การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:00, 8 กันยายน 2566 โดย Trikao (คุย | ส่วนร่วม) (สร้างหน้าด้วย " '''ผู้เรียบเรียง''' ''':''' ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุทธิกานต์ ม...")
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ผู้เรียบเรียง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุทธิกานต์ มีจั่น

ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : ดร.สติธร ธนานิธิโชติ

 

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565

          กรุงเทพมหานครถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ และเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร_พ.ศ._2528 ที่กำหนดให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมีหน้าที่กำกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัด กทม. ให้เป็นไปตามนโยบายที่ตัวเองเสนอไว้ในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นอำนาจที่เจาะจงและเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของชีวิตคนกรุงเทพฯ โดยตรง เช่น บริหารจัดการสาธารณูปโภค ควบคุมอาคารสิ่งปลูกสร้าง กำหนดผังเมือง บริการทางสาธารณสุขและการศึกษา เป็นต้น ต่างจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีหน้าที่นำนโยบายรัฐจากส่วนกลางไปปฏิบัติเท่านั้น[1] 

          การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 เป็นการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 11 จัดขึ้นเมื่อ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 และถือเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งแรกในรอบ 9 ปี หลังจากการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 โดยการเลือกตั้งครั้งล่าสุด คือ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 โดยหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วยคะแนนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1,256,349 เสียง ต่อมาเมื่อมีการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2557 การบริหารกรุงเทพมหานครยังคงดำเนินงานภายใต้ผู้บริหารชุดเดิม จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2559 ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 64/2559 โดยอาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่งและให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร[2] ซึ่งถือเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจากการแต่งตั้งครั้งแรกในรอบ 31 ปี[3]

          อย่างไรก็ดี เมื่อมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครใน วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 และภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองผลการเลือกตั้งใน วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 1,386,215 หรือ ร้อยละ 51.84 จากผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 31 คน ถือเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 และยังเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงที่มากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์และทำลายสถิติผลการเลือกตั้งที่ หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ได้รับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจากพรรคประชาธิปัตย์ในปี พ.ศ. 2556 1,256,349 และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ชนะการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2543 ด้วยคะแนนเสียง 1,016,096 คะแนน[4]

 

ผู้สมัครและนโยบายการหาเสียง

          ตามพระราชบัญญัติระเบียบราชการกรุงเทพมหานคร 2528 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 6 พ.ศ.2562) มาตรา 46 และ มาตรา 49 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ได้กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีรายละเอียดดังนี้[5]

          (1) มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด

          (2) อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง

          (3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

          (4) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นด้วย

          (5) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง

          (6) ค่าธรรมเนียมการสมัครตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. จำนวน 50,000 บาท

          (7) ค่าใช้จ่ายในการหาเสียง เขตเลือกตั้งละไม่เกิน 49 ล้านบาท

 

          ภายหลังการสิ้นสุดการรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครใน วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2565 มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 31 คน แบ่งเป็น ผู้สมัครเพศชาย 25 คน และผู้สมัครเพศหญิง 6 คน โดยผู้สมัครที่อายุมากที่สุด 75 ปี และอายุน้อยที่สุด 43 ปี ทั้งนี้ ผู้สมัครที่ได้รับการจับตาจากสื่อมวลชนมากที่สุด มี 7 คน เป็นทั้งผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมืองและผู้สมัครอิสระ โดยผู้สมัครที่สังกัดพรคคการเมืองประกอบไปด้วย หมายเลข 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและโฆษกพรรคก้าวไกล ผู้สมัครหมายเลข 4 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จากพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัครหมายเลข 11 น.ต.ศิธา ทิวารี จากพรรคไทยสร้างไทย อดีตเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย สังกัดพรรคไทยรักไทย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

          ในขณะที่ผู้สมัครอิสระที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก ได้แก่ ผู้สมัครหมายเลข 3 นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตแกนนำชุดเคลื่อนที่เร็วของ กลุ่ม กปปส. หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อมาคือผู้สมัครหมายเลข 6 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ผู้สมัครหมายเลข 7 นางสาวรสนา โตสิตระกูล แกนนำเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนเพื่อผู้บริโภค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สมัครหมายเลข 8 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ได้รับฉายา “รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในระหว่างปี พ.ศ. 2555-2557 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์_ชินวัตร[6] รวมทั้งยังเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562

 

ภาพ : ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร[7]

Bangkok Governor Election (1).png
Bangkok Governor Election (1).png

 

          ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 กำหนดให้ผู้สมัครที่ประสงค์จัดทำประกาศหรือแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถจัดทำได้ 2 ดังนี้

          (1) ประกาศเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขนาดความกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร จำนวนไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้ง

          (2) ป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ขนาดความกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร และยาวไม่เกิน 245 เซนติเมตร จำนวนไม่เกิน 5 เท่า ของหน่วยเลือกตั้ง โดยขอความร่วมมือผู้สมัครรับเลือกตั้งในเรื่องการปิดประกาศและการติดแผ่นป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นได้ประกาศกำหนด โดยต้องคำนึงถึงความเหมาะสม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด ความปลอดภัย ความมั่นคงแข็งแรง มีทัศนียภาพและทัศนวิสัยที่ดี ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือยานพาหนะ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินต่อทางราชการหรือประชาชน และจะต้องไม่เป็นการกีดขวางทางสัญจร การจราจร พร้อมทั้งได้แนบประกาศฉบับดังกล่าว หลักเกณฑ์และวิธีปิดประกาศและแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งของการไฟฟ้านครหลวงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งในวันรับสมัครเลือกตั้ง เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

          นอกจากนี้ ผู้สมัครสามารถดำเนินการหาเสียงเลือกตั้ง โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ยูทูป แอปพลิเคชั่น อีเมล์ SMS หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทอื่น ๆ ได้จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง หรือเวลา 18.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[8]

          อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นอกจากเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครมากที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ทำให้มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนครั้งแรก หรือ “First time voter” ประมาณ ร้อยละ 16 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดมาเป็นฐานคะแนนเสียงสำคัญด้วย นอกจากนี้แล้วยังถือได้ว่าเป็นการแข่งขันในการนำเสนอนโยบายและสโลแกนในการหาเสียงของผู้สมัครที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ตัวอย่างเช่น 

          ผู้สมัครหมายเลข 1 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ในนามพรรคก้าวไกล ใช้สโลแกน “เมืองที่คนเท่ากัน” โดยนโยบายสำคัญ 12 ด้าน เช่น บริหารโปร่งใสไร้คอร์รัปชั่น การปรับปรุงทางเท้าให้ดี การปรับพื้นที่รกร้างเป็นสวนสาธารณะและจัดสรรงบประมาณตามเสียงของประชาชน เป็นต้น

          ผู้สมัครหมายเลข 3 นายสกลธี ภัททิยกุล สมัครในนามอิสระ ใช้สโลแกน “กทม.ดีกว่านี้ได้” ซึ่งได้นำเสนอนโยบายสำคัญ 6 ด้าน ตัวอย่างเช่น การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้รถส่วนตัว การพัฒนางานด้านสาธารณสุขให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น และการพัฒนางานด้านการศึกษา ยกระดับคุณภาพให้มีความเท่าเทียมกัน เป็นต้น

          ผู้สมัครหมายเลข 4 นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ นำเสนอสโลแกน “เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” ด้วยนโยบายสำคัญ 5 ด้าน อาทิ แก้ปัญหาพื้นฐาน เช่น ฝนตก น้ำท่วม รถติด ตึกถล่ม การปรับปรุงการศึกษาให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งปรับปรุงงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพ เป็นต้น

          ผู้สมัครหมายเลข 8 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมัครในนามอิสระ ใช้สโลแกน “มาช่วยกันทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” โดยการนำเสนอนโยบาย 202 เรื่อง ใน 9 ด้าน อาทิ ทบทวน BRT เพื่อพิจารณาการดำเนินโครงการ, ท่าเรือเข้าสะดวก ออกสบาย เชื่อมต่อปลอดภัย, พิจารณาเดินเรือ เพิ่มตัวเลือกเชื่อมต่อการเดินทาง, รถไฟฟ้าสายสีเขียว ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด และเป็นธรรมกับเอกชน, หน่วยงาน กทม. เข้าใจและยอมรับความหลากหลายทางเพศ และเพิ่มรถเมล์สายหลักและรอง ราคาถูกราคาเดียว สร้างจุดเชื่อมต่อการเดินทาง (hub) เพื่อการเปลี่ยนถ่ายการเดินทางที่สะดวกสบาย และนำร่องพัฒนาคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย เป็นต้น[9]

 

ภาพ : สำรวจนโยบายผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร [10]

Bangkok Governor Election (2).jpg
Bangkok Governor Election (2).jpg

 

ผลเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565

          ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เรื่อง ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[11] ได้ประกาศผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครใน วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 โดยมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,402,948 คน มีผู้มาแสดงตนขอรับบัตรเลือกตั้ง 2,673,696 คน คิดเป็น ร้อยละ 60.73 แบ่งเป็นจำนวนบัตรดี 2,561,447 บัตร จำนวนบัตรเสีย 40,017 บัตร จำนวนบัตรเลือกตั้งที่ทำเครื่องหมายไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 72,227 บัตร คิดเป็น ร้อยละ 2.70

 

ตาราง : แสดงผลการนับคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเรียงลำดับตามหมายเลขผู้สมัคร

หมายเลขประจำตัว

ผู้สมัคร

ชื่อผู้สมัคร

สังกัด

คะแนนที่ได้รับ

1

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

พรรคก้าวไกล

230,534

2

พ.ท.หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล

ผู้สมัครอิสระ

19,859

3

นายสกลธี ภัททิยกุล

ผู้สมัครอิสระ

230,534

4

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

พรรคประชาธิปัตย์

254,723

5

นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนะ

ผู้สมัครอิสระ

20,750

6

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

ผู้สมัครอิสระ

214,805

7

นางสาวรสนา โตสิตระกูล

ผู้สมัครอิสระ

79,009

8

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ผู้สมัครอิสระ

1,386,769

9

นางสาววัชรี วรรณศรี

ผู้สมัครอิสระ

8,280

10

นายศุภชัย ตันติคมน์

ผู้สมัครอิสระ

2,189

11

น.ต.ศิธา ทิวารี

พรรคไทยสร้างไทย

73,926

12

นายประยูร ครองยศ

ผู้สมัครอิสระ

2,219

13

นายพิศาล กิตติเยาวมาลย์

ผู้สมัครอิสระ

868

14

นายธเนตร วงษา

ผู้สมัครอิสระ

1,094

15

พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที

ผู้สมัครอิสระ

574

16

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์

ผู้สมัครอิสระ

2,129

17

นายอุเทน ชาติภิญโญ

ผู้สมัครอิสระ

757

18

นางสาวสุมนา พันธุ์ไพโรจน์

ผู้สมัครอิสระ

909

19

นายไกรเดช บุนนาค

ผู้สมัครอิสระ

636

20

นางอมรพรรณ อุ่นสุวรรณ

ผู้สมัครอิสระ

558

21

นายนิพัทธ์พนธ์ สุวรรณชนะ

ผู้สมัครอิสระ

342

22

นายวรัญชัย โชคชนะ

ผู้สมัครอิสระ

1,128

23

นายเฉลิมพล อุตรัตน์

ผู้สมัครอิสระ

432

24

นายโฆสิต สุวินิจจิต

ผู้สมัครอิสระ

3,247

25

นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ

ผู้สมัครอิสระ

460

26

พล.ต.ท.มณฑล เงินวัฒนะ

ผู้สมัครอิสระ

360

27

นายภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์

ผู้สมัครอิสระ

391

28

นายสราวุธ เบญจกุล

ผู้สมัครอิสระ

0

29

นายกฤตชัย พยอมแย้ม

พรรคประชากรไทย

494

30

นายพงศา ชูแนม

พรรคกรีน

424

31

นายวิทยา จังกอบพัฒนา

ผู้สมัครอิสระ

813

 

          ทั้งนี้ ภายหลังการประกาศผลการนับคะแนนและชัยชนะของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในการได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มีการร้องเรียนจาก นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ไต่สวนนายชัชชาติ กรณีทำป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิล มีเจตนาแฝงเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถนำไปรีไซเคิล ทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อน เข้าข่ายกระทำการเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการ จัดทำให้เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้หรือไม่ รวมไปถึงการร้องเรียนเกี่ยวกับระบบราชการ โดยผู้ร้องอ้างว่าชัชชาติระบุเนื้อหาทำนองว่าระบบราชการอาจส่งผลต่ออุปสรรคในการปฏิบัติงาน เพราะมีขั้นตอนเยอะ โดยผู้ร้องอ้างว่าการระบุเช่นนี้เหมือนเป็นการดูถูกระบบราชการ[12] ซึ่งหลังจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เสนอผลการตรวจสอบเบื้องต้น จึงได้เห็นควรประกาศผลรับรองการเลือกตั้งให้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเมื่อ วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565[13]

          อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมาศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ได้เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง "ผลกระทบของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ต่อการเมืองระดับชาติ" จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวน 1,322 หน่วยตัวอย่าง ด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์พบว่า ร้อยละ 77.76 คาดการณ์ไว้แล้วว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะได้รับเลือกตั้งให้ ในขณะที่ ร้อยละ 38.88 คาดว่าจะส่งผลในทางลบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลในขณะนั้นที่นำโดย พลเอกประยุทธ จันทรโอชา เช่นเดียวกับนักวิชาการทางรัฐศาสตร์ อาทิ ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้ความเห็นว่าผลการเลือกตั้งกรุงเทพ คือ คำตัดสินอนาคตของรัฐบาลและคำกล่าวที่ยังเป็นจริงเสมอคือ "การเมืองกรุงเทพ คือ การเมืองของประเทศไทย" ฉะนั้น การแพ้ที่กรุงเทพจึงมีนัยในตัวเองถึงการแพ้ของรัฐบาล และถ้าชนะที่กรุงเทพก็เป็นสัญญาณถึงชัยชนะในการเมืองไทยด้วย[14]

 

อ้างอิง

[1] “22 พ.ค. 2565 ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”, สืบค้นจาก https://mgronline.com/politics/detail/ 9650000041823 (22 มีนาคม 2566).

[2] “ม.44 ปลด 'สุขุมพันธุ์' 'อัศวิน' เป็นผู้ว่ากทม.ให้มีผลทันที! ”, สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/news/politic/758211 (31 สิงหาคม 2566).

[3] “ย้อนความจำ 12 ปี กรุงเทพฯ ภายใต้ประชาธิปัตย์ กปปส. และ คสช.”, สืบค้นจาก https://www.ilaw.or.th/node/6138 (31 สิงหาคม 2566).

[4] เลือกตั้งผู้ว่า กทม. : ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทำสถิติใหม่ ชนะท่วมท้นเป็นผู้ว่าฯ คนที่ 17”, สืบค้นจาก https://www.bbc.com/thai/live/ thailand-61477389(22 มีนาคม 2566).

[5] “ตามมาส่อง นโยบายผู้สมัครผู้ว่า กทม. 2565 สู้ศึกเสาชิงช้า”, สืบค้นจาก https://promotions.co.th/breakingnews/bangkok-gubernatorial-election-their-policies.html(22 มีนาคม 2566).

[6] “เปิดเบอร์ ‘ผู้ว่าฯ กรุงเทพ’ ผู้สมัครมากเป็นประวัติการณ์ ถึง 31 คน”, สืบค้นจาก https://workpointtoday.com/bangkok2022-31number/(22 มีนาคม 2566).

[7] “เปิดเบอร์ ‘ผู้ว่าฯ กรุงเทพ’ ผู้สมัครมากเป็นประวัติการณ์ ถึง 31 คน”, สืบค้นจาก https://workpointtoday.com/bangkok2022-31number/(22 มีนาคม 2566).

[8] “เปิดเบอร์ ‘ผู้ว่าฯ กรุงเทพ’ ผู้สมัครมากเป็นประวัติการณ์ ถึง 31 คน”, สืบค้นจาก https://workpointtoday.com/bangkok2022-31number/(22 มีนาคม 2566).

[9] ส่องนโยบายผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม. 2565 ”, สืบค้นจาก https://www.thansettakij.com/general-news/519764(22 มีนาคม 2566).

[10] “สำรวจนโยบายผู้ลงสมัครผู้ว่าฯ 65 เรื่องไหนใครเคยเสนอไว้แล้วบ้าง”, สืบค้นจาก https://www.tcijthai.com/news/2022/4/ scoop/ 12290 (22 มีนาคม 2566).

[11] “กกต.กทม.ประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “ชัชชาติ” ทุบสถิติได้ 1,386,215 คะแนน”, สืบค้นจาก   https://mgronline. com/ politics/detail/9650000048783 (22 มีนาคม 2566).

[12] “กกต.รับรอง “ชัชชาติ” ผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก. พรุ่งนี้ พบถูกร้องเรียน 2 เรื่อง”, สืบค้นจาก https://www.prachachat.net/politics/ news- 942441(22 มีนาคม 2566).

[13] “กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง “ชัชชาติ”เป็นผู้ว่า กทม.”, สืบค้นจาก  https://thaipublica.org/2022/05/chatchart-sitthiphan-the-new-bangkok-governor-01/(22 มีนาคม 2566).

[14] “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ : ผู้ว่าฯ กทม. ผู้คว้าคะแนนเลือกตั้งสูงสุดในประวัติศาสตร์”, สืบค้นจาก https://www.bbc.com /thai/ 61545581#:~:text=ปรับปรุงแล้ว%2029%20พฤษภาคม%202022,ที่มีการเลือกตั้งมา(22 มีนาคม 2566).