ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
(ไม่แสดง 3 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
บรรทัดที่ 5: | บรรทัดที่ 5: | ||
---- | ---- | ||
นับตั้งแต่ประเทศไทยมี[[การเปลี่ยนแปลงการปกครอง]]จากระบอบ[[สมบูรณาญาสิทธิราชย์]]มาเป็น[[การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข]] เมื่อวันที่ [[24 มิถุนายน 2475]] เป็นต้นมา การปกครองประเทศจะมี[[รัฐธรรมนูญ]]เป็นกฎหมายสูงสุดและมี[[รัฐสภา]] เป็นสถาบันหลักที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองมากขึ้น ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับบัญญัติให้รัฐสภาประกอบด้วย 2 สภา คือ [[สภาผู้แทนราษฎร]] และ[[วุฒิสภา]] รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้วางหลักให้รัฐสภามีอํานาจหน้าที่ใน[[การตรากฎหมาย]] [[ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน]] และ[[การให้ความเห็นชอบในภารกิจสําคัญของประเทศ]] แต่เมื่อมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคในการปกครองประเทศจนไม่สามารถนำประเทศไปสู่การปกครองด้วยความปกติได้ เกิดการยึดอำนาจทางการปกครอง และภายหลังการยึดอำนาจได้มีการประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้บังคับอยู่ อีกทั้งองค์กรของรัฐสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาต้องถูกยุบไปด้วยโดยคณะผู้ยึดอำนาจ และเพื่อวางรูปแบบการปกครองประเทศจะมีการประกาศใช้[[ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร]]หรือ[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว]]ใช้บังคับแทนจนกว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นการถาวรต่อไป พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่รัฐสภา ซึ่งเป็น[[สภาเดียว]]แทนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เรียกว่า “[[สภานิติบัญญัติแห่งชาติ]]” | |||
==ความหมาย== | ==ความหมาย== | ||
คำว่า “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” ตามที่ คณิน บุญสุวรรณ ได้ให้ความหมายไว้ในหนังสือปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์) ว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หมายถึง สภานิติบัญญัติระดับชาติซึ่งทำหน้าที่รัฐสภา เป็นสภาเดียว โดยมีสมาชิกซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร สภานิติบัญญัติแห่งชาติทั้งหมด | คำว่า “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” ตามที่ คณิน บุญสุวรรณ ได้ให้ความหมายไว้ในหนังสือปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์) ว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หมายถึง สภานิติบัญญัติระดับชาติซึ่งทำหน้าที่รัฐสภา เป็นสภาเดียว โดยมีสมาชิกซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร สภานิติบัญญัติแห่งชาติทั้งหมด มีที่มาหลังการ[[ปฏิวัติ]][[รัฐประหาร]]<ref>คณิน บุญสุวรรณ. (2548). ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์). กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ. หน้า 919. </ref> | ||
==สภานิติบัญญัติแห่งชาติในอดีต== | ==สภานิติบัญญัติแห่งชาติในอดีต== | ||
จากประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทยที่ผ่านตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันในปี 2557 ประเทศไทยมีการปฏิวัติรัฐประหาร | จากประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทยที่ผ่านตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันในปี 2557 ประเทศไทยมีการปฏิวัติรัฐประหาร หรือ[[ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน]] เพื่อให้ประเทศชาติมีการปกครองด้วยความสงบมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งภายหลังที่มีการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจะมีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่ในด้านกระบวนการนิติบัญญัติแทนรัฐสภา มาแล้วจำนวน 6 ครั้ง ดังนี้ | ||
1) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2515 | 1) [[สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2515]] | ||
2) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2516 | 2) [[สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2516]] | ||
3) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2520 | 3) [[สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2520]] | ||
4) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2534 | 4) [[สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2534]] | ||
5) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2549 | 5) [[สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2549]] | ||
6) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2557 | 6) [[สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2557]] | ||
==ที่มาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557== | ==ที่มาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557== | ||
