พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย : สวีเดน

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง : ณัชชาภัทร อมรกุล

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ

 

          ประเทศสวีเดน เป็นประเทศที่อยู่ในคาบสมุทรสแกนดิเนเวียทางตอนเหนือของยุโรป มีพรมแดนทางตอนเหนือและตะวันตกติดกับประเทศนอร์เวย์ ส่วนทางตะวันออกติดกับฟินแลนด์ สามารถเชื่อมต่อกับเดนมาร์กได้ทางตะวันตกเฉียงใต้ด้วยสะพาน-อุโมงข้ามแม่น้ำเออเรซุนด์ (Öresund) สวีเดนมีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศนอร์ดิกและใหญ่เป็นลำดับสามของสหภาพยุโรป

          ประเทศสวีเดนเป็นประเทศพัฒนาแล้ว มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index) เป็นอันดับ 7 รองจากสวิสเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอร์แลนด์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย และเดนมาร์ก (the United Nations Development Programme, 2022) สินค้าออกที่สำคัญของประเทศเช่น รถยนต์และเครื่องจักร ยาและสินค้าเคมี เครื่องใช้ไฟฟ้า แร่ธาตุ ไม้ พลังงาน อาหาร รองเท้า และเสื้อผ้า (Swedish Institute, 2021)

          ประเทศสวีเดนมีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ มีรัฐสภาชื่อว่า ริกส์แดก (Riksdag) อำนาจทางการเมืองขึ้นอยู่กับรัฐสภาและรัฐบาล พระมหากษัตริย์มีพระราชกรณียกิจทางพิธีการ ประมุขแห่งรัฐคนปัจจุบันคือ พระเจ้าคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ รัชทายาทคือ มกุฎราชกุมารีวิกตอเรีย (Swedish Institute, 2021)

 

ประวัติศาสตร์

          ประเทศสวีเดนมีผู้คนมาตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างยาวนาน ตั้งแต่ 8,000-6,000 ปี ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นยุคสมัยของการเก็บของป่าล่าสัตว์ โดยมีการค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย แต่ยุคที่คนรู้จักสวีเดนมากที่สุดย้อนหลังไปในช่วง ค.ศ. 800-1050 ซึ่งเป็นยุคที่มีกิจกรรมจำนวนมากของชาวสแกนดิเนเวียไปยังทิศใต้และตะวันออกภายใต้ชื่อ “ไวกิ้ง” โดยทำการปล้นสะดมและทำการค้าตามชายฝั่งทะเลบอลติกและแม่น้ำที่ทอดยาวลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียปัจจุบัน ชาวไวกิ้งเดินทางไปไกลถึงทะเลดำและทะเลแคสเปียนที่ซึ่งพวกเขาได้พัฒนาการเชื่อมโยงการค้ากับจักรวรรดิไบแซนไทน์และอาณาจักรอาหรับ (Sweden Institute, 2022) ศาสนาคริสต์มาถึงสวีเดนเป็นครั้งแรกโดยมีภารกิจนำโดย อันสการ์ (ค.ศ. 800-865) ซึ่งเป็นมิชชันนารีที่ปฏิบัติภารกิจในกลุ่มประเทศนอร์ดิกในศตวรรษที่ 9 (Helmersen, 2023)

          จังหวัดต่าง ๆ ของสวีเดนได้รวมเข้าด้วยกันในราว ค.ศ. 1000 แต่กว่าพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์จะเริ่มพัฒนาขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ก็เริ่มขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 โดย พระเจ้าแมกนุส ลาดูลาส์ (King Magnus Ladulås ค.ศ. 1240–90) ได้ทรงออกกฎหมายอนุญาตให้จัดตั้งขุนนางและจัดระเบียบสังคมตามแบบศักดินาใน ค.ศ. 1280 (Sweden Institute, 2022)

          ในช่วงศตรรษที่ 14 ได้มีการขยายตัวทางการค้ากับเมืองต่าง ๆ ในเยอรมันภายใต้การนำของนครลือเบค (Lübeck ) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสหภาพฮันซีเอติก (Hanseatic League) ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการค้าในเขตนอร์ดิก ทำให้มีหลายเมืองที่ก่อตั้งขึ้นจากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่มีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตามกาฬโรคได้ระบาดในภูมิภาคนี้ใน ค.ศ. 1350 ทำให้จำนวนประชากรลดลงอย่างรวดเร็วเป็นระยะเวลานาน (Sweden Institute, 2022)      

