ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หมวดหมู่:เอกสารวิชาการ"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Ekkachais (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 25 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 2 คน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
[[ความผิดฐาน “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ”: เอกลักษณ์ประชาธิปไตยไทยในกระแสประชาธิปไตยโลก]]


[[สรุปผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550]]
*สรุปเนื้อหาสัมมนาพิเศษ เรื่อง[[“ตอบโจทย์......แก้รัฐธรรมนูญ”|“ตอบโจทย์......แก้รัฐธรรมนูญ”]]
*[[การใช้สิทธิเข้าชื่อเสนอกฎหมายของประชาชน|การใช้สิทธิเข้าชื่อเสนอกฎหมายของประชาชน]] : บทเรียนจากอดีต สู่ "สิทธิ" ที่เป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ โดย นางสาวปัทมา สูบกำปัง
*[[รัฐบาลไทยกับความชอบธรรมทางการเมือง|รัฐบาลไทยกับความชอบธรรมทางการเมือง]] โดย ดร.วีระ เลิศสมพร (Veera Lertsomporn) กรรมการศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.เชียงใหม่
*[[เสรีภาพสื่อ-เสรีภาพประชาชน_อุปสรรคที่ขัดต่อเจตนารมณ์|เสรีภาพสื่อ-เสรีภาพประชาชน อุปสรรคที่ขัดต่อเจตนารมณ์]] โดย บุญเลิศ คชายุทธเดช (ช้างใหญ่)
*[[การสร้างดุลยภาพระหว่างอำนาจนิติบัญญัติกับอำนาจบริหาร|การสร้างดุลยภาพระหว่างอำนาจนิติบัญญัติกับอำนาจบริหาร]] โดย บุญเลิศ คชายุทธเดช (ช้างใหญ่)
*[[ระบบการเลือกตั้ง|ระบบการเลือกตั้ง]] โดย ร.ศ. อัษฎางค์ ปาณิกบุตร
*[[บทบาทสื่อมวลชนกับการปฏิรูปการเมือง|บทบาทสื่อมวลชนกับการปฏิรูปการเมือง]] ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ
*[[แถลงการณ์ร่วมไทย_–_กัมพูชาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร_กับมาตรา_190_ของรัฐธรรมนูญ|แถลงการณ์ร่วมไทย – กัมพูชาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร กับมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ]] ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต ศาสตราภิชาน คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
*บทวิเคราะห์ทางวิชานิติศาสตร์ ต่อคำสั่งศาลปกครองกลางกำหนด[[วิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวฯในคดีแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา|วิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวฯในคดีแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา]] ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต ศาสตราภิชาน คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
*[[การเมืองต้องนำการทหาร:_ทิศทางการแก้ปัญหาภาคใต้สู่ความยั่งยืน]]
*[[ความผิดฐาน_“หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ”:_เอกลักษณ์ประชาธิปไตยไทยในกระแสประชาธิปไตยโลก]]
*[[สรุปผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน_หลังการเลือกตั้ง_23_ธันวาคม_2550|สรุปผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550]]  
*[[สกว.กับงานวิจัยใน_3_จชต.(3)ตอนชาวบ้านทำวิจัย|สกว.กับงานวิจัยใน 3 จชต.(3)ตอนชาวบ้านทำวิจัย]]
*[[แผนพัฒนาประชาธิปไตย_เรื่อง“ก้าวต่อก้าว_การพัฒนาประชาธิปไตย_ไทย_เกาหลีใต้และมาเลเซีย”|แผนพัฒนาประชาธิปไตย เรื่อง“ก้าวต่อก้าว การพัฒนาประชาธิปไตย ไทย เกาหลีใต้และมาเลเซีย”]]
*[[แนวทางไปสู่การเป็นชาตินิยม|แนวทางไปสู่การเป็นชาตินิยม]]
*[[การบริหารด้านการเมืองการปกครอง_ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้|การบริหารด้านการเมืองการปกครอง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้]]
*[[ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องคุยกับกลุ่มขบวนการ?|ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องคุยกับกลุ่มขบวนการ?]]
*[[รายงานปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้|รายงานปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้]]:บทวิเคราะห์และแนวทางการแก้ปัญหาเชิงรุกที่ยั่งยืนด้วยสันติวิธี
*[[ความชอบธรรมทางการเมือง.._กติกา_กลไก_การบังคับใช้_และคุณธรรม|ความชอบธรรมทางการเมือง.. กติกา กลไก การบังคับใช้ และคุณธรรม]] รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
*[http://wiki.kpi.ac.th/images/5/5f/Pln378.pdf ผู้นำทางการเมือง : นายสุขวิช รังสิตพล] โดยนายอำนวย สร้างศัตรู


