แนวร่วมประชาธิปไตย (พ.ศ. 2519)
ผู้เรียบเรียง รองศาสตราจารย์ ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตย
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยเป็นพรรคการเมืองที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2517 โดยได้ยื่นจดทะเบียนต่อปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 ทะเบียนเลขที่ 49/2519 หัวหน้าพรรคคือ นายไพฑูรย์ เครือแก้ว เลขาธิการพรรคคือ นายเหรียญชัย จอมสืบ กรรมการอำนวยการอื่น ได้แก่ นายสนอง บุญไชย นายทอง ดาวเรือง นายชู อุ่นสมัย นายสิริชัย หมื่นจร นายพิสิทธิ์ ชยาภินันท์ นายไพทัน เครือแก้ว นายประจวบ ไชยสาส์น นายทองเสาร์ รัตนสิงหา และนายวีรวงศ์ สอนอ้น คำขวัญของพรรคแนวร่วมประชาธิปไตย คือ “ชาติ เกียรติภูมิ และความเป็นธรรม”
อุดมการณ์ของพรรคแนวร่วมประชาธิปไตย
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยถือว่าพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพสักการะ และเป็นสัญลักษณ์แห่งเอกภาพของชาติและความสามามัคคีในชาติ จึงอยู่เหนือการเมือง สำหรับสถาบันศาสนา พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะถือว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการนับถือ และปฏิบัติพิธีกรรมศาสนานิกายศาสนา หรือลัทธินิยมในทางศาสนาใด ๆ ทั้งนี้ต้องไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อหน้าที่พลเมืองดี ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและศีลธรรมอันดีของประชาชน พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะยึดมั่นในสถาบันประชาชน โดยถือว่ามวลชนเป็นเจ้าของประเทศ ดังนั้น อำนาจอธิปไตยหรืออำนาจสูงสุดในการปกครองต้องเป็นของมวลชน อันประกอบด้วย ชาวนา กรรมกร นักศึกษา ทหาร ข้าราชการทุกประเภทที่รักความเป็นธรรม ไม่กดขี่ขูดรีดเบียดเบียนประชาชน
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะมุ่งก่อตั้งและสร้างสรรค์สถาบันการเมืองให้เป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์ของมวลชน โดยที่จะให้สถาบันการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้เป็นองค์กรกำหนดและควบคุมการบราหรท้องถิ่น และการบริหารประเทศ จะวางมาตรการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของชาติให้เกิดพลังแห่งภราดรภาพ และความสันติสุขระหว่างชนในชาติ โดยเฉพาะกำลังกองทัพต่าง ๆ ให้เป็นแกนในการรักษาเอกราชและอธิปไตยของประเทศอย่างแท้จริง
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะปรับปรุงระบบและสถาบันราชการเสียใหม่ โดยจัดระบบข้าราชการให้เป็นเครื่องมือของการบริหารของรัฐบาลมวลชน โดยขจัดลัทธิวามเป็นเจ้าขุนมูลนาย เพื่อมิให้ข้าราชการมีลักษณะเป็นอภิสิทธิชนและให้เป็นผู้รับใช้มวลชนทุกระดับ ขจัดการคอรัปชั่นอันเป็นอุปสรรคในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจกจและมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างข้าราชการของรัฐกับมวลชนอย่างแท้จริง พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะกระจายอำนาจและความเจริญด้านต่าง ๆ ไปสู่ท้องถิ่น เพื่อความสงบสุขของมวลชนให้มากที่สุด การกระจายทั้งอำนาจและความเจริญต่าง ๆ ไปสู่ท้องถิ่น เพื่อความสงบสุขของมวลชนให้มากที่สุด การกระจายอำนาจไปสู่มวลชนนั้นรวมไปถึงการปรับปรุงระบบการทำงานของข้าราชการฝ่ายจับกุม ปราบปราม และสอบสวน ซึ่งนอกจากการควบคุมจากมวลชนโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมแล้ว อำนาจการจับกุม ปราบปราม สอบสวนนั้น จะต้องแยกออกจากกันโดยเด็ดขาด
