฟันกันเองเกิดขึ้นนั้น ก็เพราะพระองค์ได้ตกลงรับเป็นกษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ อันเป็นการเสียสละเพื่อประเทศชาติ และทรงพระราชทานกติกาการปกครองชั่วคราวตามที่คณะราษฎรได้ขอ คือ พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475
ครั้นถึงวันที่10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เมื่อทางสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 แต่การเมืองในประเทศหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองยังมีความขัดแย้งกันอยู่ทั้งจากภายในคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองและนอกคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองจนทำให้มีการยึดอำนาจในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2476 ของพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา กับพันตรีหลวงพิบูลสงคราม และมีกบฏบวรเดชในช่วงกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2476
ในวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2476 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพร้อมกับพระราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศเพื่อรักษาพระองค์ และต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 พระองค์ก็ได้มีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้แทนรัฐบาลที่ลอนดอน ทรงสละราชสมบัติ ดังมีความตอนหนึ่งในพระราชหัตถเลขาที่ขอยกมาดังนี้
“ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิขาด และไม่ฟังเสียอันแท้จริงของราษฎร”