ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น"
สร้างหน้าด้วย " '''เรียบเรียงโดย''' อาจารย์ ดร.วศิน โกมุท '''ผู้ทรงคุณวุฒ..." |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 8: | บรรทัดที่ 8: | ||
'''บทนำ''' | '''บทนำ''' | ||
รายได้ท้องถิ่นมีความสำคัญต่อการบริหารงานของ[[องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น|องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น]] เพื่อใช้ใน[[การบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น|การจัดบริการสาธารณะ]] โดยสามารถจำแนกได้เป็น[[รายได้ที่ท้องถิ่นจัดหาเอง|รายได้ที่ท้องถิ่นจัดหาเอง]] [[รายได้ที่รัฐจัดเก็บและแบ่งให้|รายได้ที่รัฐจัดเก็บและแบ่งให้]] และ[[รายได้ที่รัฐจัดเก็บให้|รายได้ที่รัฐจัดเก็บให้]] โดยในที่นี้จะอธิบายความหมายของรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การแบ่งประเภทรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาพรวมรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | |||
| | ||
บรรทัดที่ 14: | บรรทัดที่ 14: | ||
'''ความหมายของรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น''' | '''ความหมายของรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น''' | ||
รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง | รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง รายได้ที่[[รัฐบาล|รัฐบาล]]และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีฐานรายได้ร่วมกัน โดยรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รัฐบาลเป็นผู้จัดเก็บมีทั้งที่เป็นภาษีอากรและที่ไม่ใช่ภาษีอากรภายใต้กฎหมายที่กำหนด[[#_ftn1|[1]]] โดยแหล่งรายได้จากภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บแล้วแบ่งให้ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อัตราร้อยละ 5) ค่าภาคหลวงแร่ และค่าภาคหลวงปิโตรเลียม เป็นต้น | ||
| | ||
บรรทัดที่ 20: | บรรทัดที่ 20: | ||
'''การแบ่งประเภทรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น''' | '''การแบ่งประเภทรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น''' | ||
ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บและแบ่งให้จากฐานภาษีของรัฐบาล แบ่งได้เป็น 2 ประเภท | ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บและแบ่งให้จากฐานภาษีของรัฐบาล แบ่งได้เป็น 2 ประเภท | ||
'''ประเภทแรก''' ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และภาษีมูลค่าเพิ่ม | '''ประเภทแรก''' ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม [[พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น_พ.ศ.2542|พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542]] และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตาม[[พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด|พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด]] (อัตราร้อยละ 5) | ||
'''ประเภทที่สอง''' ประเภทที่แบ่งกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ในอัตรา 40 : 60 เป็นต้น | '''ประเภทที่สอง''' ประเภทที่แบ่งกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ในอัตรา 40 : 60 เป็นต้น | ||
| | ||
บรรทัดที่ 30: | บรรทัดที่ 30: | ||
'''ภาพรวมรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น''' | '''ภาพรวมรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น''' | ||
'''1. รายได้ที่รัฐจัดเก็บ'''''' | '''1. รายได้ที่รัฐจัดเก็บ''''''แล้วแบ่งใ''''''ห้[[เทศบาล|เทศบาล]] [[เมืองพัทยา|เมืองพัทยา]]และ[[องค์การบริหารส่วนตำบล|องค์การบริหารส่วนตำบล]]''' | ||
รายได้ที่รัฐจัดเก็บให้เทศบาล เมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนตำบลมาจาก ภาษีที่รัฐบาลแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้แล้วจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรัฐบาลจัดสรรให้แก่เทศบาลในอัตราซึ่งเมื่อรวมกันกับการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรแล้วไม่เกินร้อยละ 30 ของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้โดยหักส่วนที่ส่งคืนแล้ว | รายได้ที่รัฐจัดเก็บให้เทศบาล เมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนตำบลมาจาก ภาษีที่รัฐบาลแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้แล้วจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรัฐบาลจัดสรรให้แก่เทศบาลในอัตราซึ่งเมื่อรวมกันกับการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรแล้วไม่เกินร้อยละ 30 ของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้โดยหักส่วนที่ส่งคืนแล้ว | ||