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะเน้นหนักให้ประชาชนมีเสรีภาพทางการเมืองอย่างสมบูรณ์ที่สุดโดยให้มีโอกาสรวมตัวเป็นสหพันธ์ เช่น สหพันธ์กรรมกร สหพันธ์นักศึกษา สหพันธ์ชาวนาชาวไร่ ได้ทำการศึกษา เรียกร้อง ปกป้อง และรักษาสถานภาพแห่งสิทธิของตนเอง จะให้มหาวิทยาลัยมีเสรีภาพในการศึกษาทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างเต็มที่ จะให้มีการกระจายอำนาจบริหารไปสู่ท้องถิ่น โดยให้ประชาชนมีส่วนในการปกครองตนเองมากที่สุด เช่น การเลือกตั้งสภาท้องถิ่น การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นต้น จะให้มีเสรีภาพในการตั้งพรรคการเมือง และกลุ่มพลังทางการเมืองทั้งหลายอย่างกว้างขวาง โดยไม่จำกัดลัทธิหรืออุดมการณ์ทางการเมือง
นโยบายด้านการต่างประเทศ พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะสร้างสัมพันธไมตรีกับทุกชาติ ทุกค่ายการเมือง บนรากฐานแห่งความเสมอภาคและความเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน จะดำเนินการให้เลิกฐานทัพและกากเดนของกองทัพต่างชาติออกไปจากประเทศไทยโดยสิ้นเชิง และกำจัดอิทธิพลทางการเมือง การเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ตลอดทั้งการแทรกแซงของต่างประเทศ เพื่อเอกราชและอธิปไตยอันสมบูรณ์ของชาติไทย และจะสนับสนุนประชาชาติผู้ถูกกดขี่ที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งเสรีภาพ อิสระภาพ และอธิปไตยทั่วโลก
นโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคม พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะสนับสนุนระบบเศรษฐกิจและสังคมตามแนวทางแห่งอุดมการณ์ของสังคมนิยมโดยระบอบประชาธิปไตยสมบูรณ์ของมวลชน และในกรณีที่มีการลงทุนใด ๆ จากต่างประเทศหรือเอกชนในประเทศ อันจักเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นส่วนใหญ่ที่ไม่กระทบกระเทือนและมีพันธะต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศก็จะได้รับการสนับสนุน จะขจัดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนมีกับคนจนให้น้อยลง จนอยู่ในระดับใกล้เคียง และให้รายได้ประชาชาติกระจายไปสู่ประชาชนทุกชั้นในระดับใกล้เคียง และให้รายได้ประชาชาติกระจายไปสู่ประชาชนทุกชั้นอย่างทั่วถึง
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะให้รัฐเป็นผู้ดำเนินการหรือถือหุ้นใหญ่ หรือมีอำนาจควบคุมในอุตสาหกรรมหนักที่มีผลกระทบกระเทือนโดยตรงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ จะให้รัฐควบคุมการดำเนินการอุตสาหกรรมบริการ ที่มีผลต่อสาธารณชนโดยตรง เช่น การไฟฟ้า การประปา การขนส่ง ฯลฯ และจะให้รัฐควบคุมการค้าที่มีผลกระทบกระเทือนต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง เช่น ข้าว น้ำตาล น้ำมัน ฯลฯ จะขจัดระบบคนกลางและระบบอภิสิทธิ์ใด ๆ ที่มีอยู่ให้หมดสิ้น
นโยบายด้านการเกษตรกรรม พรรคแนวร่วมประชาธิปไตย จะให้มีการปฏิรูปที่ดิน โดยจัดให้ชาวนาและประชาชนมีที่ดินเป็นของตนเอง เพื่อให้มีที่ทำกินและที่อยู่อาศัย โดยนำเอาที่ดินของผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ครอบครองมากเกินควรมาจัดสรรปันส่วน โดยที่รัฐชดใช้ค่าทดแทนอันเป็นธรรมให้แก่เจ้าของ รัฐจะต้องบุกเบิกที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาเพื่อจัดสรรให้แก่ประชาชนตามความจำเป็น จะให้มีมาตรการในการเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่า ซึ่งผู้มีกรรมสิทธิ์ถือครองเป็นเจ้าของไม่ทำประโยชน์ในอัตราสูง และให้มีมาตรการในการจัดเก็บภาษีมรดกในอัตราที่สูงขึ้นโดยลำดับ จะส่งเสริมให้ใช้ระบบสหกรณ์โดยมวลชน ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างกว้างขวาง โดยปราศจากระบบครอบงำของข้าราชการดังที่ผ่านมา ในกรณีชาวนาให้รัฐทำการช่วยเหลือในด้านวิชาการ เครื่องมือทุ่นแรง การตลาด และให้ชาวนารวมกันเป็นสหกรณ์ผู้ผลิต
