ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะกรรมการการเลือกตั้ง"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 7 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 2 คน) | |||
บรรทัดที่ 1: | บรรทัดที่ 1: | ||
'''ผู้เรียบเรียง''' นารีลักษณ์ | '''ผู้เรียบเรียง''' นารีลักษณ์ ศิริวรรณ | ||
---- | |||
'''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง | '''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง | ||
บรรทัดที่ 5: | บรรทัดที่ 7: | ||
---- | ---- | ||
แต่เดิมการจัด[[การเลือกตั้ง]]เป็นหน้าที่ของกองการเลือกตั้ง กรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย ต่อมาในการเลือกตั้งครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 รัฐบาลของนาย[[อานันท์ ปันยารชุน]] ซึ่งรับผิดชอบดำเนินการเลือกตั้ง ได้ตระหนักถึงปัญหา[[การซื้อขายเสียง]]ที่มีอยู่ทั่วไป จึงแต่งตั้ง “คณะกรรมการติดตามและสอดส่องดูแลการเลือกตั้งสมาชิก[[สภาผู้แทนราษฎร]]” หรือที่รู้จักกันในชื่อ [[องค์กรกลาง]] เป็นหน่วยงานอิสระไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ กับการเลือกตั้ง ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง และตรวจสอบการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม | |||
ต่อมา[[รัฐธรรมนูญ]]แห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2538 มาตรา 115 ได้บัญญัติหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อกำกับดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้บริสุทธิ์ยุติธรรม คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ พิธีการแต่งตั้ง และการให้กรรมการการเลือกตั้งจากตำแหน่งให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ | ต่อมา[[รัฐธรรมนูญ]]แห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2538 มาตรา 115 ได้บัญญัติหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อกำกับดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้บริสุทธิ์ยุติธรรม คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ พิธีการแต่งตั้ง และการให้กรรมการการเลือกตั้งจากตำแหน่งให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ | ||
ต่อมารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้บัญญัติให้จัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งขึ้นเป็น[[องค์กรอิสระ]] และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้ง[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]] [[สมาชิกวุฒิสภา]] [[สมาชิกสภาท้องถิ่น]] และ[[ผู้บริหารท้องถิ่น]] รวมทั้งการออกเสียง[[ประชามติ]]ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม <ref>คณิน | ต่อมารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้บัญญัติให้จัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งขึ้นเป็น[[องค์กรอิสระ]] และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้ง[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]] [[สมาชิกวุฒิสภา]] [[สมาชิกสภาท้องถิ่น]] และ[[ผู้บริหารท้องถิ่น]] รวมทั้งการออกเสียง[[ประชามติ]]ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม <ref>คณิน บุญสุวรรณ, '''ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทยฉบับสมบูรณ์,''' กรุงเทพฯ : บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น, 2548, หน้า 15-16.</ref> | ||
==คณะกรรมการการเลือกตั้ง== | ==คณะกรรมการการเลือกตั้ง== | ||
คณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 136 ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นอีกสี่คน รวมเป็นห้าคน | คณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 136 ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นอีกสี่คน รวมเป็นห้าคน ซึ่ง[[พระมหากษัตริย์]]ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของ[[วุฒิสภา]] โดยคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอชื่อรวมสิบคนให้วุฒิสภาลงมติเลือกเหลือห้าคน และทั้งห้าคนทำการประชุมเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็น[[ประธานกรรมการการเลือกตั้ง]] แล้ว[[ประธานวุฒิสภา]]ก็นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งและเป็น[[ผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ]]ด้วย<ref>คณิน บุญสุวรรณ, '''ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทยฉบับสมบูรณ์,''' กรุงเทพฯ : บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น, 2548, หน้า 15.</ref> | ||
==ขั้นตอนการได้มาซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง== | ==ขั้นตอนการได้มาซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง== | ||
ให้ดำเนินการดังนี้<ref>โคทม | ให้ดำเนินการดังนี้<ref>โคทม อารียา, '''สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540).''' คณะกรรมการการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าคุรุสภา, 2544, หน้า 9-25.</ref> | ||
