ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พิทักษ์ไทย"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
สร้างหน้าใหม่: '''พรรคพิทักษ์ไทย(2543)''' พรรคพิทักษ์ไทยจดทะเบียนพรรคการเมื...
 
Teeraphan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
'''พรรคพิทักษ์ไทย(2543)'''
'''พรรคพิทักษ์ไทย(2543)'''


พรรคพิทักษ์ไทยจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2543<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 22</ref>  โดยมีนายมาย แก้วจันทรานนท์ ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และนายสุภชัย มีใหม่ <ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 79</ref> ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค แต่หลังจากนั้นหนึ่งปีให้หลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคพิทักษ์ไทย<ref>คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ เลขที่ 11/2544 วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2544</ref> ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 65 วรรคสองเนื่องจากหัวหน้าพรรคพิทักษ์ไทยมิได้จัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีที่ผ่านมาให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
พรรคพิทักษ์ไทยจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2543<ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 22</ref>  โดยมีนายมาย แก้วจันทรานนท์ ดำรงตำแหน่งเป็น[[หัวหน้าพรรค]] และนายสุภชัย มีใหม่ <ref>ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 79</ref> ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค แต่หลังจากนั้นหนึ่งปีให้หลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคพิทักษ์ไทย<ref>คำพิพากษา[[ศาลรัฐธรรมนูญ]] เลขที่ 11/2544 วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2544</ref> [[ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541]] มาตรา 65 วรรคสองเนื่องจากหัวหน้าพรรคพิทักษ์ไทยมิได้จัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีที่ผ่านมาให้ถูกต้องตามความเป็นจริง


ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคพิทักษ์ไทยนั้นในช่วงก่อนการถูกตัดสินยุบพรรคนั้นไม่ปรากฏว่าพรรคได้มีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด
ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคพิทักษ์ไทยนั้นในช่วงก่อนการถูกตัดสิน[[ยุบพรรค]]นั้นไม่ปรากฏว่าพรรคได้มีการดำเนิน[[กิจกรรมทางการเมือง]]ในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด




บรรทัดที่ 12: บรรทัดที่ 11:
'''นโยบายด้านการเมืองการปกครอง'''
'''นโยบายด้านการเมืองการปกครอง'''


1. พัฒนาระบบการเมืองการปกครองให้มั่นคงตามระบอบประชาธิปไตยพร้อมทั้งเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
1. พัฒนาระบบการเมืองการปกครองให้มั่นคงตามระบอบ[[ประชาธิปไตย]]พร้อมทั้งเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และ[[พระมหากษัตริย์]]


2. ส่งเสริมบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม
2. ส่งเสริมบทบาทของ[[คณะกรรมการการเลือกตั้ง]]เพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม


3. สร้างความรู้ความเข้าใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนทุกคน  
3. สร้างความรู้ความเข้าใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนทุกคน  


4. เร่งรัดการกฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน
4. เร่งรัดการปฏิรูประบบ[[การบริหารราชการแผ่นดิน]]


5. สนับสนุนการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่น
5. สนับสนุนการ[[กระจายอำนาจ]]การปกครองสู่ท้องถิ่น




บรรทัดที่ 54: บรรทัดที่ 53:
'''นโยบายด้านเศรษฐกิจ'''
'''นโยบายด้านเศรษฐกิจ'''


1. ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น
1. ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีให้มี[[ความเป็นธรรม]]มากขึ้น


2. พัฒนาตลาดการเงินให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ  
2. พัฒนาตลาดการเงินให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ  
บรรทัดที่ 64: บรรทัดที่ 63:
5. ยึดมั่นในข้อตกลงที่รัฐบาลทำไว้กับต่างชาติในทุกกรณี  
5. ยึดมั่นในข้อตกลงที่รัฐบาลทำไว้กับต่างชาติในทุกกรณี  


6. เร่งรัดการปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรไทย
6. เร่งรัดการ[[ปฏิรูปที่ดิน]]ให้แก่เกษตรกรไทย


7. สนับสนุนด้านสหกรณ์การเกษตร  
7. สนับสนุนด้านสหกรณ์การเกษตร  
บรรทัดที่ 85: บรรทัดที่ 84:
1. ดำเนินนโยบายเป็นอิสระและเป็นมิตรกับทุกประเทศ
1. ดำเนินนโยบายเป็นอิสระและเป็นมิตรกับทุกประเทศ


