13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 เป็นวันที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย ทั้งนี้ เพราะเมื่อ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีได้ยุบสภาในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 และมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 นั้น ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคชาติไทยที่มีนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าได้จำนวนสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎรมากเป็นอันดับหนึ่งจำนวน 92 คน จึงทำให้พรรคชาติไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
พรรคชาติไทยของ นายบรรหาร ศิลปอาชา มีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรมากเป็นอันดับหนึ่งก็จริง แต่จำนวนก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นพรรคชาติไทยจึงต้องหาพรรคการเมืองอื่นมาร่วมเป็นรัฐบาล และก็ได้รัฐบาลผสมที่ประกอบด้วยพรรคการเมือง 7 พรรค ได้แก่ พรรคชาติไทยเอง และพรรคอื่นอีก 6 พรรค คือ พรรคความหวังใหม่ พรรคพลังธรรม พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทย พรรคนำไทย และพรรคมวลชน โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญ
นายบรรหาร ศิลปอาชา นั้นได้เริ่มชีวิตทางการเมืองโดยเล่นการเมืองท้องถิ่นก่อน และหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เมื่อมีสมัชชาแห่งชาติก็ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาอยู่ในสมัชชาแห่งชาติ จึงเป็นเหตุนำมาสู่วงการเมืองในระดับชาติ ท่านได้เป็นสมาชิกพรรคชาติไทยมาเป็นเวลานานอยู่พรรคเดียว แต่กระนั้น ก็มิได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคชาติไทย ในการลงสนามเลือกตั้งใน พ.ศ. 2538 นี้ นอกจากนโยบายด้านอื่น ๆ ที่ทางพรรคชาติไทยได้แถลงออกไปเพื่อหาเสียงแล้ว นโยบายหนึ่งที่โดดเด่นก็คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา บอกว่าท่านจะปฏิรูปการเมือง เพราะขณะนั้นประชาชนทั่วไปยังมีความไม่พอใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2534 แม้ว่าจะได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมให้ถูกใจประชาชนไปแล้วในประเด็นที่สำคัญหลายประเด็นก็ตาม
ดังนั้น เมื่อ นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี การปฏิรูปทางการเมืองที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา สนับสนุนให้ดำเนินการได้ก็คือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2534 จนทำให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาประกอบด้วยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 99 คน ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แล้วเสร็จออกมาประกาศใช้ใน พ.ศ. 2540 เป็นรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ที่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีมากฉบับหนึ่ง แต่วันที่ประกาศใช้นั้นก็มิได้เกิดขึ้นในสมัยของรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา เพราะนายกรัฐมนตรี บรรหาร ศิลปอาชา ต้องเผชิญปัญหาทางการเมืองหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา และท่านได้เสนอให้ยุบสภาในวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2539 และให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใหม่ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ปรากฏว่าในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ พรรคการเมืองที่ชนะได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากที่สุดคือพรรคความหวังใหม่ จึงได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา จึงพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 แต่ยังเล่นการเมืองตลอดมาโดยเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย และลงสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่จนกระทั้งถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองในฐานะกรรมการบริหารพรรค กระนั้น ก็ยังคงมีบทบาททางการเมืองอย่างไม่เป็นทางการต่อมา