ผลต่างระหว่างรุ่นของ "9 มีนาคม พ.ศ. 2515"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2515 เป็นวันที่ประชาชน 3 คน ได้กล้ายื่นฟ้องคณะปฏิวัติของ[[จอมพลถนอม กิตติขจร]] ซึ่งยังมีอำนาจปกครองอย่างเด็ดขาดในขณะนั้น ประชาชน 3 คนที่ว่านี้มี[[นายอุทัย พิมพ์ใจชน]] อดีต[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]จากจังหวัดชลบุรี สมาชิก[[พรรคประชาธิปัตย์]] [[นายอนันต์  ภักดิ์ประไพ]] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และ[[นายบุญเกิด หิรัญคำ]] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ อดีต[[ผู้แทนราษฎร]] 3 ท่านนี้ มาจาก 3 ภาคของประเทศ คุณอุทัย พิมพ์ใจชน นั้นมาจากภาคกลางหรือทางตะวันออกของประเทศ คุณอนันต์ ภักดิ์ประไพ นั้นมาจากภาคเหนือและคุณบุญเกิด หิรัญคำ นั้นมาจากภาคอิสาน ทั้ง 3 ท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนใน[[การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ พ.ศ. 2512]]
วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2515 เป็นวันที่ประชาชน 3 คน ได้กล้ายื่นฟ้องคณะปฏิวัติของ[[ถนอม กิตติขจร|จอมพลถนอม กิตติขจร]] ซึ่งยังมีอำนาจปกครองอย่างเด็ดขาดในขณะนั้น ประชาชน 3 คนที่ว่านี้มี[[อุทัย พิมพ์ใจชน|นายอุทัย พิมพ์ใจชน]] อดีต[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]จากจังหวัดชลบุรี สมาชิก[[พรรคประชาธิปัตย์]] [[นายอนันต์  ภักดิ์ประไพ]] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และ[[นายบุญเกิด หิรัญคำ]] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ อดีต[[ผู้แทนราษฎร]] 3 ท่านนี้ มาจาก 3 ภาคของประเทศ คุณอุทัย พิมพ์ใจชน นั้นมาจากภาคกลางหรือทางตะวันออกของประเทศ คุณอนันต์ ภักดิ์ประไพ นั้นมาจากภาคเหนือและคุณบุญเกิด หิรัญคำ นั้นมาจากภาคอิสาน ทั้ง 3 ท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนใน[[การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ พ.ศ. 2512]]


ในบันทึกเล่าของ นายประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ อดีต[[เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร]] มีความตอนหนึ่งว่า อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่านนี้
ในบันทึกเล่าของ นายประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ อดีต[[เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร]] มีความตอนหนึ่งว่า อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่านนี้
บรรทัดที่ 14: บรรทัดที่ 14:
ตอนที่อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่าน กล้าฟ้องศาลเล่นงานหัวหน้าและคณะผู้มีอำนาจนั้น มีการประกาศใช้[[ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2515]] แล้ว ดังนั้นคณะผู้มีอำนาจจึงได้สั่งจับบุคคลทั้ง 3 มาคุมขังและสอบสวนและก็ใช้อำนาจสั่งลงโทษผู้ที่ยื่นฟ้องทั้ง 3 คน ในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ให้ติดคุกเสียเลยโดย คุณอุทัย  พิมพ์ใจชน โดนลงโทษจำคุก 10 ปี ส่วนนายอนันต์ ภักดิ์ประไพกับนายบุญเกิด หิรัญคำ สองคนนี้โดนโทษจำคุกคนละ 7 ปี
ตอนที่อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่าน กล้าฟ้องศาลเล่นงานหัวหน้าและคณะผู้มีอำนาจนั้น มีการประกาศใช้[[ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2515]] แล้ว ดังนั้นคณะผู้มีอำนาจจึงได้สั่งจับบุคคลทั้ง 3 มาคุมขังและสอบสวนและก็ใช้อำนาจสั่งลงโทษผู้ที่ยื่นฟ้องทั้ง 3 คน ในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ให้ติดคุกเสียเลยโดย คุณอุทัย  พิมพ์ใจชน โดนลงโทษจำคุก 10 ปี ส่วนนายอนันต์ ภักดิ์ประไพกับนายบุญเกิด หิรัญคำ สองคนนี้โดนโทษจำคุกคนละ 7 ปี