[[สกว.กับงานวิจัยใน 3 จชต.(3)ตอนชาวบ้านทำวิจัย]]
----


[[แผนพัฒนาประชาธิปไตย  เรื่อง“ก้าวต่อก้าว การพัฒนาประชาธิปไตย ไทย เกาหลีใต้และมาเลเซีย”]]
{| cellpadding="2" cellspacing="5" style="vertical-align:top;background-color:#ffffff;color:#000;width:100%"
 
|-
[[แนวทางไปสู่การเป็นชาตินิยม]]
! style="background-color:#ffffff; font-size: 100%; border: 1px solid #afa3bf; text-align: left; padding-left: 7px; -moz-border-radius:7px" | [[หน้าหลัก|หน้าหลัก]]
 
|}
[[การบริหารด้านการเมืองการปกครอง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้]]
 
[[ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องคุยกับกลุ่มขบวนการ?]]
 
[[รายงานปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้]]:บทวิเคราะห์และแนวทางการแก้ปัญหาเชิงรุกที่ยั่งยืนด้วยสันติวิธี
 
โดย  นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูง “การเสริมสร้างสังคมสันติสุข” รุ่นที่ ๑  สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า
 
-----------------------------------------------------------------------------
 
ปัญหาใจกลาง:ปัญหาใจกลางของความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้คือการต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดนของขบวนการต่อสู้ที่ปาตานีซึ่งมีกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนตและพูโลเป็นแกนหลัก ผสมเข้ากับกลุ่มต่อต้านอำนาจรัฐที่ไม่ได้ต้องการแบ่งแยกดินแดน หากแต่ต้องการตอบโต้การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่ทางกลุ่มรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยมีประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้ได้รับผลกระทบ
 
รากเหง้าของปัญหา: ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นเพียงอาการของความขัดแย้งทางการเมืองที่เกี่ยวเนื่องกับมิติทางวัฒนธรรม ซึ่งมีรากเหง้ามาจาก
 
๑)ความไม่เข้าใจกันอย่างแท้จริงของสองชาติพันธุ์คือไทยและมลายูปาตานีที่ทำให้เกิดอดติลึกๆต่อกัน
 
๒)บาดแผลทางประวัติศาสตร์ของรัฐปัตตานีที่เคยรุ่งเรืองจากการกระทำของรัฐสยามในอดีต 
 
๓)โครงสร้างการจัดการบริหารปกครอง รวมทั้งกฎหมาย และนโยบายทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรมที่ยังมีบางส่วนไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ตลอดจนไม่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับที่สามารถสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของได้อย่างแท้จริงและเท่าเทียม
 
ทั้งหมดนี้ทำให้คนมลายูปาตานีโดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงรู้สึกว่าไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยได้อย่างมีเกียรติและมีคุณค่า ผู้เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาทุกภาคส่วนจะต้องตระหนักถึงปัญหาใจกลางและรากเหง้าดังกล่าว และรวมศูนย์ความสนใจที่ประเด็นนี้ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถกำหนดทิศทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องได้
 
โจทย์สำคัญต่อการแก้ปัญหา: มาตรการในการแก้ไขปัญหาของภาครัฐควรต้องคำนึงถึงโจทย์สำคัญ  ๒ ข้อที่เชื่อมโยงกับรากเหง้าของปัญหาตามที่กล่าวไป คือ
๑) ทำอย่างไรที่จะให้ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่เห็นต่างจากรัฐได้มีส่วนร่วมทางการเมืองในการแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนกิจกรรมหรือนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตอย่างแท้จริง ผ่านโครงสร้างการจัดการบริหารปกครอง กฎหมาย และนโยบายที่สอดคล้องกับ      อัตลักษณ์ของคนในพื้นที่
๒) ทำอย่างไรที่รัฐ ประชาชนในสังคมใหญ่และในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเกิดความเข้าใจ ยอมรับ และเห็นคุณค่าความหลากหลายทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์อย่างเพียงพอที่ไม่รู้สึกหวาดระแวงว่าความแตกต่างดังกล่าวจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของตน
 