          ใน ค.ศ. 1389 ดินแดนส่วนที่เป็นเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน ได้รวมเป็นหนึ่งภายใต้การปกครองของ ราชินีมาร์กาเร็ต (Queen Margaret of Denmark, Norway, and Sweden ค.ศ. 1353-1412) ต่อมาในปี ค.ศ. 1397 สหภาพคาลมาร์ (Kalmar Union) ได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย 3 ประเทศ ภายใต้พระมหากษัตริย์องค์เดียว

          ต่อมาสวีเดนได้แยกตัวออกจากสหภาพคาลมาร์ นโยบายต่างประเทศของสวีเดนหลังจากนั้นมุ่งเป้าไปที่การควบคุมเหนือทะเลบอลติก โดยในช่วงสงครามสามสิบปี (ค.ศ. 1618-1648) พระเจ้ากุสตาฟุส อโดฟัส (Gustavus Adolphus 1594-1632) ของสวีเดนได้เข้ามาแทรกแซงในช่วงกึ่งกลาง คือใน ค.ศ. 1630 โดยเข้าข้างฝ่ายโปรแตสแตนท์ของเยอรมัน พระองค์ทรงได้รับการยอมรับว่ามีความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ริเริ่มการปฏิรูปการเมือง การขยายสิทธิทางการศึกษาและสิทธิของชาวนา พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในสนามรบใน ค.ศ. 1932 (Lewis, 2019) หลังจากนั้นสวีเดนปกครองด้วยพระราชินีคริสตินา (ค.ศ. 1626-1689) ผู้เป็นส่วนหนึ่งในการหยุดสงครามสามสิบปี  (Lewis, 2019)

          หลังจากนั้นสวีเดนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจในยุโรป และได้พบอาณานิคมที่เป็นรัฐเดลาแวร์ในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน แต่ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและการมีเศรษฐกิจแบบเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ทำให้สวีเดนไม่สามารถรักษาตำแหน่งในฐานะมหาอำนาจได้เป็นระยะเวลายาวนานหลังจากพ่ายแพ้ในสงคราม Great Northern War (ค.ศ. 1700-21) ต่อกองกำลังผสมของเดนมาร์ก โปแลนด์ และรัสเซีย ทำให้สวีเดนสูญเสียจังหวัดส่วนใหญ่ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลบอลติกและถูกลดระดับให้เหลือเพียงพรมแดนเดียวกับปัจจุบันที่เป็นดินแดนของสวีเดนและฟินแลนด์ (Sweden Institute, 2022)

          ในช่วงสงครามนโปเลียนสวีเดนสูญเสียฟินแลนด์ให้กับรัสเซีย จอมพลฝรั่งเศส Jean Baptiste Bernadotte ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์สวีเดนในปี 1810 สวีเดนได้นอร์เวย์ซึ่งถูกบังคับให้เป็นพันธมิตรกับสวีเดนในปี 1814 แต่ก็ต้องสลายตัวอย่างสงบในปี 1905 หลังจากเกิดข้อพิพาทภายในมากมาย

          หลังจากสงครามกับนอร์เวย์ใน ค.ศ. 1814 เป็นต้นมา สวีเดนไม่เคยร่วมในสงครามใด ๆ อีกเลย ตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่_1 เป็นต้นมา สวีเดนยึดถือนโยบายการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในช่วงเวลาสันติและนโยบายการวางตัวเป็นกลางในช่วงสงคราม โดยมีฐานความมั่นคงอยู่บนการมีศักยภาพในด้านการทหารที่เข้มแข็ง (Sweden Institute, 2022) สวีเดนเข้าร่วมสันนิบาตชาติใน ค.ศ. 1920 และสหประชาชาติใน ค.ศ. 1946 และส่งกองกำลังไปที่การใช้กองกำลังครั้งแรกของสหประชาชาติที่สุเอซใน ค.ศ. 1956 และตั้งแต่ ค.ศ. 1994 เป็นต้นมา สวีเดนทำงานร่วมกับนาโต้ภายใต้ชื่อหุ้นส่วนแห่งสันติภาพ และได้ร่วมในหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสันติภาพรหว่างประเทศ และล่าสุดในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 สวีเดนได้เข้าร่วมกับนาโต้อย่างเป็นทางการ (Sweden Institute, 2022)

