ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทักษิโนมิค"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 1: บรรทัดที่ 1:
'''ผู้เรียบเรียง''' รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต
'''ผู้เรียบเรียง''' รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต
----
'''ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ''' รศ.ดร.ปธาน สุวรรณมงคล


----
----
บรรทัดที่ 16: บรรทัดที่ 20:


3) ย้อนหลังไปในปี พ.ศ. 2545 นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการไทยจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี [[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ]]ว่าเป็นแบบ[[ทักษิณานุวัตร]] คือเป็นการใช้อำนาจนำพาประเทศให้เป็นไปตามความต้องการส่วนตัว (สยามรัฐรายวัน 9 มิถุนายน 2546)
3) ย้อนหลังไปในปี พ.ศ. 2545 นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการไทยจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี [[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ]]ว่าเป็นแบบ[[ทักษิณานุวัตร]] คือเป็นการใช้อำนาจนำพาประเทศให้เป็นไปตามความต้องการส่วนตัว (สยามรัฐรายวัน 9 มิถุนายน 2546)
[[หมวดหมู่: สารานุกรมการเมืองไทย]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:15, 28 พฤษภาคม 2555

ผู้เรียบเรียง รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รศ.ดร.ปธาน สุวรรณมงคล


ทักษิโนมิค คือลัทธิหรือแนวทางสำหรับทำสงครามทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมาย สูงสุดทำให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกประเทศหนึ่งในเอเชีย และยังทำให้เอเชียทั้งทวีปเป็นศูนย์กลางสำคัญของเศรษฐกิจโลก

แนวทางการบริหารประเทศตามลัทธิทักษิโนมิค คือสนับสนุนให้ประชาชนส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นชนชั้นรากหญ้า ให้มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นตามลำดับ ส่งเสริมให้วิสาหกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง เข้มแข็ง พร้อมที่จะเข้าสู่สงครามเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ลดบทบาทของชนชั้นกลางลงชั่วคราว กล่าวได้ว่า ชนชั้นสูงกับชนชั้นล่างได้รับอานิสงค์จากลัทธิทักษิณมากกว่าชนชั้นกลาง และเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางสังคมให้สอดคล้องกับความเข้มแข็งของชนชั้นที่กล่าวถึงข้างต้น โดยการขจัดศัตรูของสังคมอย่างแข็งขัน ศัตรูที่ว่าได้แก่ นักค้ายาเสพติด มาเฟีย นักทุจริต เป็นต้น

ส่วนบทบาทในอาเซียนและทวีปเอเชีย ลัทธิทักษิโนมิค ได้จัดลำดับหุ้นส่วนไว้หลายระดับ มีตั้งแต่เพื่อนบ้าน ใกล้ชิด 3 ประเทศ พม่า เขมร และลาว ถัดไปคือประเทศในกลุ่มอาเซียนที่เหลือ นอกนั้นก็จัดแกนนำทวีปเอเชียเป็น 2 แกน คือ แกนที่1 เป็นแกนนำทางเศรษฐกิจ มีญี่ปุ่น จีน เป็นหลัก และไทยต้องเป็นหนึ่งในแกนหลักดังกล่าว ส่วนแกนที่2 เป็นแกนด้านตลาด คือ จีนกับอินเดีย เนื่องจากมีพลเมืองมาก ลัทธิทักษิโนมิคมีเป้าหมายนำไทยเข้าไปยืนระหว่างแกนนี้ ดังนั้น การก่อตั้งความร่วมมือแห่งเอเชียหรือเอซีดี และการจัดตั้งเอเชียบอนด์หรือตลาดพันธบัตรเอเชีย เกิดขึ้นเพื่อผนึกกำลังหุ้นส่วนทั้งหลายไปทำสงครามเศรษฐกิจกับยุโรปและอเมริกา

ส่วนที่มาขอคำ “ทักษิโนมิค” มาจาก 3 แหล่งด้วยกัน ได้แก่

1) นางอาร์โรโย ประธานาธิบดี แห่งประเทศฟิลิปปินส์ในคราวประชุมนานาชาติที่กรุงโตเกียว เมื่อเดือนมิถุนายนปี พ.ศ. 2546 เรียกแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลทักษิณ ที่ทำได้อย่างเป็นรูปธรรม ว่า “ทักษิโนมิค”

2) สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา ในช่วงเวลาก่อนเดือนมิถุนายน ปี พ .ศ. 2546 ได้เชิดชูความคิดทะลายพรมแดนเพื่อนบ้านเพื่อร่วมมือกันสร้างความเจริญมั่งคั่งว่าเป็นทฤษฎีทักษิณ

3) ย้อนหลังไปในปี พ.ศ. 2545 นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการไทยจากรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร. ทักษิณว่าเป็นแบบทักษิณานุวัตร คือเป็นการใช้อำนาจนำพาประเทศให้เป็นไปตามความต้องการส่วนตัว (สยามรัฐรายวัน 9 มิถุนายน 2546)