ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรคร้อยเอ็ด"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 2: บรรทัดที่ 2:


----
----
'''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รศ.ดร.ปธาน สุวรรณมงคล
----


'''โรคร้อยเอ็ด'''
'''โรคร้อยเอ็ด'''
บรรทัดที่ 14: บรรทัดที่ 19:


เจ้าเมืองก็ทิ้งเมือง ตำรวจก็ทิ้งโรงพัก เพราะกลัวเกรงบารมีนักการเมืองระดับอดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้ลอยนวลแจกเงินซื้อเสียงกันได้อย่างเย้ยฟ้าท้าดิน โรคนี้ได้ระบาด เป็นการซื้อสิทธิขายเสียงทั่วประเทศ จนกลายเป็น[[วัฒนธรรมการเมือง]]ของชาวบ้านคนไทยที่ต้องมีเงินมีทองหรือข้าวของติดไม้ติดมือเมื่อถึงฤดูเลือกตั้ง
เจ้าเมืองก็ทิ้งเมือง ตำรวจก็ทิ้งโรงพัก เพราะกลัวเกรงบารมีนักการเมืองระดับอดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้ลอยนวลแจกเงินซื้อเสียงกันได้อย่างเย้ยฟ้าท้าดิน โรคนี้ได้ระบาด เป็นการซื้อสิทธิขายเสียงทั่วประเทศ จนกลายเป็น[[วัฒนธรรมการเมือง]]ของชาวบ้านคนไทยที่ต้องมีเงินมีทองหรือข้าวของติดไม้ติดมือเมื่อถึงฤดูเลือกตั้ง
[[หมวดหมู่: สารานุกรมการเมืองไทย]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:56, 28 พฤษภาคม 2555

ผู้เรียบเรียง รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รศ.ดร.ปธาน สุวรรณมงคล



โรคร้อยเอ็ด

เป็นคำที่ใช้เรียกปรากฏการณ์การใช้เงินซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ในความเป็นจริงแล้ว การซื้อเสียงในการเลือกตั้งคงจะมีมานานแล้ว แต่ที่มีความรุนแรงมากเป็นพิเศษ จนมีการเรียกขานกันว่า “โรคร้อยเอ็ด” ในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดร้อยเอ็ด เขตหนึ่ง วันที่ 9 สิงหาคม 2524

เหตุที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดจาก นายสมพร จุรีมาศ ส.ส. จังหวัดร้อยเอ็ดถึงแก่กรรมในเดือนพฤษภาคม 2524 จึงต้องมีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้นภายใน 90 วัน การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคชาติประชิปไตย ประสงค์จะแจ้งเกิดในทางการเมือง เพื่อท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญมากที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องหาทางปกป้องฐานะของตนไม่ให้แย่งชิงไป ส่วนทางฝ่ายพลเอก เกรียงศักดิ์ ก็ถือเป็นเรื่องที่แพ้ไม่ได้ เพราะเป็นนักการเมืองใหญ่ จึงต้องทุ่มตัวต่อสู้อย่างเต็มที่

ส่วนทางฝ่ายรัฐบาลส่ง พ.ต.ท. บุญเลิศ เลิศปรีชา นักการเมืองที่มีความช่ำชองทางการเมืองตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคกิจสังคม ลงแข่งขันในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ อาจารย์เกษม ศิริสัมพันธ์ อดีตเลขาธิการพรรคกิจสังคม เล่าว่า ไปนั่งดูพลเอก เกรียงศักดิ์ หาเสียงในตลาด พลเอกเกรียงศักดิ์ เดินนำขบวน ตามด้วยดาราละครโทรทัศน์ แล้วตามหลังด้วยคนถือกระเป๋า กำเงินใบละร้อยเดินแจกไปเรื่อย ทางอาจารย์เกษม ให้คนคอยดักถ่ายรูปไว้ พอได้รูปก็พากันเดินขึ้นศาลากลางเพื่อร้องเรียนว่ามีการแจกเงินในการหาเสียง ปรากฏว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด และนายอำเภอต่างลาราชการกันหมด

ต่อมาตอนเย็นก่อนการเลือกตั้ง ฝ่ายพรรคชาติประชาธิปไตยตั้งโต๊ะที่ร้านกาแฟริมบึงพระรามแจกเงินอย่างเปิดเผย จึงบุกขึ้นไปบนโรงพักเพื่อแจ้งความว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ปรากฏว่าโรงพักร้าง คงคาดได้แล้วว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจเลยทิ้งโรงพักหนี

เจ้าเมืองก็ทิ้งเมือง ตำรวจก็ทิ้งโรงพัก เพราะกลัวเกรงบารมีนักการเมืองระดับอดีตนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้ลอยนวลแจกเงินซื้อเสียงกันได้อย่างเย้ยฟ้าท้าดิน โรคนี้ได้ระบาด เป็นการซื้อสิทธิขายเสียงทั่วประเทศ จนกลายเป็นวัฒนธรรมการเมืองของชาวบ้านคนไทยที่ต้องมีเงินมีทองหรือข้าวของติดไม้ติดมือเมื่อถึงฤดูเลือกตั้ง