หลังจากที่ประเทศไทยเกิด[[ความขัดแย้งทางการเมือง]]ขึ้นในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จนลุกลามไปสู่แทบทุกภูมิภาคของประเทศ ประชาชนแตกแยกเป็นฝ่ายต่าง ๆ ขาดความสามัคคี และมีทัศนคติไม่เป็นมิตรต่อกัน จนถึงขั้นจลาจลได้ทุกขณะซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน ความสะดวกสบายของประชาชนผู้สุจริต อันจะเป็นการทําลายความมั่นคงของชาติและความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองการปกครองหยุดชะงัก กระทบต่อการใช้อำนาจในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร และในทางตุลาการ ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ในวันที่ [[22 พฤษภาคม 2557]] [[คณะรักษาความสงบแห่งชาติ]]จึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมอํานาจการปกครองประเทศและประกาศให้[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550]] สิ้นสุดลง กลไกของรัฐสภา ได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องถูกยุบเลิกไป ต่อจากนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงแต่งตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่ในด้านกระบวนการนิติบัญญัติแทนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ซึ่ง[[สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557]] เป็นสภาที่ตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ของ[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557]] <ref>รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557. | |||
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนที่ 55 ก ราชกิจจานุเบกษา 22 กรกฎาคม 2557. </ref> | |||
กำหนดให้ให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจํานวนไม่เกินสองร้อยยี่สิบคน ซึ่ง[[พระมหากษัตริย์]]ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคําแนะนํา โดยให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา และในการถวายคําแนะนําเพื่อทรงแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้คํานึงถึงความรู้ความสามารถ ความหลากหลายของบุคคลจากกลุ่มต่าง ๆ ในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และภาคอื่นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย | |||
==อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557== | ==อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557== | ||
บรรทัดที่ 39: | บรรทัดที่ 41: | ||
การปฏิบัติหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการตรากฎหมายนั้น หมายความรวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ คือ | การปฏิบัติหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการตรากฎหมายนั้น หมายความรวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ คือ | ||
- การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ | - [[การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ]] | ||
- การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ | - [[การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ]] | ||
- การพิจารณาอนุมัติพระราชกําหนด | - [[การพิจารณาอนุมัติพระราชกําหนด]] | ||
2. การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน | 2. การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน | ||
บรรทัดที่ 49: | บรรทัดที่ 51: | ||
ในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน นั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมาตรการในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้ดังนี้ | ในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน นั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมาตรการในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้ดังนี้ | ||
- การเสนอญัตติ | - [[การเสนอญัตติ]] | ||
- การเปิดอภิปรายทั่วไป | - [[การตั้งกระทู้ถาม]] | ||
- [[การเปิดอภิปรายทั่วไป]] | |||
3. อํานาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด | 3. อํานาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด | ||
บรรทัดที่ 57: | บรรทัดที่ 61: | ||
สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีอํานาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หรือตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนี้ | สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีอํานาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หรือตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนี้ | ||
- | - ถวายคําแนะนําเพื่อแต่งตั้งและให้พ้นจากตำแหน่ง[[นายกรัฐมนตรี]] | ||
- | - เสนอ[[กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ]]จำนวนห้าคน เพื่อประกอบเป็น[[คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ]] ทำหน้าที่จัดทําร่างรัฐธรรมนูญซึ่งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญประกอบด้วยกรรมาธิการจํานวนสามสิบหกคน | ||
- | - ตรา[[ข้อบังคับ]]เกี่ยวกับการเลือกและการปฏิบัติหน้าที่ของ[[ประธานสภา]] [[รองประธานสภา]] และ[[กรรมาธิการ]] วิธีการประชุม | ||
- อํานาจหน้าที่อื่นๆ | - อํานาจหน้าที่อื่นๆ | ||
อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งในกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนคนไทยทุกคน ทุกฝ่าย ถึงเวลาแล้วจะต้องหันหน้ามาแสวงหาแนวทางการแก้ปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ด้วยสันติวิธี เนื่องจากวิกฤติของประเทศไทยในวันนี้มีทั้งวิกฤติเศรษฐกิจการเงินโลก วิกฤติทางการเมือง และวิกฤติความแตกแยกของคนในสังคม อันส่งผลต่อวิกฤติสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ดังนั้น คนไทยทุกคนต้องยืนหยัด ปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งปฎิบัติตามกฎหมายและประพฤติตนเป็นพลเมืองดีตามรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง. | อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งในกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนคนไทยทุกคน ทุกฝ่าย ถึงเวลาแล้วจะต้องหันหน้ามาแสวงหาแนวทางการแก้ปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ด้วยสันติวิธี เนื่องจากวิกฤติของประเทศไทยในวันนี้มีทั้งวิกฤติเศรษฐกิจการเงินโลก วิกฤติทางการเมือง และวิกฤติความแตกแยกของคนในสังคม อันส่งผลต่อวิกฤติสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ดังนั้น คนไทยทุกคนต้องยืนหยัด ปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งปฎิบัติตามกฎหมายและประพฤติตนเป็นพลเมืองดีตามรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง. | ||
==อ้างอิง== | |||
<references/> | |||
==หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ== | ==หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ== |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:22, 22 สิงหาคม 2557
เรียบเรียงโดย : พุทธชาติ ทองเอม
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : นายจเร พันธุ์เปรื่อง
นับตั้งแต่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 เป็นต้นมา การปกครองประเทศจะมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดและมีรัฐสภา เป็นสถาบันหลักที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองมากขึ้น ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเกือบทุกฉบับบัญญัติให้รัฐสภาประกอบด้วย 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้วางหลักให้รัฐสภามีอํานาจหน้าที่ในการตรากฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และการให้ความเห็นชอบในภารกิจสําคัญของประเทศ แต่เมื่อมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคในการปกครองประเทศจนไม่สามารถนำประเทศไปสู่การปกครองด้วยความปกติได้ เกิดการยึดอำนาจทางการปกครอง และภายหลังการยึดอำนาจได้มีการประกาศยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้บังคับอยู่ อีกทั้งองค์กรของรัฐสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาต้องถูกยุบไปด้วยโดยคณะผู้ยึดอำนาจ และเพื่อวางรูปแบบการปกครองประเทศจะมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรหรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราวใช้บังคับแทนจนกว่าจะมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นการถาวรต่อไป พร้อมทั้งมีการแต่งตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่รัฐสภา ซึ่งเป็นสภาเดียวแทนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เรียกว่า “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ”
ความหมาย
คำว่า “สภานิติบัญญัติแห่งชาติ” ตามที่ คณิน บุญสุวรรณ ได้ให้ความหมายไว้ในหนังสือปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์) ว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หมายถึง สภานิติบัญญัติระดับชาติซึ่งทำหน้าที่รัฐสภา เป็นสภาเดียว โดยมีสมาชิกซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร สภานิติบัญญัติแห่งชาติทั้งหมด มีที่มาหลังการปฏิวัติรัฐประหาร[1]
สภานิติบัญญัติแห่งชาติในอดีต
จากประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทยที่ผ่านตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันในปี 2557 ประเทศไทยมีการปฏิวัติรัฐประหาร หรือยึดอำนาจการปกครองแผ่นดิน เพื่อให้ประเทศชาติมีการปกครองด้วยความสงบมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งภายหลังที่มีการยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจะมีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่ในด้านกระบวนการนิติบัญญัติแทนรัฐสภา มาแล้วจำนวน 6 ครั้ง ดังนี้
1) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2515
2) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2516
3) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2520
4) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2534
5) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2549
6) สภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้ง พ.ศ. 2557
ที่มาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
หลังจากที่ประเทศไทยเกิดความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จนลุกลามไปสู่แทบทุกภูมิภาคของประเทศ ประชาชนแตกแยกเป็นฝ่ายต่าง ๆ ขาดความสามัคคี และมีทัศนคติไม่เป็นมิตรต่อกัน จนถึงขั้นจลาจลได้ทุกขณะซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน ความสะดวกสบายของประชาชนผู้สุจริต อันจะเป็นการทําลายความมั่นคงของชาติและความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองการปกครองหยุดชะงัก กระทบต่อการใช้อำนาจในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร และในทางตุลาการ ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมอํานาจการปกครองประเทศและประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง กลไกของรัฐสภา ได้แก่ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องถูกยุบเลิกไป ต่อจากนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงแต่งตั้งองค์กรเพื่อทำหน้าที่ในด้านกระบวนการนิติบัญญัติแทนสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่อไป ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 เป็นสภาที่ตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 [2] กำหนดให้ให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจํานวนไม่เกินสองร้อยยี่สิบคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคําแนะนํา โดยให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา และในการถวายคําแนะนําเพื่อทรงแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้คํานึงถึงความรู้ความสามารถ ความหลากหลายของบุคคลจากกลุ่มต่าง ๆ ในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคม ภาควิชาการ ภาควิชาชีพ และภาคอื่นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย
อำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ได้กำหนดให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญที่สุดเปรียบเสมือนสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา ดังนั้น อำนาจหน้าที่หลักของสภานิติบัญญัติแห่งชาติสามารถแบ่งได้ 3 ประการ คือ
1. อํานาจหน้าที่ในการตรากฎหมาย
การปฏิบัติหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติในการตรากฎหมายนั้น หมายความรวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ คือ
- การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
- การเสนอและพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
- การพิจารณาอนุมัติพระราชกําหนด
2. การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
ในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน นั้น สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมาตรการในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินได้ดังนี้
3. อํานาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่กฎหมายกําหนด
สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีอํานาจหน้าที่อื่น ๆ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หรือตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนี้
- ถวายคําแนะนําเพื่อแต่งตั้งและให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
- เสนอกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวนห้าคน เพื่อประกอบเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่จัดทําร่างรัฐธรรมนูญซึ่งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญประกอบด้วยกรรมาธิการจํานวนสามสิบหกคน
- ตราข้อบังคับเกี่ยวกับการเลือกและการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภา รองประธานสภา และกรรมาธิการ วิธีการประชุม
- อํานาจหน้าที่อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งในกระบวนการนิติบัญญัติ ส่วนคนไทยทุกคน ทุกฝ่าย ถึงเวลาแล้วจะต้องหันหน้ามาแสวงหาแนวทางการแก้ปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ด้วยสันติวิธี เนื่องจากวิกฤติของประเทศไทยในวันนี้มีทั้งวิกฤติเศรษฐกิจการเงินโลก วิกฤติทางการเมือง และวิกฤติความแตกแยกของคนในสังคม อันส่งผลต่อวิกฤติสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน ดังนั้น คนไทยทุกคนต้องยืนหยัด ปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งปฎิบัติตามกฎหมายและประพฤติตนเป็นพลเมืองดีตามรัฐธรรมนูญอย่างเข้มแข็ง.
อ้างอิง
หนังสือแนะนำให้อ่านต่อ
1. คณิน บุญสุวรรณ. (2548). ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์). กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ.
2. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2548). สรรสาระรัฐธรรมนูญไทย. กรุงเทพฯ : บริษัทรุ่งศิลป์การพิมพ์.
บรรณานุกรม
1. คณิน บุญสุวรรณ. (2548). ปทานุกรมศัพท์รัฐสภาและการเมืองไทย (ฉบับสมบูรณ์). กรุงเทพฯ : สุขภาพใจ.
2. บทบาทและอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ. [ออนไลน์] วันที่ค้นข้อมูล 23 กรกฎาคม 2557. เข้าถึงได้จาก http://click.senate.go.th/?p=3907.
3. พิษณุ สุ่มประดิษฐ์. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ. [ออนไลน์] วันที่ค้นข้อมูล 23 กรกฎาคม 2557. เข้าถึงได้จาก http://www.kpi.ac.th/wiki/index.php.
4. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนที่ 55 ก ราชกิจจานุเบกษา 22 กรกฎาคม 2557.
5. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๔๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๐.
6. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2548). สรรสาระรัฐธรรมนูญไทย. กรุงเทพฯ : บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์.