ผลต่างระหว่างรุ่นของ "8 มีนาคม พ.ศ. 2495"

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apirom (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
 
บรรทัดที่ 6: บรรทัดที่ 6:


----
----
วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 เป็นวันประกาศใช้[[รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495]] นับเป็นเวลาได้ประมาณ 3 เดือน หลังจาก “[[คณะบริหารประเทศชั่วคราว]]” ได้ยึดอำนาจล้ม[[รัฐบาล]]และล้ม[[รัฐธรรมนูญ]] พ.ศ. 2492 ไปแล้ว รัฐบาลซึ่งมี[[จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] และมีคณะทหารหนุนหลังก็ได้นำรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 มาแก้ไขและนำเข้า[[สภาผู้แทนราษฎร]] ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2495 เพื่อพิจารณา  โดยสภาได้[[ตั้งคณะกรรมาธิการ]]ที่มี [[พลเอกผิน  ชุณหะวัณ]] เป็นประธานและมี[[นายหยุด แสงอุทัย]] เป็นเลขาธิการ
วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 เป็นวันประกาศใช้[[รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495]] นับเป็นเวลาได้ประมาณ 3 เดือน หลังจาก “[[คณะบริหารประเทศชั่วคราว]]” ได้ยึดอำนาจล้ม[[รัฐบาล]]และล้ม[[รัฐธรรมนูญ]] พ.ศ. 2492 ไปแล้ว รัฐบาลซึ่งมี[[จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] และมีคณะทหารหนุนหลังก็ได้นำรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 มาแก้ไขและนำเข้า[[สภาผู้แทนราษฎร]] ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2495 เพื่อพิจารณา  โดยสภาได้[[ตั้งคณะกรรมาธิการ]]ที่มี [[ผิน  ชุณหะวัณ|พลเอกผิน  ชุณหะวัณ]] เป็นประธานและมี[[หยุด แสงอุทัย|นายหยุด แสงอุทัย]] เป็นเลขาธิการ
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 จึงเป็นรัฐธรรมนูญที่ดูจะมีชื่อยาวไปสักนิด แต่ก็มีคุณลักษณะที่คณะผู้บริหารประเทศชั่วคราวชอบ คือ มี[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ที่มาจากการแต่งตั้งได้ครึ่งหนึ่งของสภา ที่จะเป็นตัวช่วยค้ำจุนรัฐบาลและคณะทหารนั่นเอง จึงเห็นได้ว่าต่อจากนั้นมาแม้จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาอีกครั้งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม รัฐบาลก็ดูจะมีความมั่นคงทางการเมืองมาก และรัฐบาลที่มีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีก็สามารถอยู่ต่อมาถึงการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ทั้งผลการเลือกตั้ง[[พรรครัฐบาล]]ก็เป็นฝ่ายชนะ หากแต่การแย่งชิงอำนาจที่เกิดขึ้น ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 นั้น กลายเป็น[[ความขัดแย้ง]]ในรัฐบาลเองและระหว่างผู้คุมกำลัง 2 ฝ่ายที่หนุนจอมพล ป. พิบูลสงคราม มาก่อน
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 จึงเป็นรัฐธรรมนูญที่ดูจะมีชื่อยาวไปสักนิด แต่ก็มีคุณลักษณะที่คณะผู้บริหารประเทศชั่วคราวชอบ คือ มี[[สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร]]ที่มาจากการแต่งตั้งได้ครึ่งหนึ่งของสภา ที่จะเป็นตัวช่วยค้ำจุนรัฐบาลและคณะทหารนั่นเอง จึงเห็นได้ว่าต่อจากนั้นมาแม้จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาอีกครั้งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม รัฐบาลก็ดูจะมีความมั่นคงทางการเมืองมาก และรัฐบาลที่มีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีก็สามารถอยู่ต่อมาถึงการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ในวันที่ [[26 กุมภาพันธ์ 2500|26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500]] ทั้งผลการเลือกตั้ง[[พรรครัฐบาล]]ก็เป็นฝ่ายชนะ หากแต่การแย่งชิงอำนาจที่เกิดขึ้น ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 นั้น กลายเป็น[[ความขัดแย้ง]]ในรัฐบาลเองและระหว่างผู้คุมกำลัง 2 ฝ่ายที่หนุนจอมพล ป. พิบูลสงคราม มาก่อน


ท้ายที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ใช้ต่อมาจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 [[จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์]] และคณะทหารจึงได้ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจ ล้มรัฐบาล และยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ท้ายที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ใช้ต่อมาจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 [[สฤษดิ์  ธนะรัชต์|จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์]] และคณะทหารจึงได้ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจ ล้มรัฐบาล และยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้


[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]
[[หมวดหมู่:เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย สมัย พ.ศ. 2475-2500]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:38, 24 พฤศจิกายน 2557

ผู้เรียบเรียง ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร


ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต


วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 เป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 นับเป็นเวลาได้ประมาณ 3 เดือน หลังจาก “คณะบริหารประเทศชั่วคราว” ได้ยึดอำนาจล้มรัฐบาลและล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ไปแล้ว รัฐบาลซึ่งมีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และมีคณะทหารหนุนหลังก็ได้นำรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 มาแก้ไขและนำเข้าสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2495 เพื่อพิจารณา โดยสภาได้ตั้งคณะกรรมาธิการที่มี พลเอกผิน ชุณหะวัณ เป็นประธานและมีนายหยุด แสงอุทัย เป็นเลขาธิการ

รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 จึงเป็นรัฐธรรมนูญที่ดูจะมีชื่อยาวไปสักนิด แต่ก็มีคุณลักษณะที่คณะผู้บริหารประเทศชั่วคราวชอบ คือ มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการแต่งตั้งได้ครึ่งหนึ่งของสภา ที่จะเป็นตัวช่วยค้ำจุนรัฐบาลและคณะทหารนั่นเอง จึงเห็นได้ว่าต่อจากนั้นมาแม้จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาอีกครั้งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม รัฐบาลก็ดูจะมีความมั่นคงทางการเมืองมาก และรัฐบาลที่มีจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีก็สามารถอยู่ต่อมาถึงการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้ง ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ทั้งผลการเลือกตั้งพรรครัฐบาลก็เป็นฝ่ายชนะ หากแต่การแย่งชิงอำนาจที่เกิดขึ้น ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 นั้น กลายเป็นความขัดแย้งในรัฐบาลเองและระหว่างผู้คุมกำลัง 2 ฝ่ายที่หนุนจอมพล ป. พิบูลสงคราม มาก่อน

ท้ายที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็ใช้ต่อมาจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และคณะทหารจึงได้ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจ ล้มรัฐบาล และยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้