สุขาภิบาลกรุงเทพฯ

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

เรียบเรียงโดย : ดร.ชาติชาย มุกสง นายภาณุพงศ์ สิทธิสาร

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต


สุขาภิบาลกรุงเทพฯ


          พ.ศ.2440 มีการจัดตั้งกรมสุขาภิบาลขึ้นเพื่อดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และบริการด้านสาธารณสุข โดยเน้นเรื่องความสะอาดและอนามัย มีหน้าที่ดูแลขยะ การขับถ่ายของประชาชน โรงเรือนที่ทำให้เกิดโรค และขนย้ายสิ่งสกปรกออกจากเมือง ซึ่งได้ทำการจัดตั้งสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ขึ้นเป็นแห่งแรกก่อน เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์รักษาความสะอาดงดงามของพื้นที่เขตพระนครเป็นสำคัญ [1] ก่อนที่จะมีการจัดตั้งสุขาภิบาลขยายออกไปตามหัวเมืองต่าง ๆ ให้สอดรับกับความก้าวหน้าของรูปแบบการปกครองบ้านเมือง

การจัดตั้งสุขาภิบาลกรุงเทพฯ

          การปฏิรูปการปกครองของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง (centralization) ด้วยกระบวนการต่าง ๆ อาทิ การจัดตั้งกระทรวง ทบวง กรมขึ้นดูแลรับผิดชอบตามภาระหน้าที่ที่รัฐมอบหมายจัดสรรให้ เช่นเดียวกับเมื่อ พ.ศ.2440 หรือ ร.ศ.116 ขณะที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป และสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระอรรคราชเทวี ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ได้มีพระราชเสาวนีต่อการจัดตั้งกรมสุขาภิบาล สังกัดกระทรวงนครบาลขึ้นสำหรับ

...ป้องกันโรคภยันตราย ในกรุงเทพฯ แลให้สืบสวนตรวจตรา การที่เกี่ยวในทางโรคภัยของมหาชนทั่วไป (และ)...รักษาความสอาด ป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัย กับทั้งจะให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแลงดงาม ให้เปนที่เจริญทั่วไปตลอดเขตรแขวงพระนครนั้น [2]

          ในการนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาเทเวศรวงษ์วิฒน์ (ม.ร.ว.หลาน กุญชร) เป็นผู้บัญชาการกรมสุขาภิบาล คอยเรียกประชุมเจ้าพนักงานของกรม แก้ไขปัญหา ตั้งงบประมาณ และรายงานผลการดำเนินงานของกรมต่อกระทรวงนครบาล [3]

พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ

          พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ มีเนื้อหาแบ่งออกเป็น 4 หมวด คือ [4] หมวดที่ 1 ว่าด้วยการแต่งตั้งเจ้าพนักงานแพทย์ สำหรับตรวจโรค และช่างใหญ่ (หมายถึงวิศวกร) สำหรับตรวจรักษาความสะอาด หมวดที่ 2 ว่าด้วยงานที่ต้องกระทำโดยเร่งด่วนหลังประกาศพระราชกำหนดนี้ เช่น การกำจัดขยะมูลฝอย การจัดสถานที่ขับถ่ายให้แก่ราษฎรอย่างถูกสุขลักษณะ และห้ามมิให้ก่อสิ่งปลูกสร้างที่อาจเป็นบ่อเกิดของโรค หมวดที่ 3 ว่าด้วยการจะขยายการจัดตั้งสุขาภิบาลออกไปยังจังหวัดต่าง ๆ และหมวดที่ 4 ว่าด้วยข้อความเบ็ดเตล็ดในพระราชกำหนด

หน้าที่ของกรมสุขาภิบาล

          ตามที่ได้มีพระราชกำหนดจัดตั้งกรมสุขาภิบาลขึ้นนั้น นอกจากจะมีหน้าที่คอยดูแลความสะอาดของบ้านเมืองแล้ว อีกโสดหนึ่งยังเป็นการรักษาความเรียบร้อยในพระนคร ดังจะเห็นได้จากประกาศกรมสุขาภิบาลที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ห้ามมิให้ราษฎรปลูกเพิงล้ำออกมายังแนวถนน ซึ่งจะกีดขวางทางรถ ม้า และผู้คนที่สัญจรไปมา โดยมีเจ้าพนักงานคอยว่ากล่าวตักเตือนให้รื้อถอน หรือเก็บค่าปรับตามพิกัดอัตราที่ตั้งไว้ หรือห้ามมิให้เด็กหรือผู้ใหญ่ขีดเขียนสาธารณสมบัติที่ราษฎรต้องใช้ร่วมกันเป็นอันขาด หากฝ่าฟื้นมีโทษปรับหรือจำคุก [5] กระนั้น งานสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ยังคอยประกาศแจ้งความต่าง ๆ อันเนื่องจากกรมสุขาภิบาล อาทิ แจ้งความผู้รับทำถนนทางเดินเท้าในพระนคร [6] ตลอดจนการโยกย้ายตำแหน่ง หรือลาออกของเจ้าพนักงานของกรม

