ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 5 วันที่ 5 สิงหาคม 2489"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
'''ผู้เรียบเรียง''' ชาย  ไชยชิต และ รองศาสตราจารย์ ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
'''ผู้เรียบเรียง''' ชาย  ไชยชิต  


----
----
บรรทัดที่ 9: บรรทัดที่ 9:
<p>การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เป็น[[การเลือกตั้งแบบแบ่งแขตและรวมเขต|การเลือกตั้งด้วยวิธีการแบ่งเขต]] โดยประชาชนเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในเขตของตนเองโดยตรง การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นผลมาจากบทบัญญัติของ[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489|รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489]] ได้กำหนดเพิ่มจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจำนวนพลเมือง และยกเลิก[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 1 และสมาชิกประเภทที่ 2|สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง]] ซึ่งทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งเพิ่มเติมเฉพาะในพื้นที่ 47 จังหวัด เพื่อให้ได้ผู้แทนราษฎรแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง จำนวน 82 คน ผลการจัดการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 5,819,662 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,026,823 คน คิดเป็นร้อยละ 34.92 จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดสกลนคร คิดเป็นร้อยละ 57.49 และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดนราธิวาส คิดเป็นร้อยละ 16.62 </p>
<p>การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เป็น[[การเลือกตั้งแบบแบ่งแขตและรวมเขต|การเลือกตั้งด้วยวิธีการแบ่งเขต]] โดยประชาชนเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในเขตของตนเองโดยตรง การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นผลมาจากบทบัญญัติของ[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489|รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489]] ได้กำหนดเพิ่มจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจำนวนพลเมือง และยกเลิก[[การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 1 และสมาชิกประเภทที่ 2|สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง]] ซึ่งทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งเพิ่มเติมเฉพาะในพื้นที่ 47 จังหวัด เพื่อให้ได้ผู้แทนราษฎรแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง จำนวน 82 คน ผลการจัดการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 5,819,662 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,026,823 คน คิดเป็นร้อยละ 34.92 จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดสกลนคร คิดเป็นร้อยละ 57.49 และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดนราธิวาส คิดเป็นร้อยละ 16.62 </p>


<p>ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครในสังกัดพรรคลงแข่งขันกันจำนวน 5 พรรค ได้แก่ [[สหชีพ|พรรคสหชีพ]] [[พรรคแนวรัฐธรรมนูญ]] [[อิสระ (พ.ศ. 2499)|พรรคอิสระ]] [[ประชาธิปัตย์|พรรคประชาธิปัตย์]] และ[[พรรคประชาชน]] การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติ[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489|รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489]] ซึ่งกำหนดให้[[ฝ่ายนิติบัญญัติ]]มีระบบสองสภา นั่นคือ มี[[สภาผู้แทนราษฎร]] และ[[พฤฒิสภา]] ซึ่งมีที่มาจาก[[การเลือกตั้งโดยอ้อม]] แต่ไม่ทันได้มีการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒิสภาแต่อย่างใด</p>
<p>ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครในสังกัดพรรคลงแข่งขันกันจำนวน 5 พรรค ได้แก่ [[สหชีพ|พรรคสหชีพ]] [[พรรคแนวรัฐธรรมนูญ]] [[อิสระ (พ.ศ. 2499)|พรรคอิสระ]] [[ประชาธิปัตย์ (พ.ศ. 2489–2494)|พรรคประชาธิปัตย์]] และ[[ประชาชน|พรรคประชาชน]] การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติ[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489|รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489]] ซึ่งกำหนดให้[[ฝ่ายนิติบัญญัติ]]มีระบบสองสภา นั่นคือ มี[[สภาผู้แทนราษฎร]] และ[[พฤฒิสภา]] ซึ่งมีที่มาจาก[[การเลือกตั้งทางอ้อม|การเลือกตั้งโดยอ้อม]] แต่ไม่ทันได้มีการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒิสภาแต่อย่างใด</p>


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 11:18, 1 สิงหาคม 2554

ผู้เรียบเรียง ชาย ไชยชิต


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งด้วยวิธีการแบ่งเขต โดยประชาชนเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในเขตของตนเองโดยตรง การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นผลมาจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 ได้กำหนดเพิ่มจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามจำนวนพลเมือง และยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง ซึ่งทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งเพิ่มเติมเฉพาะในพื้นที่ 47 จังหวัด เพื่อให้ได้ผู้แทนราษฎรแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่สอง จำนวน 82 คน ผลการจัดการเลือกตั้งพบว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั้งหมด 5,819,662 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,026,823 คน คิดเป็นร้อยละ 34.92 จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดคือ จังหวัดสกลนคร คิดเป็นร้อยละ 57.49 และจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยที่สุดคือ จังหวัดนราธิวาส คิดเป็นร้อยละ 16.62

ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครในสังกัดพรรคลงแข่งขันกันจำนวน 5 พรรค ได้แก่ พรรคสหชีพ พรรคแนวรัฐธรรมนูญ พรรคอิสระ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2489 ซึ่งกำหนดให้ฝ่ายนิติบัญญัติมีระบบสองสภา นั่นคือ มีสภาผู้แทนราษฎร และพฤฒิสภา ซึ่งมีที่มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อม แต่ไม่ทันได้มีการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒิสภาแต่อย่างใด

อ้างอิง

บุญทัน ดอกไธสง, การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย, กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, ๒๕๒๒

ฝ่ายพัฒนาการเมืองและการปกครอง สำนักนโยบายและแผนมหาดไทย, อนุสารการเมือง, มีนาคม ๒๕๒๒

โคทม อารียา, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. ๒๕๔๐) หมวดองค์กรทางการเมือง เรื่องที่ ๕ ระบบการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า, ๒๕๔๔