(1) | (1) ให้มี[[คณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง]] จำนวน 10 คน ซึ่งประกอบด้วยประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธาน[[ศาลปกครอง]]สูงสุด อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลทุกแห่งซึ่งเลือกกันเองให้เหลือ 4 คน ผู้แทนพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรพรรคละ 1 คน ซึ่งเลือกกันเองให้เหลือ 4 คน ทำหน้าที่พิจารณาสรรหาผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 137 ซึ่งสมควรเป็นกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 5 คน เสนอต่อ[[ประธานวุฒิสภา]] โดยต้องเสนอพร้อมความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น มติในการเสนอชื่อดังกล่าวต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการสรรหาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ | ||
(2) | (2) ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาสรรหาผู้สัมครเป็นกรรมการการเลือกตั้งจำนวน 5 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภา โดยต้องเสนอพร้อมความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น | ||
(3) การเสนอชื่อตาม (1) และ (2) ให้กระทำภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีเหตุที่ทำให้ต้องมีการเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาตาม (1) ไม่อาจเสนอชื่อได้ภายในเวลาที่กำหนด หรือไม่อาจเสนอชื่อได้ครบจำนวนภายในเวลาที่กำหนด ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาเสนอชื่อแทนจนครบจำนวนภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ครบกำหนดต้องเสนอชื่อตาม (1) | (3) การเสนอชื่อตาม (1) และ (2) ให้กระทำภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีเหตุที่ทำให้ต้องมีการเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาตาม (1) ไม่อาจเสนอชื่อได้ภายในเวลาที่กำหนด หรือไม่อาจเสนอชื่อได้ครบจำนวนภายในเวลาที่กำหนด ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาเสนอชื่อแทนจนครบจำนวนภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ครบกำหนดต้องเสนอชื่อตาม (1) | ||
(4) ให้ประธานวุฒิสภาเรียกประชุมวุฒิสภา เพื่อมีมติเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อตาม (1) (2) และ (3) ซึ่งต้องกระทำโดยวิธีลงคะแนนลับ ในการนี้ ให้ห้าคนแรกซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้ง แต่ถ้าจำนวนผู้ได้รับเลือกดังกล่าวมีไม่ครบ 5 คน ให้นำรายชื่อผู้ไม่ได้รับเลือกในคราวแรกนั้นมาให้สมาชิกวุฒิสภา[[ออกเสียงลงคะแนน]]เลือกอีกครั้งหนึ่งต่อเนื่องกันไป และในกรณีนี้ให้ถือว่าผู้ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเรียงลงไปตามลำดับจนครบห้าคน เป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ในครั้งนี้ถ้ามีผู้ได้คะแนนเสียงเท่ากันในลำดับใด อันเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับเลือกเกินห้าคน | (4) ให้ประธานวุฒิสภาเรียกประชุมวุฒิสภา เพื่อมีมติเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อตาม (1) (2) และ (3) ซึ่งต้องกระทำโดยวิธีลงคะแนนลับ ในการนี้ ให้ห้าคนแรกซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้ง แต่ถ้าจำนวนผู้ได้รับเลือกดังกล่าวมีไม่ครบ 5 คน ให้นำรายชื่อผู้ไม่ได้รับเลือกในคราวแรกนั้นมาให้สมาชิกวุฒิสภา[[ออกเสียงลงคะแนน]]เลือกอีกครั้งหนึ่งต่อเนื่องกันไป และในกรณีนี้ให้ถือว่าผู้ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเรียงลงไปตามลำดับจนครบห้าคน เป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ในครั้งนี้ถ้ามีผู้ได้คะแนนเสียงเท่ากันในลำดับใด อันเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับเลือกเกินห้าคน ให้ประธานวุฒิสภา[[จับสลาก]]ว่าผู้ใดเป็นผู้ได้รับเลือก | ||
(5) | (5) ให้ผู้ได้รับเลือกตาม (4) ประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง และแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ และให้ประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งต่อไป | ||
==คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ[[กรรมการการเลือกตั้ง]]== | ==คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ[[กรรมการการเลือกตั้ง]]== | ||
บรรทัดที่ 75: | บรรทัดที่ 77: | ||
(1) ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติตามที่กำหนดให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม | (1) ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติตามที่กำหนดให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม | ||
(2) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำเป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ | (2) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำเป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ[[การเลือกตั้ง]] | ||
(3) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง | (3) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง | ||
บรรทัดที่ 93: | บรรทัดที่ 95: | ||
(10) ดำเนินการอื่นตามกฎหมายบัญญัติ | (10) ดำเนินการอื่นตามกฎหมายบัญญัติ | ||
กรรมการการเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งเจ็ดปี | กรรมการการเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งเจ็ดปี นับแต่วันที่[[พระมหากษัตริย์]]ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว กรรมการการเลือกตั้งซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการการเลือกตั้งซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา | ||
==วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง== | ==วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง== | ||
