24 พฤษภาคม พ.ศ. 2489
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 เป็นวันที่มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 เป็นครั้งแรก เมืองไทยนี้หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน พ.ศ. 2475 ใหม่ ๆ ได้เลือกเอารูปแบบของสภาเป็นสภาเดี่ยว คือสภาผู้แทนราษฎร เพราะได้มีความคิดเห็นกันว่า “การมีสภาเดียวกัน กิจการดำเนินได้รวดเร็ว การมีสองสภานั้นอาจต่างกัน ชักช้าโตงเตง”
24 พฤษภาคม 2489 ครั้นใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 มาได้ประมาณ 14 ปี ก็ได้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ออกมาใช้ใน พ.ศ. 2489 รัฐธรรมนูญใหม่ได้เปลี่ยนจากระบบสภาเดี่ยวมาเป็น สภาคู่ จึงทำให้มีสภาที่สองที่เรียกว่า พฤฒสภา เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการก็ได้ว่าเป็นสภาสูง มาตรา 17 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ระบุว่า “รัฐสภาประกอบด้วยพฤฒสภาและสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะประชุมแยกกันหรือร่วมกัน” อีกหลายมาตรา ดังจะยกมาดูเฉพาะเท่าที่จำเป็น
“มาตรา 24 พฤฒสภาประกอบด้วยสมาชิกที่ราษฎรเลือกตั้งจำนวนแปดสิบคน สมาชิกพฤฒสภาต้องไม่เป็นข้าราชการประจำ การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาให้ใช้วิธีลงคะแนนเสียงทางอ้อมและลับ”
แสดงว่าพฤฒสภานี้ไม่ใช่สภาข้าราชการประจำอย่างแน่นอนและสมาชิกก็ต้องมาจากการเลือกตั้งทางอ้อม ในการเลือกตั้งนั้นก็ต้องดูคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นสมาชิกกันชัดเจน ซึ่งมาตรา 25 ของรัฐธรรมนูญได้ระบุว่า
“คุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้เลือกตั้งอีกทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฏหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภา แต่ผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างน้อย จะต้องมีอายุไม่ตำกว่าสี่สิบปีบริบูรณ์และมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่ามาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าปี หรือเคยดำรงตำแหน่งทางราชการมาแล้วไม่ต่ำกว่าหัวหน้ากองหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว” ที่น่าสังเกตคือ ย้ำสมาชิกสภาผู้แทนเพิ่มขึ้นอีก
ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งนั้นมาตรา 26 ระบุให้มีวาระ 6 ปี แต่ได้รับเลือกได้อีก
ในครั้งแรกนี้จะจัดการเลือกตั้งอย่างไรก็ต้องข้ามไปดูที่บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญในมาตรา 90 เพราะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่จะต้องทำตามบทเฉพาะกาล มาตรา 90
โดยในวรรคหนึ่งได้กล่าวถึง “องค์การเลือกตั้ง” และวรรคสองจึงระบุว่า “องค์การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาประกอบด้วยผู้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในวันสุดท้ายก่อนใช้รัฐธรรมนูญนี้”
การเลือกตั้งตามบทเฉพาะกาลนี้ได้ลดอายุผู้สมัครลงเหลือ
“ไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปี” แต่ยังยืนว่า “ต้องไม่เป็นข้าราชการประจำ” ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 อันเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภานี้ได้เปิดให้ เลือกตั้งได้ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ ได้บันทึกถึงการจัดการเลือกตั้งที่ทำโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไว้ดังนี้
“ในการเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภานี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นเจ้าหน้าที่ในการเลือกตั้ง เช่น การรับสมัคร ทำบัญชีผู้สมัคร การนับคะแนนและจัดดำเนินการทางธุรการในการเลือกตั้งทั้งสิ้น เสมือนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งได้กระทำแต่ 09.00 น. ต่อจากนั้นก็เริ่มนับคะแนนจนเสร็จสิ้นในวันนั้นเองปฏิบัติงานทั้งกลางวันและกลางคืน จนรุ่งสว่างจึงเสร็จสิ้น”
สมาชิกพฤฒสภาที่ได้รับเลือกจำนวน 80 คนนี้ ปรากฏว่าจำนวนมากก็เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภทที่ 2 ที่มาจากการแต่งตั้งมาก่อนแล้ว และจำนวนไม่น้อยก็เป็นผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ
หลังการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วได้มีการประชุมพฤฒสภาเป็นครั้งแรก ณ พระที่นั่งอภิเศกดุสิตในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ที่ประชุมได้มีมติเลือก นายวิลาศ โอสถานนท์ เป็นประธานพฤฒสภา และ นายไต๋ ปาณิกบุตร เป็นรองประธานพฤฒสภา
แต่การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภา และการมีพฤฒสภาก็มีอยู่เพียงเวลาอันสั้น เพราะรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ถูกยกเลิกไปโดยการรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490