ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหตุแห่งการสละราชสมบัติ"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 1 คน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
บันทึกของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่มีถึงพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีฉบับนี้ อ้างพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองกับรัฐบาลซึ่งมาจากคณะราษฎร
บันทึกของ[[สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์]] [[ผู้สำเร็จราชการ]]แทนพระองค์ที่มีถึง[[พระยาพหลพลพยุหเสนา]] [[นายกรัฐมนตรี]]ฉบับนี้ อ้างพระราชปรารภของ[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] แสดงถึง[[ความขัดแย้ง]]ทางความคิดทางการเมืองกับ[[รัฐบาล]]ซึ่งมาจาก[[คณะราษฎร]]


ในเวลานั้นทรงประทับอยู่ ณ พระตำหนักโนล ชานกรุงลอนดอน  ภายหลังจากทรงผ่าตัดพระเนตร และไม่มีกำหนดการเสด็จกลับสยาม ระหว่างนั้นได้พระราชทานพระราชบันทึกแสดงพระราชทัศนะทางการเมืองถึงรัฐบาลและรัฐบาลมีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาชี้แจงเป็นระยะ ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกันในรายละเอียด แม้จะมีเป้าหมายทางประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะลาออกจากราชสมบัติ
ในเวลานั้นทรงประทับอยู่ ณ [[พระตำหนักโนล]] ชานกรุงลอนดอน  ภายหลังจากทรงผ่าตัดพระเนตร และไม่มีกำหนดการเสด็จกลับสยาม ระหว่างนั้นได้พระราชทานพระราชบันทึกแสดงพระราชทัศนะทางการเมืองถึงรัฐบาลและรัฐบาลมีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาชี้แจงเป็นระยะ ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกันในรายละเอียด แม้จะมีเป้าหมายทาง[[ประชาธิปไตย]]เช่นเดียวกัน จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะลาออกจากราชสมบัติ
รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่ง มีเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น เป็นประธานเดินทางไปเข้าเฝ้าและกราบบังคมทูลชี้แจง เพื่อให้ทรงล้มเลิกพระราชประสงค์ที่จะลาออกจากราชสมบัติ รวมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินกลับสยาม ซึ่งทรงปฏิเสธ การเจรจากับรัฐบาลดำเนินอยู่นานกว่า ๕ เดือน แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดทรงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์
รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่ง มีเ[[จ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ]] ([[จิตร ณ สงขลา]]) [[ประธานสภาผู้แทนราษฎร]]ในขณะนั้น เป็นประธานเดินทางไปเข้าเฝ้าและกราบบังคมทูลชี้แจง เพื่อให้ทรงล้มเลิกพระราชประสงค์ที่จะลาออกจากราชสมบัติ รวมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินกลับสยาม ซึ่งทรงปฏิเสธ การเจรจากับรัฐบาลดำเนินอยู่นานกว่า ๕ เดือน แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดทรงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์


'''ที่มา '''
'''ที่มา '''
บรรทัดที่ 11: บรรทัดที่ 11:
*[https://www.youtube.com/watch?v=EG4z9Rm9RXo&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo&index=109  YOU TUBE :หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง : เหตุแห่งการสละราชสมบัติ]
*[https://www.youtube.com/watch?v=EG4z9Rm9RXo&list=PLz3ADrKTT5i0vjsCnIPrpraHExclR_Odo&index=109  YOU TUBE :หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง : เหตุแห่งการสละราชสมบัติ]


[[หมวดหมู่:สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับ "ประชาธิปไตย"]]
[[หมวดหมู่:สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับ "ประชาธิปไตย"|ห]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:57, 10 กุมภาพันธ์ 2559

บันทึกของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่มีถึงพระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีฉบับนี้ อ้างพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว แสดงถึงความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองกับรัฐบาลซึ่งมาจากคณะราษฎร

ในเวลานั้นทรงประทับอยู่ ณ พระตำหนักโนล ชานกรุงลอนดอน ภายหลังจากทรงผ่าตัดพระเนตร และไม่มีกำหนดการเสด็จกลับสยาม ระหว่างนั้นได้พระราชทานพระราชบันทึกแสดงพระราชทัศนะทางการเมืองถึงรัฐบาลและรัฐบาลมีหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาชี้แจงเป็นระยะ ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกันในรายละเอียด แม้จะมีเป้าหมายทางประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน จึงทรงมีพระราชประสงค์ที่จะลาออกจากราชสมบัติ

รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่ง มีเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น เป็นประธานเดินทางไปเข้าเฝ้าและกราบบังคมทูลชี้แจง เพื่อให้ทรงล้มเลิกพระราชประสงค์ที่จะลาออกจากราชสมบัติ รวมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินกลับสยาม ซึ่งทรงปฏิเสธ การเจรจากับรัฐบาลดำเนินอยู่นานกว่า ๕ เดือน แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดทรงตัดสินพระราชหฤทัยสละราชสมบัติ ออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