ราษฎรรักไทย (พ.ศ. 2549)
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคราษฎรรักไทย
พรรคราษฎรรักไทยจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2549[1] โดยมีนายโภมาต เจริญภูวดล ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคและนายภาคิน เหลื่อมรัมย์ ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค [2]
ในส่วนของการร่วมกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคนั้น ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรรคได้ส่งผู้สมัครเข้ารับการเลือกตั้งในนามของพรรคจำนวน 10 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นการเลือกตั้งในแบบสัดส่วน ผลของการเลือกตั้งครั้งดังกล่าวนั้นผู้สมัครทั้งหมดของพรรคมิได้ถูกรับเลือกแต่อย่างใด
รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ[3]
ด้านเศรษฐกิจ 1.สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ 2.ลดช่องว่างทางเศรษฐกิจและขจัดความยากจนในประเทศให้ลดน้อยลง 3.สนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมส่งออก 4.ปลดหนี้ให้คนไทยทุกคนไม่เกินห้าแสนบาทต่อคน 5.มีนโยบายเก็บภาษีก้าวหน้าสำหรับผู้ที่ถือครองที่ดินเกิน 2 ไร่
ด้านการเมือง 1.ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในรัฐธรรมนูญ 2.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน 3.สนับสนุนการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
ด้านสังคม 1.พัฒนาคนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม มีระเบียบวินัย รับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม 2.สนับสนุนการสืบทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทย 3.ส่งเสริมสื่อให้มีคุณภาพเพื่อปลูกฝังค่านิยมที่ดีงาม 3.จัดทำโครงการสร้างจริยธรรม คุณธรรมและวินัยของคนในชาติ 4.ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและสารเสพติด 5.สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเด็กจรจัด แรงงานเด็ก และโสเภณี 6.ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดทางเพศต่อเด็กและสตรี
ด้านการต่างประเทศ 1.ส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน 2.เพิ่มบทบาทของประเทศไทยในองค์การระหว่างประเทศ 3.ร่วมมือกับประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม 4.ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในเอเชีย 5.สนับสนุนการสร้างสันติภาพโลก
ด้านการเกษตร 1.ปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกร ผู้ยากจนและไม่มีที่ทำกิน 2.ส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป 3.พัฒนาความรู้ทางการเกษตรที่สำคัญให้แก่เกษตรกร 4.สนับสนุนการวิจัยด้านการเกษตร
ด้านการศึกษา 1.ขยายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึงคนทุกกลุ่ม 2.สนับสนุนการจัดการศึกษาชั้นอนุบาลหรือก่อนประถมศึกษา 3.ให้ความรู้แก่พ่อแม่ในการดูแลลูก 4.จัดการศึกษาโดยเน้นในเรื่องความรู้คู่คุณธรรม 5.เน้นการผลิตครูในสาขาที่ขาดแคลน 6.เรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี
ด้านการสาธารณสุข 1.พัฒนาบุคลากรในด้านการรักษาพยาบาล 2.สนับสนุนให้สถาบันครอบครัว อาสาสมัครสาธารณสุขเข้ามามีบทบาทในด้านการดูแลสุขภาพ 3.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ 4.สนับสนุนมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค 5.รักษาพยาบาลฟรีแก่ผู้มีรายได้น้อยและผู้ใช้แรงงาน 6.จัดให้มีสถานนี้อนามัยครบทุกตำบลและเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม 1.ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับแรงงาน 2.ฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือแรงงาน 3.สนับสนุนและส่งเสริมให้มีแรงงานสัมพันธ์
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1.ผลิตและพัฒนากำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2.ร่วมกันพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับต่างประเทศ 3.สนับสนุนและส่งเสริมการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ด้านการอุตสาหกรรม 1.จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมส่งออกในชนบท 2.สนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมส่งออกหลักของประเทศและอุตสาหกรรมในครัวเรือน
ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1.อนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ 2.อนุรักษ์ ควบคุมดูแลแหล่งน้ำ 3.ปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม