12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากมีการรัฐประหารยึดอำนาจล้มรัฐบาลและประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว โดยคณะนายทหารที่นำโดย พลโทผิน ชุณหะวัณ นายทหารนอกราชการ ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรท่านนี้เป็นนักการเมืองพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งที่จังหวัดอุตรดิตถ์ชื่อ นายพึ่ง ศรีจันทร์
ก่อนหน้านั้นนายพึ่ง ศรีจันทร์ เคยเป็นรัฐมนตรีลอยมาก่อนในรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทวี บุณยเกตุ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดเพียง 17 วัน
เมื่อประธานสภาผู้เป็นประมุขของอำนาจนิติบัญญัติจะประชุม ทางคณะรัฐประหารผู้ยึดอำนาจรัฐก็คงตื่นเต้นด้วยเหมือนกัน พลโทหลวงกาจสงคราม หนึ่งในผู้นำคณะรัฐประหาร จึงส่งนายทหารมาเชิญตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรที่กล้าหาญ เลขาธิการสภาและเจ้าหน้าที่ไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อสอบถามถึงเหตุที่จัดประชุม นายประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ซึ่งถูกเชิญตัวไปด้วย เขียนเล่าไว้อีกว่า
“นายพึ่ง ศรีจันทร์ ประธานสภาชี้แจงว่า ในฐานะประธานสภาได้มีคำสั่งให้เลขาธิการสภาออกหนังสือนัดประชุมสมาชิกสภาไปแล้วตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน (ก่อนวันรัฐประหาร) ประธานจึงได้มาแจ้งให้ สมาชิกสภาที่มาประชุมตามหนังสือที่นัดให้ทราบ
ส่วนเลขาธิการสภาและข้าพเจ้าให้การว่า มิได้เข้าประชุมด้วย แม้เจ้าหน้าที่สภาก็ไม่ได้ให้ไปเข้าประชุม ที่มีสมาชิกสภามา ณ สภานั้นเข้าใจว่าจะมาสนทนาปราศรัยกันตามปกติ คณะรัฐประหารได้กักตัวไว้ระยะหนึ่งแล้วก็ปล่อยตัวกลับ”
แต่ตัวนายพึ่ง ศรีจันทร์ ตามเอกสารอื่นบอกว่า ถูกคุมตัวอยู่ถึง 3 วัน ดีว่าได้นักการเมืองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งที่พอพูดจากับคนในคณะรัฐประหารได้เขาจึงปล่อยตัวออกมา
ที่น่าสังเกตก็คือ วันนัดประชุมนั้นเป็นวันก่อนการรัฐประหาร แต่วันกำหนดประชุมและผู้คนอย่างน้อย 20 คน ก็ประชุมคือวันที่ 12 พฤศจิกายน 4 วันหลังการยึดอำนาจและเป็นวันที่หลังจากมีการแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว
นายกรัฐมนตรีคนใหม่คือนายควง อภัยวงศ์ ได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 10 พฤศจิกายน ส่วนคณะรัฐมนตรีทั้งหมดได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 11 พฤศจิกายน จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายพึ่ง ศรีจันทร์ และสมาชิกสภาที่ไปสภาจะไม่ทราบ
อาจแสดงว่ารัฐประหารเสร็จใหม่ ฐานะของคณะรัฐประหารเองก็คงจะไม่มั่นคงนัก และรัฐที่ถูกประหารนั้นก็ยังมีคนที่เขาคัดค้านยืนอยู่ด้วย