บรรทัดที่ 46: | บรรทัดที่ 46: | ||
| | ||
''' | '''ตารางที่1: แสดงรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภท ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542''' | ||
| | ||
บรรทัดที่ 119: | บรรทัดที่ 119: | ||
|} | |} | ||
ที่มา:พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 | ที่มา:พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ''ราชกิจจานุเบกษา'' เล่ม 116 ตอนที่ 114 ก 17 พฤศจิกายน 2542 | ||
''ราชกิจจานุเบกษา'' เล่ม 116 ตอนที่ 114 ก 17 พฤศจิกายน 2542 | |||
| | ||
'''สรุป''' รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากรัฐบาลเป็นผู้จัดเก็บแล้วแบ่งรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภายหลัง มีแหล่งรายได้มาจากภาษีที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และประเภทที่แบ่งกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม สำหรับรายได้จากแหล่งอื่นๆเช่น ค่าธรรมเนียมสนามบิน ภาษีเพื่อการศึกษา และภาษีการพนัน เป็นต้น | '''สรุป''' รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากรัฐบาลเป็นผู้จัดเก็บแล้วแบ่งรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภายหลัง มีแหล่งรายได้มาจากภาษีที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และประเภทที่แบ่งกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม สำหรับรายได้จากแหล่งอื่นๆเช่น ค่าธรรมเนียมสนามบิน ภาษีเพื่อการศึกษา และภาษีการพนัน เป็นต้น | ||
| |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 18:31, 1 ธันวาคม 2562
เรียบเรียงโดย อาจารย์ ดร.วศิน โกมุท
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รศ.ดร.ปธาน สุวรรณมงคล
บทนำ
รายได้ท้องถิ่นมีความสำคัญต่อการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในการจัดบริการสาธารณะ โดยสามารถจำแนกได้เป็นรายได้ที่ท้องถิ่นจัดหาเอง รายได้ที่รัฐจัดเก็บและแบ่งให้ และรายได้ที่รัฐจัดเก็บให้ โดยในที่นี้จะอธิบายความหมายของรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การแบ่งประเภทรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาพรวมรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ความหมายของรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง รายได้ที่รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีฐานรายได้ร่วมกัน โดยรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รัฐบาลเป็นผู้จัดเก็บมีทั้งที่เป็นภาษีอากรและที่ไม่ใช่ภาษีอากรภายใต้กฎหมายที่กำหนด[1] โดยแหล่งรายได้จากภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บแล้วแบ่งให้ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อัตราร้อยละ 5) ค่าภาคหลวงแร่ และค่าภาคหลวงปิโตรเลียม เป็นต้น
การแบ่งประเภทรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บและแบ่งให้จากฐานภาษีของรัฐบาล แบ่งได้เป็น 2 ประเภท
ประเภทแรก ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อัตราร้อยละ 5)
ประเภทที่สอง ประเภทที่แบ่งกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ในอัตรา 40 : 60 เป็นต้น
ภาพรวมรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
1. รายได้ที่รัฐจัดเก็บ'แล้วแบ่งใ'ห้เทศบาล เมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนตำบล
รายได้ที่รัฐจัดเก็บให้เทศบาล เมืองพัทยาและองค์การบริหารส่วนตำบลมาจาก ภาษีที่รัฐบาลแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้แล้วจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรัฐบาลจัดสรรให้แก่เทศบาลในอัตราซึ่งเมื่อรวมกันกับการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากรแล้วไม่เกินร้อยละ 30 ของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้โดยหักส่วนที่ส่งคืนแล้ว
2. รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด
รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดมาจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเพื่อการศึกษา ค่าภาคหลวงแร่และค่าภาคหลวงปิโตรเลียม โดยจัดเก็บให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยละ 20 ของรายได้ที่จัดเก็บค่าภาคหลวงแร่และค่าภาคหลวงปิโตรเลียมที่จัดเก็บได้ภายในจังหวัด
สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มเก็บตามประมวลรัษฎากรที่ได้รับการจัดสรรในอัตราซึ่งเมื่อรวมกับอัตราตามมาตรา 23 (4) และมาตรา 25 (6) แล้วไม่เกินร้อยละสามสิบของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้หักส่วนที่ต้องจ่ายคืนแล้ว โดยเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรที่จะจัดเก็บ
3. รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้กรุงเทพมหานคร
รายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้กรุงเทพมหานครมาจาก ภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าธรรมเนียมสนามบิน ภาษีการพนัน และภาษีเพื่อการศึกษา และค่าภาคหลวงแร่และค่าภาคหลวงปิโตรเลียม โดยจัดเก็บให้กรุงเทพมหานครร้อยละ 40 ของรายได้ที่จัดเก็บค่าภาคหลวงแร่และค่าภาคหลวงปิโตรเลียมที่จัดเก็บได้ภายในกรุงเทพมหานคร
ตารางที่1: แสดงรายได้ที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภท ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
เทศบาล เมืองพัทยา และ องค์การบริหารส่วนตำบล (ตามมาตรา 23) |
องค์การบริหารส่วนจังหวัด (องค์การบริหารส่วนจังหวัด.) (ตามมาตรา 24) |
กรุงเทพมหานคร
(ตามมาตรา 25) |
---|---|---|
รายได้ส่วนกลางเก็บและแบ่งให้ท้องถิ่น - ภาษีมูลค่าเพิ่ม - ค่าธรรมเนียมสนามบิน - ภาษีการพนัน - ภาษีเพื่อการศึกษา - ค่าใช้น้ำบาดาล - ค่าภาคหลวงแร่และ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม |
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม - ภาษีเพื่อการศึกษา - ค่าภาคหลวงแร่และ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม |
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม - ค่าธรรมเนียมสนามบิน - ภาษีการพนัน - ภาษีเพื่อการศึกษา - ค่าภาคหลวงแร่และ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม |
ที่มา:พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 114 ก 17 พฤศจิกายน 2542
สรุป รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มาจากรัฐบาลเป็นผู้จัดเก็บแล้วแบ่งรายได้ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภายหลัง มีแหล่งรายได้มาจากภาษีที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และประเภทที่แบ่งกันระหว่างรัฐบาลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงปิโตรเลียม สำหรับรายได้จากแหล่งอื่นๆเช่น ค่าธรรมเนียมสนามบิน ภาษีเพื่อการศึกษา และภาษีการพนัน เป็นต้น
บรรณานุกรม
พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 114 ก 17 พฤศจิกายน 2542
พระราชบัญญัติเทศบาล (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2546 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 120 ตอนที่ 124 ก 22 ธันวาคม 2546
พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม114 ตอนที่ 62 ก 31 ตุลาคม 2540
พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2546 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 120 ตอนที่ 109 ก 4 พฤศจิกายน 2546
พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 111 ตอนที่ 53 ก 2 ธันวาคม 2537
พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2546 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม120 ตอนที่ 124 ก 22 ธันวาคม 2546
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 102 ตอนที่ 115 31 สิงหาคม 2528
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2542 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม116 ตอนที่ 104 ก 26 ตุลาคม 2542
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม116 ตอนที่ 120 ก 29 พฤศจิกายน 2542
[1] เป็นผลมาจากกฎหมายหลายฉบับซึ่งอาจแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรก กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้กำหนดที่มาของรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ และส่วนที่สอง กฎหมายรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 สำหรับกลุ่มแรก ได้แก่กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้กำหนดที่มาของรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ได้แก่ พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ซึ่งได้กำหนดที่มาของรายได้องค์การบริหารส่วนจังหวัด พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ในมาตรา 66 และพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2497 ในมาตรา 10-13 และมาตรา 15 ได้กำหนดที่มาของรายได้ของเทศบาล พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 74-82 กำหนดที่มาของรายได้องค์การบริหารส่วนตำบล พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 มาตรา 109-114 และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนถึง พ.ศ. 2542 ได้กำหนดที่มาของรายได้ของกรุงเทพมหานคร และพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 80-83 และมาตรา 87-90 ซึ่งได้กำหนดที่มาของรายได้ของเมืองพัทยา