ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พัฒนาการคมนาคม : สนามบินดอนเมือง"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Suksan (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 1 คน)
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
กิจการการบินในประเทศไทย เริ่มต้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยใช้สนามของราชกรีฑาสโมสร ตำบลปทุมวัน เป็นสนามบิน ต่อมากิจการเจริญขึ้น สนามบินเดิมคับแคบไป รัฐบาลจึงย้ายไปใช้สนามบินที่ตำบลดอนเมือง เมื่อปี ๒๔๕๗  จากนั้น กิจการการบินจึงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว  
กิจการการบินในประเทศไทย เริ่มต้นในรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] โดยใช้สนามของราชกรีฑาสโมสร ตำบลปทุมวัน เป็นสนามบิน ต่อมากิจการเจริญขึ้น สนามบินเดิมคับแคบไป [[รัฐบาล]]จึงย้ายไปใช้สนามบินที่ตำบลดอนเมือง เมื่อปี ๒๔๕๗  จากนั้น กิจการการบินจึงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว  


กิจการการบินของไทยในระยะแรกนั้น สังกัดกระทรวงกลาโหมได้ใช้เพื่อขนส่งไปรษณียภัณฑ์ ต่อมาเมื่อเครื่องบินได้วิวัฒนาการจนมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น จึงได้ใช้ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า  
กิจการการบินของไทยในระยะแรกนั้น สังกัดกระทรวงกลาโหมได้ใช้เพื่อขนส่งไปรษณียภัณฑ์ ต่อมาเมื่อเครื่องบินได้วิวัฒนาการจนมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น จึงได้ใช้ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า  


จนกระทั่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินที่ทันสมัยโอ่โถง นอกจากเป็นที่ตั้งของกรมอากาศยานแล้วยังประกอบด้วยโรงงานที่มีเครื่องมือครบครันสามารถสร้างเครื่องบินได้ทั้งลำ เว้นแต่เครื่องยนต์เท่านั้น  
จนกระทั่งรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินที่ทันสมัยโอ่โถง นอกจากเป็นที่ตั้งของกรมอากาศยานแล้วยังประกอบด้วยโรงงานที่มีเครื่องมือครบครันสามารถสร้างเครื่องบินได้ทั้งลำ เว้นแต่เครื่องยนต์เท่านั้น  


ในปี ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการการบินที่กรมอากาศยานดอนเมืองพร้อมกับทรงมีพระราชดำรัสว่า
ในปี ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและ[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี]]ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการการบินที่กรมอากาศยานดอนเมืองพร้อมกับทรงมีพระราชดำรัสว่า


“การอากาศยานนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่เชิดชูเกียรติ์ของชาวไทยและประเทศสยามยิ่งกว่าการอื่นๆ เพราะเกือบจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นวิธีการทางเทคนิคอันเราสามารถทำได้เองด้วยคนไทยทั้งนั้น ไม่ต้องอาศัยชาวต่างชาติมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ...เพราะโดยมาก เขาเหล่านั้นไม่ได้นึกเลยว่า คนไทยเราสามารถตั้งกรมอากาศยานขึ้นเป็นปึกแผ่นใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้…”
“การอากาศยานนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่เชิดชูเกียรติ์ของชาวไทยและประเทศสยามยิ่งกว่าการอื่นๆ เพราะเกือบจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นวิธีการทางเทคนิคอันเราสามารถทำได้เองด้วยคนไทยทั้งนั้น ไม่ต้องอาศัยชาวต่างชาติมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ...เพราะโดยมาก เขาเหล่านั้นไม่ได้นึกเลยว่า คนไทยเราสามารถตั้งกรมอากาศยานขึ้นเป็นปึกแผ่นใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้…”

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 16:04, 11 กุมภาพันธ์ 2559

กิจการการบินในประเทศไทย เริ่มต้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยใช้สนามของราชกรีฑาสโมสร ตำบลปทุมวัน เป็นสนามบิน ต่อมากิจการเจริญขึ้น สนามบินเดิมคับแคบไป รัฐบาลจึงย้ายไปใช้สนามบินที่ตำบลดอนเมือง เมื่อปี ๒๔๕๗ จากนั้น กิจการการบินจึงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

กิจการการบินของไทยในระยะแรกนั้น สังกัดกระทรวงกลาโหมได้ใช้เพื่อขนส่งไปรษณียภัณฑ์ ต่อมาเมื่อเครื่องบินได้วิวัฒนาการจนมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น จึงได้ใช้ขนส่งผู้โดยสารและสินค้า

จนกระทั่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว สนามบินดอนเมืองเป็นสนามบินที่ทันสมัยโอ่โถง นอกจากเป็นที่ตั้งของกรมอากาศยานแล้วยังประกอบด้วยโรงงานที่มีเครื่องมือครบครันสามารถสร้างเครื่องบินได้ทั้งลำ เว้นแต่เครื่องยนต์เท่านั้น

ในปี ๒๔๗๐ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการการบินที่กรมอากาศยานดอนเมืองพร้อมกับทรงมีพระราชดำรัสว่า

“การอากาศยานนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่เชิดชูเกียรติ์ของชาวไทยและประเทศสยามยิ่งกว่าการอื่นๆ เพราะเกือบจะเป็นสิ่งเดียวที่เป็นวิธีการทางเทคนิคอันเราสามารถทำได้เองด้วยคนไทยทั้งนั้น ไม่ต้องอาศัยชาวต่างชาติมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ...เพราะโดยมาก เขาเหล่านั้นไม่ได้นึกเลยว่า คนไทยเราสามารถตั้งกรมอากาศยานขึ้นเป็นปึกแผ่นใหญ่โตได้ถึงเพียงนี้…”

ต่อมาปี ๒๔๗๔ รัฐบาลได้จัดตั้งบริษัท เดินอากาศ จำกัด เปิดการบินภายในประเทศและรับเป็นตัวแทนบริษัทการบินต่างประเทศ นับเป็นก้าวสำคัญของกิจการการบินในประเทศไทยที่ดำเนินสืบมาจวบจนทุกวันนี้

ที่มา

บทสารคดี “ปกเกล้าธรรมราชา” สารคดีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่ในวโรกาสครบ ๑๒๐ ปี แห่งวันพระบรมราชสมภพและเป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประจำปี ๒๕๕๖