เทียนแห่งธรรม (พ.ศ. 2551)

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

พรรคเทียนแห่งธรรม

พรรคเทียนแห่งธรรมจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2551 [1] โดยมีนายธนากร วีรกุลเดชทวี เป็นหัวหน้าพรรคและนางจันทิมา วีระกุลเดชทวี [2] ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งในการจัดตั้งพรรคเทียนแห่งธรรมนั้นได้มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตต่อการจัดตั้งพรรคดังกล่าวว่าเป็นพรรคที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มพันธมิตรหรือไม่ก็เป็นการจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตร แต่ถ้าดูจากรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคเทียนแห่งธรรม จำนวน 9 คน ที่ถูกระบุไว้ในราชกิจจานุเบกษาแล้วนั้นกลับไม่พบชื่อแกนนำของกลุ่มพันธมิตรทั้ง 5 คนแต่อย่างใด

สำหรับการดำเนินการทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคเทียนแห่งธรรมนั้นที่ผ่านมาพรรคยังไม่ได้เข้าร่วมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใดเนื่องจากพรรคถูกจัดตั้ง ขึ้นหลังจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 แล้วนั่นเอง รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ


1. ด้านการบริหารจัดการ

1.สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารนโยบายของพรรคโดยไม่มีข้อจำกัด

2.มุ่งส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

3.ปรับปรุงการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นให้เกิดความสอดคล้องกันในการบริหารงาน

4.นำระบบคุณธรรมมาใช้เป็นหลักในการบริหาร ส่งเสริมความซื่อสัตย์สุจริต

5.มุ่งเสริมสร้างสมรรถนะทางการทหาร ตำรวจเพื่อความมั่นคงทั้งภายในและภายนอกประเทศ


2. ด้านเศรษฐกิจ

1.สนับสนุนระบบสหกรณ์หมู่บ้าน

2.สนับสนุนข้อมูลวิชาการ เงินทุนเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในการประกอบอาชีพ

3.มุ่งเน้นการฟื้นฟูทรัพยากรทางธรรมชาติ เช่น ป่าไม้และแหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อให้พอเพียงต่อการใช้สอยในทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมรวมทั้งแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมควบคู่กันไป

4.พัฒนาระบบบริหารและบริการของรัฐวิสาหกิจ


3. ด้านสังคม

1.ช่วยเหลือบรรดาลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งในและต่างประเทศโดยจะตั้งศูนย์ประสานงานรับเรื่องราวพร้อมเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของคู่กรณี

2.จัดหาการบริการทางการแพทย์ให้เข้าถึงประชาชนในทุกท้องถิ่น

3.ส่งเสริมการออกกำลังกาย

4.มุ่งส่งเสริมสวัสดิภาพและรายได้ของข้าราชการและพนักงานของรัฐ พัฒนาความรู้ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อให้เยาวชนและบุคลากรของรัฐมีความรู้ทัดเทียมกับต่างประเทศ

5.ส่งเสริมการศึกษาโดยการจัดหาทุนเพื่อให้ประชาชนได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง

6.ทำนุบำรุงศาสนา วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของชาติ

7.ส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรทางด้านสถาบันตุลาการ


4. ด้านการต่างประเทศ

1.ส่งเสริมการผูกมิตรกับนานาประเทศเพื่อให้เกิดการพึ่งพาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง

2.ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามระหว่างกัน

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 70ง หน้า 104
  2. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 70ง หน้า 140