'''คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดแรก'''<ref>สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, '''คณะกรรมการการเลือกตั้ง,''' (ระบบออนไลน์) http://www.ect.go.th/newweb/th/ect | '''คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดแรก'''<ref>สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, '''คณะกรรมการการเลือกตั้ง,''' (ระบบออนไลน์) http://www.ect.go.th/newweb/th/ect (สืบค้น ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552)</ref> | ||
วาระการดำรงตำแหน่ง 27 พฤศจิกายน 2540 – 26 พฤษภาคม 2544 | วาระการดำรงตำแหน่ง 27 พฤศจิกายน 2540 – 26 พฤษภาคม 2544 | ||
บรรทัดที่ 103: | บรรทัดที่ 105: | ||
|- | |- | ||
|1. | |1. | ||
|นายธีรศักดิ์ | |นายธีรศักดิ์ กรรณสูต | ||
|ประธานกรรมการการเลือกตั้ง | |ประธานกรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|2. | |2. | ||
|นายโคทม | |นายโคทม อารียา | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|3. | |3. | ||
|นายยุวรัตน์ | |นายยุวรัตน์ กมลเวชช | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|4. | |4. | ||
|นายจิระ | |นายจิระ บุญพจนสุนทร | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง (แทนนายวิสุทธิ์ | |กรรมการการเลือกตั้ง (แทนนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น) | ||
|- | |- | ||
|5. | |5. | ||
|นายสวัสดิ์ | |นายสวัสดิ์ โชติพานิช | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|} | |} | ||
บรรทัดที่ 129: | บรรทัดที่ 131: | ||
|- | |- | ||
|1. | |1. | ||
|พล.ต.อ.วาสนา | |พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ | ||
|ประธานกรรมการการเลือกตั้ง | |ประธานกรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|2. | |2. | ||
|นายจรัล | |นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง เสียชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548) | |กรรมการการเลือกตั้ง เสียชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548) | ||
|- | |- | ||
|3. | |3. | ||
|พลเอกจารุภัทร | |พลเอกจารุภัทร เรืองสุวรรณ | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง(แทนพลเอกศิรินทร์ | |กรรมการการเลือกตั้ง(แทนพลเอกศิรินทร์ ธูปกล่ำ ที่พ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ) | ||
|- | |- | ||
|4. | |4. | ||
|นายวีระชัย | |นายวีระชัย แนวบุญเนียร | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|5. | |5. | ||
|นายปริญญา | |นายปริญญา นาคฉัตรีย์ | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|} | |} | ||
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ศาลอาญาได้ตัดสินตามคำฟ้องของโจทย์ คือ นายถาวร | ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ศาลอาญาได้ตัดสินตามคำฟ้องของโจทย์ คือ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคไทยรักไทย ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 มีโทษตามมาตรา 42 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน (ไม่ได้ลงโทษตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา) ศาลได้มีคำตัดสินว่าให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง 3 คน ได้แก่ พลเอกวาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร ต้องคำพิพากษาศาลอาญา ให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ | ||
'''คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่สาม''' | '''คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่สาม''' | ||
บรรทัดที่ 158: | บรรทัดที่ 160: | ||
|- | |- | ||
|1. | |1. | ||
|นายอภิชาติ | |นายอภิชาติ สุชัคคานนท์ | ||
|ประธานกรรมการการเลือกตั้ง | |ประธานกรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|2. | |2. | ||
|นายประพันธ์ | |นายประพันธ์ นัยโกวิท | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|3. | |3. | ||
|นางสดศรี | |นางสดศรี สัตยธรรม | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|4. | |4. | ||
|นายสมชัย | |นายสมชัย จึงประเสริฐ | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|- | |- | ||
|5. | |5. | ||
|นายสุเมธ | |นายสุเมธ อุปนิสากร | ||
|กรรมการการเลือกตั้ง | |กรรมการการเลือกตั้ง | ||
|} | |} | ||
ต่อมานายสุเมธ ได้หมดวาระไปเพราะอายุครบ 70 ปี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติคัดเลือกนายวิสุทธิ์ | ต่อมานายสุเมธ ได้หมดวาระไปเพราะอายุครบ 70 ปี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติคัดเลือกนายวิสุทธิ์ โพธิ์แท่น ดำรงตำแหน่งแทน | ||
==อ้างอิง== | ==อ้างอิง== | ||
บรรทัดที่ 187: | บรรทัดที่ 188: | ||
==หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ== | ==หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ== | ||
กองบรรณาธิการ คุณธัม | กองบรรณาธิการ คุณธัม วศินเกษม, (2545) '''“องค์กรอิสระของประเทศไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”.''' นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า. | ||