กรอบคิดทิศทางในการแก้ปัญหา: การแก้ไขปัญหาต้องอยู่ในกรอบของสันติวิธีโดยใช้การเมืองนำการทหารอย่างแท้จริง ไม่ใช่การทหารนำการเมืองในแง่ของการปฏิบัติดังเช่นในปัจจุบัน สันติวิธีมิได้ปฏิเสธการใช้การทหาร หากแต่ต้องใช้การทหารอย่างจำกัดภายใต้หลักนิติธรรมในลักษณะที่คุมความรุนแรงมิให้ขยายตัว และต้องสนับสนุนและตอบสนองต่อเป้าหมายของงานการเมืองเท่านั้น โดยนอกจากรัฐจะใช้งานการเมืองในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่แล้ว รัฐยังจำเป็นต้องใช้งานการเมืองในเชิงรุกต่อกลุ่มขบวนการที่ไม่ใช่แค่การยันในทางยุทธการเท่านั้นด้วย
 
ข้อเสนอแนะงานการเมืองเชิงรุก: ข้อเสนอแนะ ๗ ข้อนี้เป็นการใช้งานการเมืองเชิงรุกสู่การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยั่งยืนบนหลักการ “เปิดพื้นที่/มีส่วนร่วม – รับฟังเสียง – สร้างความเข้าใจ – สอดคล้องอัตลักษณ์”
๑) จัดการพูดคุยเพื่อสันติภาพ (Peace Talks) กับกลุ่มขบวนการที่เห็นต่างจากรัฐ เพื่อทำความเข้าใจว่ามีความต้องการอะไร และจะหาทางออกร่วมกันอย่างสันติได้อย่างไรเพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด อันจะนำไปสู่การยุติความสูญเสียของทุกฝ่ายให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ต้องย้ำว่าการพูดคุยดังกล่าวไม่ใช่การเจรจา (Negotiation) แต่เป็นการเน้นทำความเข้าใจระหว่างกัน
๒) ร่วมสร้างเครือข่ายสันติภาพชายแดนใต้ (PeaceNet) ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคประชาสังคม
๓) กำหนดยุทธศาสตร์สื่อสารสังคมเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างคนในสังคมใหญ่กับในพื้นที่ในการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนความหลากหลายภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมไทย
๔) ส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาการจัดการบริหารปกครองที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์และวัฒนธรรมในพื้นที่และเอื้อต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนตามกรอบของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
๕) ส่งเสริมการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศาลกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดกภายใต้สำนักงานศาลยุติธรรมไทย
๖) ส่งเสริมการใช้ภาษามลายูเป็นภาษาทำงานควบคู่กับภาษาไทย
 
๗) ส่งเสริมการศึกษาทั้งข้อดีและข้อจำกัดของการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับได้ของทั้งฝ่ายความมั่นคงและประชาชนในพื้นที่
 
อนึ่ง ข้อเสนอที่ ๑ ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปิดประตูไปสู่สันติภาพ เพื่อยุติความรุนแรง ข้อเสนอที่ ๒ เป็นข้อเสนอเชิงกระบวนการเพื่อให้มีกลไกซึ่งเชื่อมถึงฐานรากในการเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชน และข้อเสนอที่ ๓ เป็นการสื่อสารเพื่อเน้นสร้างความเข้าใจกับสังคมใหญ่ให้เห็นประโยชน์ของสันติวิธีและเห็นแนวทางของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งทั้งข้อ ๑ – ๓ นี้เป็นข้อเสนอหลักของคณะนักศึกษา ในขณะที่ข้อเสนอที่ ๔ – ๗ นั้นเป็นข้อเสนอรองที่เห็นควรสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติมจากเดิมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อันจะเป็นการซื้อใจคนมลายูปาตานี ทำให้เขารู้สึกว่ารัฐและสังคมใหญ่ยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวตนของเขาอย่างจริงจังและจริงใจ สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่รู้สึกแปลกแยก และมีความภาคภูมิใจที่เกิดเป็นพลเมืองไทยเชื้อสายมลายูในสังคมไทยที่หลากหลายและเป็นธรรม
 


รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 15:39, 6 มิถุนายน 2562


หน้าหลัก

ปัจจุบันหมวดหมู่นี้ไม่มีหน้าหรือสื่อใด