2. ยึดมั่นในพันธกรณีตามสนธิสัญญาที่ทำไว้กับต่างประเทศและองค์กรนานาชาติ
2. ยึดมั่นในพันธกรณีตาม[[สนธิสัญญา]]ที่ทำไว้กับต่างประเทศและองค์กรนานาชาติ


3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศที่คู่ค้าที่เป็นธรรม  
3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศที่คู่ค้าที่เป็นธรรม  

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:34, 10 กรกฎาคม 2553

พรรคพิทักษ์ไทย(2543)

พรรคพิทักษ์ไทยจดทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2543[1] โดยมีนายมาย แก้วจันทรานนท์ ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค และนายสุภชัย มีใหม่ [2] ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค แต่หลังจากนั้นหนึ่งปีให้หลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้ยุบพรรคพิทักษ์ไทย[3] ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 65 วรรคสองเนื่องจากหัวหน้าพรรคพิทักษ์ไทยมิได้จัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีที่ผ่านมาให้ถูกต้องตามความเป็นจริง

ในส่วนของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคพิทักษ์ไทยนั้นในช่วงก่อนการถูกตัดสินยุบพรรคนั้นไม่ปรากฏว่าพรรคได้มีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าวแต่อย่างใด


แนวนโยบายที่สำคัญของพรรค[4]


นโยบายด้านการเมืองการปกครอง

1. พัฒนาระบบการเมืองการปกครองให้มั่นคงตามระบอบประชาธิปไตยพร้อมทั้งเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

2. ส่งเสริมบทบาทของคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม

3. สร้างความรู้ความเข้าใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนทุกคน

4. เร่งรัดการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน

5. สนับสนุนการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่น


นโยบายด้านสังคม

1. ให้การศึกษาฟรีจนถึงระดับอุดมศึกษา

2. จัดการศึกษานอกระบบโดยเน้นการอาชีพเป็นหลัก

3. พัฒนาระบบการศึกษาให้มีคุณภาพ

4. เร่งการกระจายคุณภาพการศึกษาไปสู่ชนบท

5. ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาเอกชนมีอิสระในการบริหารและการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ

6. สนับสนุนการพัฒนาวิชาชีพครู

7. พัฒนาการศึกษาของคณะสงฆ์ไทย

8. ส่งเสริมการเรียนการสอนด้านกีฬา

9. จัดงบประมาณฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานด้านฝีมือแรงงาน

10. จัดงบประมาณป้องกันและดูแลด้านสุขภาพอนามัยของประชาชน

11. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลจัดบริการด้านการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน

12. ให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน

13. ให้การดูแลและพัฒนาผู้ด้อยโอกาสในสังคม


นโยบายด้านเศรษฐกิจ

1. ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีให้มีความเป็นธรรมมากขึ้น

2. พัฒนาตลาดการเงินให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

3. เสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยการแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินและการเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ

4. เสริมสภาพคล่องให้กับอุตสาหกรรมการส่งออก

5. ยึดมั่นในข้อตกลงที่รัฐบาลทำไว้กับต่างชาติในทุกกรณี

6. เร่งรัดการปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรไทย

7. สนับสนุนด้านสหกรณ์การเกษตร

8. ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตแบบครบวงจร

9. เพิ่มศักยภาพให้กับพื้นที่เขตเศรษฐกิจให้เป็นแหล่งรองรับอุตสาหกรรมที่สำคัญ

10. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง

11. เร่งรัดและพัฒนาแหล่งพลังงานภายในประเทศให้นำมาใช้ประโยชน์มากขึ้น

12. เร่งพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

13. เร่งจัดระบบสาธารณูปโภคให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน


นโยบายด้านการต่างประเทศ

1. ดำเนินนโยบายเป็นอิสระและเป็นมิตรกับทุกประเทศ

2. ยึดมั่นในพันธกรณีตามสนธิสัญญาที่ทำไว้กับต่างประเทศและองค์กรนานาชาติ

3. ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศที่คู่ค้าที่เป็นธรรม


นโยบายด้านความมั่นคง

1. สนับสนุนการพัฒนากองทัพให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการป้องกันประเทศ

2. สนับสนุนให้กองทัพมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย

3. สนับสนุนสวัสดิการการบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับทหาร

4. สนับสนุนให้กองทัพมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 22
  2. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 79
  3. คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ เลขที่ 11/2544 วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2544
  4. สรุปจากราชกิจจานุเบกษา เล่ม 117 ตอนพิเศษ 88ง หน้า 22-32