สถาบันพระปกเกล้า, (2545) '''“คณะกรรมการการเลือกตั้งกับการใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”.''' เอกสารวิชาการส่วนบุคคล (หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐ และกฎหมายมหาชน) รุ่นที่ 3 (2542). | สถาบันพระปกเกล้า, (2545) '''“คณะกรรมการการเลือกตั้งกับการใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”.''' เอกสารวิชาการส่วนบุคคล (หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐ และกฎหมายมหาชน) รุ่นที่ 3 (2542). | ||
บรรทัดที่ 193: | บรรทัดที่ 194: | ||
==บรรณานุกรม== | ==บรรณานุกรม== | ||
คณิน | คณิน บุญสุวรรณ, (2548) '''“ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทยฉบับสมบูรณ์”.''' กรุงเทพฯ : บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น, หน้า 15-16. | ||
โคทม | โคทม อารียา, (2544) '''“สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540)”.''' คณะกรรมการการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าคุรุสภา, หน้า 9-25. | ||
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, (2547) '''“รัฐสภาไทย ปี 2543-2547 (หมวดองค์กรอิสระ)”.''' กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, หน้า 1-4. | สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, (2547) '''“รัฐสภาไทย ปี 2543-2547 (หมวดองค์กรอิสระ)”.''' กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, หน้า 1-4. | ||
บรรทัดที่ 210: | บรรทัดที่ 211: | ||
สถาบันนโยบายศึกษา, '''“ติดตามประชาธิปไตย.”''' (ระบบออนไลน์) http://www.fpps.or.th/news-printversion.phd.news (สืบค้น ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2552) | สถาบันนโยบายศึกษา, '''“ติดตามประชาธิปไตย.”''' (ระบบออนไลน์) http://www.fpps.or.th/news-printversion.phd.news (สืบค้น ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2552) | ||
[[ | [[หมวดหมู่:คณะกรรมการการเลือกตั้ง|คคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ 2540]] |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:25, 4 กรกฎาคม 2554
ผู้เรียบเรียง นารีลักษณ์ ศิริวรรณ
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จเร พันธุ์เปรื่อง
แต่เดิมการจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของกองการเลือกตั้ง กรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย ต่อมาในการเลือกตั้งครั้งที่ 16 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 รัฐบาลของนายอานันท์ ปันยารชุน ซึ่งรับผิดชอบดำเนินการเลือกตั้ง ได้ตระหนักถึงปัญหาการซื้อขายเสียงที่มีอยู่ทั่วไป จึงแต่งตั้ง “คณะกรรมการติดตามและสอดส่องดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” หรือที่รู้จักกันในชื่อ องค์กรกลาง เป็นหน่วยงานอิสระไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ กับการเลือกตั้ง ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง และตรวจสอบการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม
ต่อมารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2538 มาตรา 115 ได้บัญญัติหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งมีหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อกำกับดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้บริสุทธิ์ยุติธรรม คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ พิธีการแต่งตั้ง และการให้กรรมการการเลือกตั้งจากตำแหน่งให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ
ต่อมารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้บัญญัติให้จัดตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งขึ้นเป็นองค์กรอิสระ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัด หรือจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งการออกเสียงประชามติให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม [1]
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 136 ประกอบด้วย ประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นอีกสี่คน รวมเป็นห้าคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา โดยคณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอชื่อรวมสิบคนให้วุฒิสภาลงมติเลือกเหลือห้าคน และทั้งห้าคนทำการประชุมเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง แล้วประธานวุฒิสภาก็นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งและเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการด้วย[2]
ขั้นตอนการได้มาซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ให้ดำเนินการดังนี้[3]
(1) ให้มีคณะกรรมการสรรหากรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 10 คน ซึ่งประกอบด้วยประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด อธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคลทุกแห่งซึ่งเลือกกันเองให้เหลือ 4 คน ผู้แทนพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีสมาชิกเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรพรรคละ 1 คน ซึ่งเลือกกันเองให้เหลือ 4 คน ทำหน้าที่พิจารณาสรรหาผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 137 ซึ่งสมควรเป็นกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน 5 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภา โดยต้องเสนอพร้อมความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น มติในการเสนอชื่อดังกล่าวต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการสรรหาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
(2) ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาสรรหาผู้สัมครเป็นกรรมการการเลือกตั้งจำนวน 5 คน เสนอต่อประธานวุฒิสภา โดยต้องเสนอพร้อมความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น
(3) การเสนอชื่อตาม (1) และ (2) ให้กระทำภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีเหตุที่ทำให้ต้องมีการเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาตาม (1) ไม่อาจเสนอชื่อได้ภายในเวลาที่กำหนด หรือไม่อาจเสนอชื่อได้ครบจำนวนภายในเวลาที่กำหนด ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณาเสนอชื่อแทนจนครบจำนวนภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ครบกำหนดต้องเสนอชื่อตาม (1)
(4) ให้ประธานวุฒิสภาเรียกประชุมวุฒิสภา เพื่อมีมติเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อตาม (1) (2) และ (3) ซึ่งต้องกระทำโดยวิธีลงคะแนนลับ ในการนี้ ให้ห้าคนแรกซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดและมีคะแนนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้ง แต่ถ้าจำนวนผู้ได้รับเลือกดังกล่าวมีไม่ครบ 5 คน ให้นำรายชื่อผู้ไม่ได้รับเลือกในคราวแรกนั้นมาให้สมาชิกวุฒิสภาออกเสียงลงคะแนนเลือกอีกครั้งหนึ่งต่อเนื่องกันไป และในกรณีนี้ให้ถือว่าผู้ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเรียงลงไปตามลำดับจนครบห้าคน เป็นผู้ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง ในครั้งนี้ถ้ามีผู้ได้คะแนนเสียงเท่ากันในลำดับใด อันเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับเลือกเกินห้าคน ให้ประธานวุฒิสภาจับสลากว่าผู้ใดเป็นผู้ได้รับเลือก
(5) ให้ผู้ได้รับเลือกตาม (4) ประชุมและเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการการเลือกตั้ง และแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ และให้ประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งต่อไป
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการการเลือกตั้ง
กรรมการการเลือกตั้งต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีบริบูรณ์ในวันเสนอชื่อ
(3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
กรรมการการเลือกตั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(2) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรค หรือนักบวช
(3) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(4) อยู่ในระหว่างถูกเพิกเฉยถอนสิทธิเลือกตั้ง
(5) ติดยาเสพติดให้โทษ
(6) เป็นบุคคลล้มละลายที่ศาลยังไม่สั่งให้พ้นจากคดี
(7) เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่สองปีขึ้นไป โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันได้รับการเสนอเชื่อโดยคณะกรรมการสรรหา เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
(8) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่าการกระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
(9) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
(10) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามมาตรา 295 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย
(11) เคยถูกวุฒิสภามีมติตามมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้ถอดถอนออกจากตำแหน่งและยังไม่พ้นกำหนดห้าปี นับแต่วันที่วุฒิสภามีมติจนถึงวันที่ได้รับการเสนอชื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง
(12) เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
(13) เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองไทยในระยะห้าปี
(14) เป็นผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครอง กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(1) ควบคุมและดำเนินการจัดหรือจัดให้มีการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติตามที่กำหนดให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
(2) ออกประกาศกำหนดการทั้งหลายอันจำเป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
(3) มีคำสั่งให้ข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ปฏิบัติการทั้งหลายอันจำเป็นตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
(4) ออกข้อกำหนดเป็นแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งหรือการอกเสียงประชามติ
(5) สืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง และวินิจฉัยชี้ขาดปัญหา หรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง
(6) สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือออกเสียงประชามติใหม่ในหน่วยเลือกตั้งใดหน่วยเลือกตั้งหนึ่ง หรือทุกหน่วยเลือกตั้ง เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งหรือการออกเสียงประชามติในหน่วยเลือกตั้งนั้น ๆ มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
(7) ดำเนินการหรือประสานงานกับหน่วยราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือสนับสนุนองค์การเอกชนในการให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(8) ประกาศผลการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ
(9) จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีและข้อสังเกตเสนอต่อรัฐสภา
(10) ดำเนินการอื่นตามกฎหมายบัญญัติ