 

การสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์สวีเดน

          ระบอบราชาธิปไตยของสวีเดนเป็นระบอบที่เก่าแก่ที่สุดระบอบหนึ่งของโลก มีพระมหากษัตริย์มากกว่า 70 พระองค์ ที่สามารถระบุพระนามได้ ดินแดนต่าง ๆ ในสวีเดนรวมตัวกันได้ในช่วง ค.ศ. 1000 ในช่วงรัชสมัยของ พระเจ้าโอลอฟ สเก็ตโคนุง (Olov Skötkonung ค.ศ. 995-1022) ซึงถือเป็นยุคเปลี่ยนผ่านจากยุคไวกิ้งมาเป็นยุคกลาง เนื่องจากพระองค์เป็นกษัตริย์คริสเตียนองค์แรกของชาวสวีเดน (dbpedia.org, 2023)

          เอกราชที่แท้จริงของสวีเดนเกิดขึ้นในยุคของ พระเจ้ากุสตาฟที่ 1 (Gustav I) หรือ กุสตาฟ อิริคสัน (Gustav Eriksson) หรือ พระเจ้ากุสตาฟ วาซา (Gustav Vasa ค.ศ. 1496-1560) เป็นผู้นำก่อการปฏิวัติ ถอนตัวจากสหภาพคาลมาร์ใน ค.ศ. 1523 ที่ปกครองพระเจ้าคริสเตียนที่ 2 ผู้ครอบครองเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน พระองค์จึงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของสวีเดนภายหลังจากแยกตัวออกจากสหภาพคาลมาร์ และสี่ปีต่อมาในปี ค.ศ. 1527 พระองค์ได้ริเริ่มการปฏิรูปศาสนาในประเทศสวีเดน โดยเปลี่ยนจากการเป็นประเทศคาทอลิกอันมีพระสันตะปาปาเป็นผู้แทนสูงสุดของคริสตจักร มาเป็นประเทศโปรเตสแตนต์ โดยมีกษัตริย์เป็นประมุขของคริสตจักรแทน จึงกล่าวได้ว่าระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสวีเดน ได้กำเนิดเกิดขึ้นไว้ในรัชสมัยของพระองค์นี่เอง ทรงรวบอำนาจมาจากคริสตจักร ยึดที่ดินของโบสถ์ และปฏิรูปศาสนาโดยนำนิกายโปรแตสเตนท์เข้ามาในประเทศ ได้ทำให้พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจมากขึ้น (Sweden Institute, 2022)

          พระเจ้าคาร์ลที่ 12 (1682-1718) เป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของสเปน พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่มาก วอลแตร์ขนานนามพระองค์ว่า ราชสีห์แห่งทิศเหนือ (the Lion of the North) หรือ ดาวตกแห่งสวีเดน (The Swedish Meteor) (Dash, 2012) พระองค์ทรงครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาตอนพระชนม์มายุ 15 พรรษา และสิ้นพระชนม์ตอนอายุ 36 พรรษา โดยในช่วงที่มีพระชนม์ชีพทรงทำสงครามอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงรัชสมัยของพระองค์ ชาวสวีเดนจำนวนมากรู้สึกว่าพระองค์ทำสงครามมากเกินไป ทำให้ประเทศยากจนและต้องสูญเสียชีวิตของประชาชนหลายพันคน