          อย่างไรก็ตาม สุขาภิบาลกรุงเทพฯ มีความสัมพันธ์กับการขยายพื้นที่ความเป็นเมืองของตัวพระนครหรือกรุงเทพฯ งานของกรมสุขาภิบาลจึงครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภทของการสร้างระบบความเป็นเมือง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกทั้งในกองแพทย์ กองช่าง และการไฟฟ้า ล้วนสังกัดกรมสุขาภิบาลเป็นจำนวนมาก [7] เมื่อการพัฒนาเมืองที่เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ บังเกิดผลในระดับหนึ่งแล้ว จึงเริ่มขยายพื้นที่จัดตั้งสุขาภิบาลออกสู่ตามหัวเมืองต่างจังหวัด เพื่อพัฒนาพื้นที่ใช้สอยและความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความสะอาด ปลอดโรค และเรียบร้อยแลดูงามตาสมกับเป็นบ้านเมืองที่มีความเจริญ

 

บรรณานุกรม

แจ้งความกรมสุขาภิบาล เรื่อง มีผู้รับทำถนนเดินเท้าประกอบถนนหลวงให้รัฐบาล, (122, 24 มกราคม),  ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 20, ตอนที่ 43, หน้า 748.

ประกาศกรมศุขาภิบาล, (117, 8 พฤษภาคม), ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 15, ตอนที่ 6, หน้า 53 – 54.

พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งผู้บัญชาการกรมศุขาภิบาล,  (116, 1 กุมภาพันธ์), ราชกิจจานุเบกษา,  เล่ม 14, ตอนที่ 44 ฉบับพิเศษ, หน้า 763.

พระราชกำหนดศุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ.116, (116, 21 พฤศจิกายน), ราชกิจจานุเบกษา, เล่ม 14, ตอน  ที่ 34, หน้า 517 – 525.

ภิญญพันธ์ พจนะลาวัณย์, เทศบาล': พื้นที่ เมือง และกาลเวลา', กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์, 2560.

 

หนังสืออ่านเพิ่มเติม

เมธีพัชญ์ จงวโรทัย. สุขาภิบาล': การปกครองท้องที่สยาม พ.ศ.2440 – 2476'. วิทยานิพนธ์    อักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.

สุวัสดี โภชน์พันธุ์. เทศบาลและผลกระทบต่ออำนาจท้องถิ่น พ.ศ. 2476-2500. วิทยานิพนธ์  อักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2543.

 

อ้างอิง

            [1] สุวัสดี โภชน์พันธุ์ (2543) อ้างถึงใน ภิญญพันธ์ พจนะลาวัณย์, เทศบาล': พื้นที่ เมือง และกาลเวลา', (กรุงเทพฯ: สยามปริทัศน์, 2560), หน้า 33 – 34.

            [2] พระราชกำหนดศุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ.116, (116, 21 พฤศจิกายน), ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 14, ตอนที่ 34), หน้า 517 – 525.

            [3] พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งผู้บัญชาการกรมศุขาภิบาล,  (116, 1 กุมภาพันธ์), ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 14, ตอนที่ 44 ฉบับพิเศษ), หน้า 763.

            [4] พระราชกำหนดศุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ.116, (116, 21 พฤศจิกายน), ราชกิจจานุเบกษา, เล่มเดิม, หน้าเดิม.

            [5] ประกาศกรมศุขาภิบาล, (117, 8 พฤษภาคม), ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 15, ตอนที่ 6), หน้า 53 – 54.

            [6] แจ้งความกรมสุขาภิบาล เรื่อง มีผู้รับทำถนนเดินเท้าประกอบถนนหลวงให้รัฐบาล, (122, 24 มกราคม), ราชกิจจานุเบกษา, (เล่ม 20, ตอนที่ 43), หน้า 748.

            [7] เมธีพัชญ์ จงวโรทัย (2549) อ้างถึงใน ภิญญพันธ์ พจนะลาวัณย์, เล่มเดิม, หน้า 34.