กรรมการการเลือกตั้งมีวาระการดำรงตำแหน่งเจ็ดปี นับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว กรรมการการเลือกตั้งซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการการเลือกตั้งซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา
วาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดแรก[4]
วาระการดำรงตำแหน่ง 27 พฤศจิกายน 2540 – 26 พฤษภาคม 2544
1. | นายธีรศักดิ์ กรรณสูต | ประธานกรรมการการเลือกตั้ง |
2. | นายโคทม อารียา | กรรมการการเลือกตั้ง |
3. | นายยุวรัตน์ กมลเวชช | กรรมการการเลือกตั้ง |
4. | นายจิระ บุญพจนสุนทร | กรรมการการเลือกตั้ง (แทนนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น) |
5. | นายสวัสดิ์ โชติพานิช | กรรมการการเลือกตั้ง |
คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่สอง
(วาระการดำรงตำแหน่ง 21 ตุลาคม 2544 – 25 กรกฎาคม 2545)
1. | พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ | ประธานกรรมการการเลือกตั้ง |
2. | นายจรัล บูรณพันธุ์ศรี | กรรมการการเลือกตั้ง เสียชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548) |
3. | พลเอกจารุภัทร เรืองสุวรรณ | กรรมการการเลือกตั้ง(แทนพลเอกศิรินทร์ ธูปกล่ำ ที่พ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ) |
4. | นายวีระชัย แนวบุญเนียร | กรรมการการเลือกตั้ง |
5. | นายปริญญา นาคฉัตรีย์ | กรรมการการเลือกตั้ง |
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 ศาลอาญาได้ตัดสินตามคำฟ้องของโจทย์ คือ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคไทยรักไทย ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541 มีโทษตามมาตรา 42 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน (ไม่ได้ลงโทษตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา) ศาลได้มีคำตัดสินว่าให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง 3 คน ได้แก่ พลเอกวาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีระชัย แนวบุญเนียร ต้องคำพิพากษาศาลอาญา ให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ
คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่สาม
(วาระการดำรงตำแหน่ง 20 กันยายน 2549 – ปัจจุบัน)
1. | นายอภิชาติ สุชัคคานนท์ | ประธานกรรมการการเลือกตั้ง |
2. | นายประพันธ์ นัยโกวิท | กรรมการการเลือกตั้ง |
3. | นางสดศรี สัตยธรรม | กรรมการการเลือกตั้ง |
4. | นายสมชัย จึงประเสริฐ | กรรมการการเลือกตั้ง |
5. | นายสุเมธ อุปนิสากร | กรรมการการเลือกตั้ง |
ต่อมานายสุเมธ ได้หมดวาระไปเพราะอายุครบ 70 ปี เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติคัดเลือกนายวิสุทธิ์ โพธิ์แท่น ดำรงตำแหน่งแทน
อ้างอิง
- ↑ คณิน บุญสุวรรณ, ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทยฉบับสมบูรณ์, กรุงเทพฯ : บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น, 2548, หน้า 15-16.
- ↑ คณิน บุญสุวรรณ, ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทยฉบับสมบูรณ์, กรุงเทพฯ : บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น, 2548, หน้า 15.
- ↑ โคทม อารียา, สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540). คณะกรรมการการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าคุรุสภา, 2544, หน้า 9-25.
- ↑ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, คณะกรรมการการเลือกตั้ง, (ระบบออนไลน์) http://www.ect.go.th/newweb/th/ect (สืบค้น ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552)
หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ
กองบรรณาธิการ คุณธัม วศินเกษม, (2545) “องค์กรอิสระของประเทศไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า.
สถาบันพระปกเกล้า, (2545) “คณะกรรมการการเลือกตั้งกับการใช้อำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”. เอกสารวิชาการส่วนบุคคล (หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐ และกฎหมายมหาชน) รุ่นที่ 3 (2542).
บรรณานุกรม
คณิน บุญสุวรรณ, (2548) “ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทยฉบับสมบูรณ์”. กรุงเทพฯ : บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น, หน้า 15-16.
โคทม อารียา, (2544) “สารานุกรมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พ.ศ. 2540)”. คณะกรรมการการเลือกตั้ง, กรุงเทพฯ : องค์การค้าคุรุสภา, หน้า 9-25.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, (2547) “รัฐสภาไทย ปี 2543-2547 (หมวดองค์กรอิสระ)”. กรุงเทพฯ : สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, หน้า 1-4.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540. (หมวด 6 รัฐสภา ส่วนที่ 2 คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 136-147)
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550. (หมวด 11 องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ 1 คณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 229-236)
ระบบออนไลน์
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, “คณะกรรมการการเลือกตั้ง”. (ระบบออนไลน์) http://www.ect.go.th/newweb/th/ect (สืบค้น ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552)
สถาบันนโยบายศึกษา, “ติดตามประชาธิปไตย.” (ระบบออนไลน์) http://www.fpps.or.th/news-printversion.phd.news (สืบค้น ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2552)