นโยบายด้านสวัสดิการสังคม พรรคแนวร่วมประชาธิปไตย จะจัดให้มีระบบการประกันสังคม มีการประกันให้ประชาชนทุกคนมีงานทำ และได้ค่าแรงที่เป็นธรรมโดยมีรายได้อย่างเพียงพอต่อการยังชีพด้วยเกียรติและคุณภาพแห่งชีวิตดังคนที่เสมอกันจะพึงมีในสังคม จะประกันสวัสดิการแห่งชีวิต คือให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย ให้การรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน รัฐรับเลี้ยงดูหรืออุดหนุนเมื่อยามชราหรือเมื่อตาย จะจัดให้มีการสงเคราะห์เด็กกำพร้าและเด็กอนาถา ทั้งด้านความเป็นอยู่และการศึกษา
นโยบายด้านการศึกษา พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะประกันการศึกษา ให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิได้เรียนรู้ในกระบวนการศึกษาจนสุดขีดแห่งความสามารถ เช่น ลูกชาวนา ลูกกรรมกร หรือลูกคนจนมีโอกาสได้เรียนรู้ถึงระดับอุดมศึกษาได้ฟรีตามขีดแห่งความสามารถของมันสมอง จะส่งเสริมให้เยาวชนได้รับคุณภาพและปัจจัยในการศึกษาอย่างเท่าเทียมและเสมอหน้ากันโดยตลอด จะปรับปรุงหลักสูตร ปรัชญา รูปแบบ และเนื้อหาของการศึกษาให้สอดคล้องกับวิถีทางแห่งชีวิตและความเป็นจริงแห่งชีวิตของมวลชน และต้องสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจ การเมือง และความต้องการของประเทศ จะจัดระบบการศึกษาโดยเน้นหนักในด้านวิทยาศาสตร์ ประชาธิปไตย และขบวนการผลิตของท้องถิ่น รวมทั้งสถาบันทางวิชาการอื่น ๆ
นโยบายด้านการสาธารณสุข พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะดำเนินการให้ประชาชนทุกท้องถิ่นได้รับบริการสาธารณสุข การแพทย์ และการพลานามัยโดยไม่คิดมูลค่าบริการและค่าเวชภัณฑ์อย่างทั่วถึง และจริงจัง จะเร่งรัดให้มีการผลิตกแพทย์ทุกระดับ เพื่อให้สมดุลย์และเพียงพอต่อความต้องการของมวลชน และอัตราการเพิ่มของประชากร โดยเฉพาะผู้ศึกษาวิชาแพทย์ระดับสูง รัฐพึงส่งกลับท้องถิ่นชนบทก่อนตัวเมือง และจะทำการฝึกอบรมวิชาการแพทย์เบื้องต้นแก่ผู้มีความสามารถของแต่ละท้องถิ่นเพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงต่อท้องถิ่นนั้น ๆ โดยเฉพาะแพทย์แผนโบราณยังมีคุณประโยชน์ต่อประชาชน พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยจะส่งเสริมทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
พรรคแนวร่วมประชาธิปไตยส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2519 และได้รับเลือกตั้ง 1 ที่นั่ง ส่วนพรรคขนาดเล็กอื่น ๆ อีก 18 พรรค ไม่ได้รับการเลือกตั้งแม้แต่ที่นั่งเดียว ได้แก่ พรรคชาติสยาม พรรคไทยอิสระ พรรคฟื้นฟูชาติไทย พรรคแนวสันติ พรรคพลังเสรี พรรคเกษตรกร พรรคพลังสยาม พรรคกรุงสยาม พรรคสันติชน พรรคประชาก้าวหน้า พรรคเศรษฐกร พรรคศรีอารยะ พรรคนิยมไทย พรรคสังคมประชาธรรม พรรคพลังราษฎร์ พรรคไทยรวมไทย พรรคชาตินิยม พรรคสงเคราะห์อาชีพ และพรรคไท พรรคการเมืองทั้งหมดที่จดทะเบียนจัดตั้งตามพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ 2517 ต้องสิ้นสภาพลงเมื่อคณะทหารเข้ายึดอำนาจเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2516
ที่มา
ราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษ ตอนที่ 93 เล่มที่ 27 ฉบับพิเศษ ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519, หน้า 84-94
เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช, การสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคการเมืองในประเทศไทย, วิทยานิพนธ์หลักสูตรชั้นปริญญาโท ภาค 2 ทางรัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2519
สุจิต บุญบงการ, การพัฒนาการเมืองของไทย: ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทหาร สถาบันทางการเมือง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน, กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531
บุญทัน ดอกไธสง, การเปลี่ยนแปลงทางการบริหารและการเมืองไทย, กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์, 2520