          อันที่จริง พระเจ้าคาร์ลที่ 12 ทรงครองราชย์ในช่วงเวลาที่วิกฤติของสวีเดน พระองค์มีศัตรูมากมายอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วและการครองราชย์ตั้งแต่พระชนม์มายุเพียง 15 ปี ทำให้พระองค์ถูกรุมต้อนจากศัตรูทั่วสารทิศ พระเจ้าคาร์ลทรงเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างอาจหาญ เพื่อที่จะพิสูจน์พระองค์ว่าเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ พระองค์ได้ชัยชนะในการบุกกองทัพของพระเจ้าซาร์ปีเตอร์ในยุทธการนาร์วา ค.ศ. 1700 หลังจากนั้นทรงทำศึกที่โปแลนด์อีก 6 ปี จนพระเจ้าซาร์ปิเตอร์ถอนกำลังออกจากโปแลนด์ ทรงมอบข้อเสนอที่จะยอมแพ้และมอบดินแดนแถบบอลติก (ยกเว้นเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก) แต่พระเจ้าคาร์ลที่ 12 ทรงไม่ยอม ทรงตัดสินใจจะบุกรัสเซียต่อ แต่คราวนี้พระเจ้าซาร์ปีเตอร์ทรงใช้กลยุทธ์ถอยทัพไปเรื่อย ๆ และทำลายเมืองทุกเมืองไม่ให้พระเจ้าคาร์ลนำไปใช้ประโยชน์ได้ จนใน ค.ศ. 1709 กองทัพของพระองค์พลาดท่าพ่ายแพ้ในยุทธการโปลตาวา พระองค์ทรงร้องขอพวกเติร์กให้ส่งกองกำลังไปช่วยใน ค.ศ. 1713 แต่ได้รับการปฏิเสธ การพ่ายแพ้กับรัสเซียทำให้พระองค์สูญเสียอิทธิพลอย่างมหาศาล จนในที่สุดทรงถูกลอบปลงพระชนม์ใน ค.ศ. 1718 จากการโจมตีด้วยกระสุนปืนคาสนามรบ

          แต่จากการสิ้นพระชนม์ในปีดังกล่าวและการพ่ายแพ้ในสงครามเหนือครั้งยิ่งใหญ่ (The Great Northern War) กลับได้สร้างหนทางไปสู่ระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ ในช่วงเวลานั้นเองที่รัฐสภาสวีเดนและองคมนตรีมีความเข้มแข็งพอที่จะประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยกเลิกระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และให้รัฐสภามีอำนาจสูงสุด และให้พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ (Swedish Institute, 2022)

 

ระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ

          จากสวีเดนเป็นประเทศที่มีระบอบกษัตริย์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ของสวีเดนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลก ด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนานกว่าพันปี แม้ว่าบทบาทของประมุขแห่งรัฐจะเปลี่ยนไปตามการพัฒนาของสังคม แต่สถาบันกษัตริย์ก็แสดงถึงความต่อเนื่องและประเพณี ซึ่งมีความสำคัญมากขึ้นในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน คาร์ลที่ 16 กุสตาฟ เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2516 และเป็นพระมหากษัตริย์ ลำดับที่ 74 ของประเทศ (Swedish Royal Court, 2023)

          ลำดับการสืบสันตติวงศ์ถูกกำหนดไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญสี่ฉบับของสวีเดน การมีสายการสืบราชสันตติวงศ์ (เพศชาย) ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 18 การสืบราชสันตติวงศ์โดยสมบูรณ์ (a fully cognatic line of succession) ถูกประกาศใช้ใน ค.ศ. 1980 ทำให้รัชทายาทของพระราชวงศ์มาจากพระหน่อองค์แรก โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเพศชายหรือเพศหญิง 

          พระมหากษัตริย์ คือ สัญลักษณ์การรวมชาติที่สำคัญที่สุดของสวีเดนตามรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1974 พระมหากษัตริย์ไม่มีความสัมพันธ์ทางการเมืองหรืออำนาจอย่างเป็นทางการ หน้าที่ของเขาส่วนใหญ่เป็นพิธีการและเป็นตัวแทน (Swedish Institute, 2022) นอกจากนี้พระองค์ยังดำรงตำแหน่งสภาแห่งรัฐ (council of state) เป็นการถาวร ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับรัฐมนตรีที่จะแจ้งให้ประมุขแห่งรัฐและรัชทายาทแห่งราชบัลลังก์ - มกุฎราชกุมารีวิกตอเรีย - มกุฎราชกุมารีวิกตอเรีย - เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล  (Swedish Institute, 2022)

          ในฐานะประมุขแห่งรัฐพระมหากษัตริย์ทรงมีหน้าที่ในรัฐพิธีและราชการเป็นหลักและทรงสามารถกำหนดหน้าที่ของพระองค์เองภายในกรอบที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ (Swedish Royal Court, 2023)

          พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์สวีเดน ได้แก่ เปิดการประชุมรัฐสภาตามคำร้องขอของประธานรัฐสภา โดยปกติจะเกิดขึ้นทุกเดือนกันยายนและเป็นจุดเริ่มต้นของปีการทำงานของรัฐสภา พิธีนี้จัดขึ้นในห้องประชุมของริสกแดก ซึ่งกษัตริย์มีพระราชดำรัสแก่สมาชิกของริสกแดกด้วย