น่าเห็นใจบุคคลทั้ง 3 ที่ฟ้องให้ลงโทษผู้มีอำนาจถูกผู้มีอำนาจลงโทษจำคุกที่แรงพอควรทีเดียว ดีแต่ว่ารัฐบาลจอมพลถนอม  กิตติขจร ถูกล้มได้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ครั้นมาถึงสมัยรัฐบาล [[นายสัญญา ธรรมศักดิ์]] ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2517 [[สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ]]หลายคนเห็นว่าคำสั่งจำคุกคุณอุทัย พิมพ์ใจชน คุณอนันต์  ภักดิ์ประไพ และนายบุญเกิด  หิรัญคำ นั้นเป็นการไม่ชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย จึงได้ร่วมใจกันเสนอร่างพระราชบัญญัติให้ยกเลิกคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติที่ลงโทษท่านทั้ง 3 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515  นั้น ทั้งนี้การพิจารณาร่างกฎหมายนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและออกมาเป็นกฎหมายได้ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2517 เป็นอันว่าบุคคลทั้ง 3 พ้นโทษ แต่ก็ถูกจำขังอยู่ตั้งแต่ต้นจนถึงวันปล่อยตัวเป็นเวลาประมาณถึง 22 เดือน
น่าเห็นใจบุคคลทั้ง 3 ที่ฟ้องให้ลงโทษผู้มีอำนาจถูกผู้มีอำนาจลงโทษจำคุกที่แรงพอควรทีเดียว ดีแต่ว่ารัฐบาลจอมพลถนอม  กิตติขจร ถูกล้มได้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ครั้นมาถึงสมัยรัฐบาล [[สัญญา ธรรมศักดิ์|นายสัญญา ธรรมศักดิ์]] ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2517 [[สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ]]หลายคนเห็นว่าคำสั่งจำคุกคุณอุทัย พิมพ์ใจชน คุณอนันต์  ภักดิ์ประไพ และนายบุญเกิด  หิรัญคำ นั้นเป็นการไม่ชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย จึงได้ร่วมใจกันเสนอร่างพระราชบัญญัติให้ยกเลิกคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติที่ลงโทษท่านทั้ง 3 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515  นั้น ทั้งนี้การพิจารณาร่างกฎหมายนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและออกมาเป็นกฎหมายได้ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2517 เป็นอันว่าบุคคลทั้ง 3 พ้นโทษ แต่ก็ถูกจำขังอยู่ตั้งแต่ต้นจนถึงวันปล่อยตัวเป็นเวลาประมาณถึง 22 เดือน




[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2501-2519]]
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2501-2519]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 12:59, 16 ตุลาคม 2557

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2515 เป็นวันที่ประชาชน 3 คน ได้กล้ายื่นฟ้องคณะปฏิวัติของจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งยังมีอำนาจปกครองอย่างเด็ดขาดในขณะนั้น ประชาชน 3 คนที่ว่านี้มีนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากจังหวัดชลบุรี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายอนันต์ ภักดิ์ประไพ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และนายบุญเกิด หิรัญคำ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่านนี้ มาจาก 3 ภาคของประเทศ คุณอุทัย พิมพ์ใจชน นั้นมาจากภาคกลางหรือทางตะวันออกของประเทศ คุณอนันต์ ภักดิ์ประไพ นั้นมาจากภาคเหนือและคุณบุญเกิด หิรัญคำ นั้นมาจากภาคอิสาน ทั้ง 3 ท่านเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ พ.ศ. 2512

ในบันทึกเล่าของ นายประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีความตอนหนึ่งว่า อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่านนี้

“...ได้ร่วมกันเป็นโจทย์ยื่นฟ้องคณะปฏิวัติ ซึ่งมีจอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติกับพวกอีกรวม 17 คน เป็นจำเลยต่อศาลอาญาหาว่าเป็นกบฏ อ้างในฟ้องว่า เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 จอมพลถนอม กิตติขจร กับพวกได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายและขู่เข็ญประชาชนชาวไทย เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญ ขอให้ศาลพิจารณาลงโทษตามกฎหมาย

ตอนที่อดีตผู้แทนราษฎร 3 ท่าน กล้าฟ้องศาลเล่นงานหัวหน้าและคณะผู้มีอำนาจนั้น มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองฯ พ.ศ. 2515 แล้ว ดังนั้นคณะผู้มีอำนาจจึงได้สั่งจับบุคคลทั้ง 3 มาคุมขังและสอบสวนและก็ใช้อำนาจสั่งลงโทษผู้ที่ยื่นฟ้องทั้ง 3 คน ในวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515 ให้ติดคุกเสียเลยโดย คุณอุทัย พิมพ์ใจชน โดนลงโทษจำคุก 10 ปี ส่วนนายอนันต์ ภักดิ์ประไพกับนายบุญเกิด หิรัญคำ สองคนนี้โดนโทษจำคุกคนละ 7 ปี

น่าเห็นใจบุคคลทั้ง 3 ที่ฟ้องให้ลงโทษผู้มีอำนาจถูกผู้มีอำนาจลงโทษจำคุกที่แรงพอควรทีเดียว ดีแต่ว่ารัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร ถูกล้มได้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ครั้นมาถึงสมัยรัฐบาล นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2517 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหลายคนเห็นว่าคำสั่งจำคุกคุณอุทัย พิมพ์ใจชน คุณอนันต์ ภักดิ์ประไพ และนายบุญเกิด หิรัญคำ นั้นเป็นการไม่ชอบด้วยระบอบประชาธิปไตย จึงได้ร่วมใจกันเสนอร่างพระราชบัญญัติให้ยกเลิกคำสั่งของหัวหน้าคณะปฏิวัติที่ลงโทษท่านทั้ง 3 เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2515 นั้น ทั้งนี้การพิจารณาร่างกฎหมายนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและออกมาเป็นกฎหมายได้ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2517 เป็นอันว่าบุคคลทั้ง 3 พ้นโทษ แต่ก็ถูกจำขังอยู่ตั้งแต่ต้นจนถึงวันปล่อยตัวเป็นเวลาประมาณถึง 22 เดือน