หลักสยาม (พ.ศ. 2537)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:36, 27 กรกฎาคม 2553 โดย Teeraphan (คุย | ส่วนร่วม)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต



พรรคหลักสยาม

พรรคหลักสยาม เรียกชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “SIAM PRINCIPLE PARTY” ขึ้นทะเบียนเป็นพรรคการเมืองเลขที่ 41/2537 ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2537 [1]

ที่ตั้งสำนักงานใหญ่พรรคหลักสยาม ตั้งอยู่ที่ 779/30 ซอยสุวรรณมณี ถนน ประชาอุทิศ-เทพลีลา แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร [2]


นโยบายพรรคหลักสยาม[3]

พรรคหลักสยาม ยึดหลักประชาธิปไตยในการกำหนดนโยบายของพรรคโดยความคิดเห็นส่วนรวมของสมาชิก และจะทบทวนให้สอดคล้องกับสภาวะการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอยู่ตลอดเวลา

ภายใต้ภาวะปัจจุบัน พรรคหลักสยามมีนโยบายในการดำเนินการบริหารประเทศโดยแบ่งออกเป็น 4 ด้านดังต่อไปนี้

1. ด้านการเมืองและการปกครอง ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐเดี่ยว โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง การปกครองและการรักษาความมั่นคง ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ โดยจะปรับปรุงกฎหมายและระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินให้ทันสมัยและมีแนวทางเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

2. ด้านเศรษฐกิจ สนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบทุนเสรีที่มีคุณธรรม มุ่งพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะคำนึงถึงความสมดุลกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ทรัพยากรบุคคล และรักษาสภาพความสมดุลของสิ่งแวดล้อม มุ่งกระจายความมั่งคั่งไปสู่ชนบท และปรับปรุงการจัดเก็บภาษีให้เป็นธรรม

3. ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต สร้างค่านิยมให้ประชาชนมีคุณธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม รู้รักสามัคคี มีวินัย มุ่งจัดให้มีสวัสดิการและปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีพให้กับประชาชนโดยเสมอภาคและทั่วถึง ส่งเสริมให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน และพัฒนาสาธารณูปการด้านสังคมบริการให้ทันสมัยปลอดภัยและเป็นธรรม

4. ด้านเทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม มุ่งพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศรวมทั้งการใช้แหล่งพลังงานต่างๆให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ

ส่งเสริมภาครัฐและเอกชนให้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อกำหนดและพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจของไทย เพื่อเพิ่มผลผลิต ตลอดจนเพิ่มการใช้ทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พรรคหลักสยามไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งจนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งที่ 5041/2539 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2539 ให้ยุบพรรคหลักสยามเนื่องจากไม่ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 ตามนัยมาตรา 46 (3) แห่งพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนด แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ. 2524 พ.ศ. 2538 มาตรา 3[4]

มีรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคหลักสยามตอนตั้งพรรคมีทั้งสิ้น 14 คน โดยมีตำแหน่งสำคัญดังนี้ [5]

1. นายพีระพงศ์ ถนอมพงษ์พันธ์ หัวหน้าพรรค [[ 2. นายสุทธิ เศรษฐโสภณสุข รองหัวหน้าพรรค

3. นายวิสุทธิ์ กนกศีชริน เลขาธิการพรรค

4. นายกุลชีพ วรพงษ์ รองเลขาธิการพรรค

และกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 คน โดยนายพีระพงศ์ ถนอมพงษ์พันธ์ เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (พลังธรรม)ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2538 นายพีระพงศ์ ถนอมพงษ์พันธ์ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยให้นายสุทธิ เศรษฐโสภณสุข ปฏิบัติหน้าที่แทน[6] โดยนายพีระพงศ์กล่าวว่าเพื่อจะนำพรรคไปรวมกับพรรคพลังธรรมเนื่องจากอุดมการณ์ตรงกัน [7]

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 15.
  2. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 15.
  3. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 16-18
  4. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 114 ตอนที่ 54 ง, วันที่ 8 กรกฎาคม 2540, หน้า 15
  5. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 3 ง, วันที่ 10 มกราคม 2538, หน้า 15.
  6. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนพิเศษ 19 ง, วันที่ 7 มิถุนายน 2538, หน้า 35.
  7. สยามจดหมายเหตุ พ.ศ. 2538, หน้า 360.