          การเป็นประธานการประชุมที่จัดขึ้นในพระบรมมหาราชวัง การประชุม Councils of State จัดขึ้นเป็นประจำเพื่อให้รัฐมนตรีมีโอกาสแจ้งประมุขแห่งรัฐและรัชทายาทเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในกรณีที่มีกรณีประสูติพระราชกุมารหรือพระราชกุมารี พระมหากษัตริย์จะทรงเรียกประชุมสภาเพื่อประกาศพระนามและตำแหน่งพระราชกุมารหรือพระราชกุมารี

          นอกจากนั้นพระมหากษัตริย์ยังทรงเป็นประธานสภาที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานสำหรับการพิจารณานโยบายต่างประเทศระหว่างรัฐบาลและรัฐสภา สภาประชุมที่พระราชวัง พระมหากษัตริย์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ โดยทรงเป็นตัวแทนของสวีเดนในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศและรับการเสด็จเยือนต่างประเทศของประมุขของรัฐอื่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเสด็จพระราชดำเนินมีการวางแผนโดยหารือกับรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศและแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง การเสด็จพระราชดำเนินมีความสำคัญต่อการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสวีเดนในต่างประเทศ การมีส่วนร่วมพิธีการต่าง ๆ ของราชวงศ์ ทำให้การเยือนของรัฐเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการ และเปิดโอกาสมากมายสำหรับการส่งเสริมผลประโยชน์ของสวีเดนในต่างประเทศ (Swedish Royal Court, 2023)

          พระมหากษัตริย์ของสวีเดนทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของชาติจากการวางแผนตามพระราชดำริของพระองค์ และเสียงเรียกร้องจากภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม พระบรมวงศานุวงศ์ต่างให้การสนับสนุนพระมหากษัตริย์ในภารกิจหน้าที่นี้อย่างเด่นชัด พระราชกรณียกิจของพระองค์ครอบคลุมกิจการอันหลากหลาย อาทิ เช่น การส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศ การส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในประเทศกับผู้แทนจากหน่วยงานและองค์กรระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ความสัมพันธ์กับภาคอุตสาหกรรมสวีเดน ภารกิจในการป้องกันประเทศ รวมถึงภารกิจด้านการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การวิจัยและวัฒนธรรม ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านมูลนิธิต่าง ๆ (Swedish Royal Court, 2023)

 

อ้างอิง

Dash, M. (2012, September 17). The Blazing Career and Mysterious Death of “The Swedish Meteor”. Retrieved March 18, 2023, from Smithsonian Magazine: https://www.smithsonianmag.com/history/the-blazing-career-and-mysterious-death-of-the-swedish-meteor-39695356/

dbpedia.org. (2023). About: Olof Skötkonung. Retrieved March 18, 2023, from dbpedia.org: https://dbpedia.org/page/Olof_Sk%C3%B6tkonung

Helmersen, K. (2023). Ansgar. Retrieved March 15, 2023, from The Viking Ship Museum: https://www.vikingeskibsmuseet.dk/en/professions/education/viking-age-people/historical-characters/ansgar

Lewis, J. J. (2019, July 23). Biography of Christina, Unconventional Queen of Sweden. Retrieved from ThoughtCo.: https://www.thoughtco.com/queen-christina-of-sweden-3530306

Sweden Institute. (2022, November 15). History of Sweden. Retrieved from Sweden Institute: https://sweden.se/culture/history/history-of-sweden

Swedish Institute. (2021, June 1). Key facts about Sweden. Retrieved March 23, 2023, from Swedish Institute: https://sweden.se/life/society/key-facts-about-sweden

Swedish Institute. (2022, April 28). The Swedish monarchy. Retrieved March 15, 2023, from Swedish Institute: https://sweden.se/life/people/the-swedish-monarchy

Swedish Royal Court. (2023). The monarchy of Sweden. Retrieved March 12, 2023, from Swedish Royal Court: https://www.kungahuset.se/english/the-monarchy-of-sweden

the United Nations Development Programme. (2022). Human Development Report 2021/2022. New York: the United Nations Development Programme. Retrieved from https://hdr.undp.org/system/files/documents/global-report-document/hdr2021-22pdf_1.pdf