ไท (พ.ศ. 2517 - 2523)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


พรรคพรรคไท

หลังจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 จอมพลถนอม จอมพลประภาส และ พ.อ.ณรงค์ได้เดินทางไปอยู่ต่างประเทศชั่วคราว นายสัญญา ธรรมศักดิ์ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว และจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ โดยเชื่อกันว่ามีความเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และประกาศใช้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พุทธศักราช 2517 เนื่องจากมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ บัญญัติให้มีการตั้งพรรคการเมืองได้ พระราชบัญญัติพรรคการเมืองฉบับ พ.ศ. 2517 ได้บัญญัติมาตรา 7 ให้บุคคล 15 คนก่อตั้งพรรคการเมืองได้โดยต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 1,000 คน ซึ่งมากขึ้นกว่าพระราชบัญญัติพรรคการเมือง 2 ฉบับก่อนหน้าที่กำหนดจำนวนสมาชิกไว้อย่างน้อย 500 คน(พ.ศ. 2498 และฉบับ พ.ศ. 2511)

ต่อมามีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2518 มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครเข้าแข่งขันเลือกตั้งถึง 41 พรรค เพื่อชิงตำแหน่ง ส.ส. จำนวน 269 คน ซึ่งพรรคไทได้ส่งผู้สมัครลงแข่งขัน 45 คน และได้รับเลือกตั้ง 4 คน ทว่าเนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเกินครึ่งหนึ่งคือ 135 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับเสียงตั้งมากที่สุดก็คือ 72 เสียง ซึ่งยังขาดอีก 63 เสียง จึงรวมพรรคกับพรรคเกษตรสังคมซึ่งมี 19 เสียงตามมติของสภา จึงมี 91 เสียงจัดตั้งรัฐบาลโดยมี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรีได้จัดตั้งรัฐบาลขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2518 แต่เมื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ปรากฏว่าได้รับเสียงเห็นชอบจากสภาเพียง 111 เสียง ไม่เห็นชอบ 152 เสียง รัฐบาลจึงต้องลาออก

ในวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2518 สภาได้ประชุมกันและมีมติให้ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หัวหน้าพรรคกิจสังคมจัดตั้งรัฐบาล โดยได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 135 เสียง แต่การที่พรรคกิจสังคมมีเสียงเพียง 18 เสียง จึงต้องตั้งรัฐบาลผสมถึง 8 พรรค เพื่อให้ได้เสียงเกินครึ่ง กระนั้นเมื่อบริหารประเทศไปได้ยังไม่ถึงปีก็จำต้องยุบสภาเพราะผู้ให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจริงๆก็มีเพียง 18 เสียงเท่านั้น การประกาศยุบสภาเกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2519 และกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2519 ซึ่งปรากฏว่าในครั้งนี้ไม่มีผู้สมัครในนามพรรคไทลงสมัครรับเลือกตั้งเลย

หลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 รัฐบาลแต่งตั้งของพล.อ.เกรียงศักดิ์ได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2521 ในส่วนที่เกี่ยวกับพรรคการเมืองนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้บัญญัติให้มีการตั้งพรรคการเมืองได้ตามมาตรา 38 แต่ที่สำคัญก็คือในมาตรา 95 ระบุว่าคุณสมบัติหนึ่งของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็คือจะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และพรรคการเมืองที่มีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง จะต้องส่งผู้สมัครไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดที่จะพึงมีในการเลือกตั้งครั้งนั้น หมายความว่าผู้ไม่สังกัดพรรคใดจะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ อย่างไรเสียรัฐธรรมนูญฉบับนี้ระบุว่าให้มีการแต่งตั้งวุฒิสมาชิกในวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและในช่วงเวลา 4 ปี แรกนับตั้งแต่วันตั้งวุฒิสมาชิกยังไม่ให้ใช้ข้อบังคับที่ระบุว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องสังกัดพรรคการเมือง และมีการประกาศการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2522 ในส่วนของพรรคไท (กลุ่มการเมืองไท) ได้ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งอีกครั้งในครั้งนี้จำนวน 1 คน ทว่าสอบตก และพรรคได้ดำเนินการต่อมาอีกระยะหนึ่งก่อนปิดตัวลงอีกครั้งใน พ.ศ. 2523

ที่มา

เชาวนะ ไตรมาศ. ข้อมูลพื้นฐาน 66 ปีประชาธิปไตยไทย. กรุงเทพฯ : สถาบันนโยบายศึกษา, 2542.

พรรคการเมืองไทย. http://www.weopenmind.com/board/index.php?topic=5929.msg47927