กิจธรรมนโยบาย

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:00, 5 ตุลาคม 2554 โดย Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง รองศาสตราจารย์ ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


พรรคกิจธรรมนโยบาย

“พรรคกิจธรรมนโยบาย” เป็นหนึ่งในกลุ่มทางการเมืองที่มีการรวมตัวก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลาระหว่างการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 จนถึงก่อนการประกาศใช้พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 กล่าวคือ ในช่วงเวลา 3 ปีกว่าระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองนั้น รัฐบาลได้กำหนดให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522 บรรดานักการเมืองและกลุ่มการเมืองต่าง ๆ จึงมีการเคลื่อนไหวจัดตั้งพรรคการเมืองเพื่อเตรียมตัวส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น โดยการจัดตั้งพรรคการเมืองในครั้งนี้เป็นไปในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ นั่นคือ ไม่มีการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองดังเช่นในการเลือกตั้งครั้งอื่น ๆ

สาเหตุที่ยังไม่มีการประกาศกฎหมายพรรคการเมืองในช่วงนั้น ก็เนื่องมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามบทบัญญัติของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พ.ศ. 2520 ได้ดำเนินงานมาจนครบตามกำหนดเวลาและต้องพ้นหน้าที่ไป ทำให้ร่างพระราชบัญญัติพรรคการเมืองที่รัฐบาลกำลังจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติต้องสิ้นสภาพไปด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 มาตรา 94 จะได้ระบุให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง แต่บทเฉพาะกาล มาตรา 204 ก็ได้ระบุข้อยกเว้นไว้ให้สามารถผ่อนผันการบังคับใช้ข้อกำหนดดังกล่าวสำหรับการเลือกตั้งไปในวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2522

เมื่อยังไม่มีกฎหมายซึ่งบัญญัติรับรองการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองออกมาบังคับใช้ บรรดา “พรรคการเมือง” ที่ก่อตั้งอย่างไม่เป็นทางการในช่วงนี้ จึงแสดงบทบาทเคลื่อนไหวดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในนามของ “กลุ่ม” ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์หาเสียง การส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้ง การแสดงบทบาทของผู้แทนในสภา ไปจนถึงการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ในช่วงก่อนจะมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 ปรากฏว่ามีกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 46 กลุ่ม

กลุ่มการเมืองที่เคลื่อนไหวแสดงบทบาททางการเมืองในช่วงนั้น ได้แก่ กลุ่มกิจสังคม กลุ่มประชาธิปัตย์ กลุ่มชาติไทย กลุ่มเสรีธรรม กลุ่มชาติประชาชน กลุ่มพลังใหม่ กลุ่มประชากรไทย กลุ่มสังคมประชาธิปไตย กลุ่มกิจประชาธิปไตย กลุ่มสนับสนุนนโยบายเกรียงศักดิ์ กลุ่มพัฒนาประชาไทย กลุ่มธรรมนูญ กลุ่มประชาธิปไตยแห่งชาติ กลุ่มรวมไทย กลุ่มเกษตรสังคม กลุ่มประชาธิปไตย กลุ่มธรรมสังคม กลุ่มปฏิรูป กลุ่มประชาธิปัตย์ (เดิม) กลุ่มสนับสนุนเกรียงศักดิ์ กลุ่ม ก.ส.ก. กลุ่มกิจธรรม กลุ่มชมรมการเมืองพัฒนาประชาไทย กลุ่มรัฐบุรุษ กลุ่มอิสระ ภ.ธ.ร. (ภัทรธรรมราษฎร์) กลุ่มทรงวุฒิ กลุ่มรักชาติ กลุ่มสนับสนุนถนอม ประภาส ณรงค์ กลุ่มประชาชนไทย กลุ่มไท กลุ่มกิจธรรมนโยบาย กลุ่มชมรมเมืองพัฒนา กลุ่มประชาไทย กลุ่มชมรมการเมืองพัฒนาประชาไทย กลุ่มประชากรเกษตรกร กลุ่มเศรษฐกิจสังคม กลุ่มมหาชน กลุ่มลูกพ่อขุน กลุ่มลูกพ่อขุนผาเมือง กลุ่มชาวนา กลุ่มประชาชน ประเทศชาติ ประชาธิปไตย กลุ่ม ป.ท.บ. กลุ่มยังเติร์ก กลุ่มสันติธรรม กลุ่มกรุงสยามปฏิรูป กลุ่มกิจสังคมประชาธิปไตย

สำหรับกลุ่มกิจธรรมนโยบายนั้น ได้ส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้งครั้งนี้เพียง 1 คน ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าผู้สมัครของกลุ่มกิจธรรมนโยบายไม่ได้รับเลือกตั้ง ส่วนกลุ่มการเมืองที่มีผู้สมัครได้รับเลือกตั้งนั้น มีเพียง 14 กลุ่ม คือ กลุ่มกิจสังคม 83 คน กลุ่มชาติไทย 38 คน กลุ่มประชาธิปัตย์ 32 คน กลุ่มเสรีธรรม 21 คน กลุ่มประชากรไทย 32 คน กลุ่มชาติประชาชน 13 คน กลุ่มพลังใหม่ 8 คน กลุ่มเกษตรสังคม 3 คน กลุ่มกิจประชาธิปไตย 3 คน กลุ่มรวมไทย 3 คน กลุ่มสยามปฏิรูป 1 คน กลุ่มธรรมสังคม 1 คน กลุ่มกิจธรรม 1 คน กลุ่มสนับสนุนนโยบายเกรียงศักดิ์ 1 คน นอกจากนั้นเป็นผู้สมัครอิสระอีก 63 คน

ที่มา

กนต์ธีร์ ศุภมงคล, “ข้อคิดบางประการเกี่ยวกับพรรคการเมือง,” รัฐสภาสาร ปีที่ 20 ฉบับที่ 10 (ตุลาคม 2524), หน้า 61-85.

จเร พันธุ์เปรื่อง, “พรรคการเมืองของไทย,” รัฐสภาสาร ปีที่ 31 ฉบับที่ 2 (กุมภาพันธ์ 2526), หน้า 28-55.

จเร พันธุ์เปรื่อง, “พรรคการเมืองกับการเลือกตั้งทั่วไป 2526,” รัฐสภาสาร ปีที่ 31 ฉบับที่ 4 (เมษายน 2526), หน้า 10-26.

เสนีย์ คำสุข, “ข้อมูลพื้นฐานพรรคการเมือง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475-2544,” รัฐสภาสาร ปีที่ 49 ฉบับที่ 11 (พฤศจิกายน 2544), หน้า 17-70.

สงวน คำวงษ์ศา, “พรรคการเมืองของไทย,” รัฐสภาสาร ปีที่ 26 ฉบับที่ 6 (มิถุนายน 2521), หน้า 1-16.