แทนคุณแผ่นดิน (พ.ศ. 2550)
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รองศาสตราจารย์นรนิติ เศรษฐบุตร และ รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
พรรคแทนคุณแผ่นดิน
พรรคแทนคุณแผ่นดินจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550[1] โดยมีนายวิชัย ศิรินคร [2] ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคและนายชาตวิทย์ มงคลแสน ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค[3]
ในการเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองอย่างเป็นทางการของพรรคแทนคุณแผ่นดินนั้นที่ผ่านมาพรรคยังมิได้เข้าร่วมกิจกรรมการเลือกแม้แต่ครั้งเดียว
รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินการที่สำคัญมีดังต่อไปนี้คือ [4]
นโยบายเร่งด่วน
1.สร้างรางรถไฟคู่ขนานจำนวน 3 สายให้แล้วเสร็จภายใน 15 ปี
2.จัดหากองทุนกู้ยืมให้แรงงานไทยอีสานไปทำงานในต่างประเทศโดยไปทำงานก่อนแล้วผ่อนให้รัฐทีหลัง
ด้านการเมืองและการปกครอง
1.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนทุกคน
2.กระจายอำนาจสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น
3.พัฒนาการเมืองในระบบรัฐสภาให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ มั่นคงและมีเกียรติภูมิ
4.สนับสนุนบทบาทขององค์กรพัฒนาเอกชน ส่งเสริมบทบาทของสื่อมวลชน
ด้านการเกษตร
1.ปรับปรุงระบบการปฏิรูปที่ดิน
2.กำหนดราคาผลผลิตขั้นต่ำและสนับสนุนสหกรณ์การเกษตร
3.ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรโดยตั้งโรงงานขนาดเล็กไว้ในแหล่งวัตถุดิบ
4.จัดตั้งสถาบันวิจัยทางการเกษตร สถาบันเกษตรกร สมัชชาและสภาการเกษตร
5.เร่งรัดพัฒนาแหล่งน้ำ
6.รื้อฟื้นโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำแม่โขงที่ผามอง
7.แก้ไขภาวะหนี้สินของเกษตรกร
ด้านแรงงานและสวัสดิการสังคม
1.ส่งเสริมสิทธิ เสรีภาพและสวัสดิการแก่ผู้ใช้แรงงาน
2.ส่งเสริมการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพแรงงาน
3.คุ้มครองผู้ใช้แรงงานเด็ก เยาวชน และสตรี
4.จัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบเกี่ยวกับปัญหาแรงงานในต่างประเทศ
5.นำแรงงานที่กลับจากต่างประเทศมาพัฒนาอุตสาหกรรม
ด้านเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน
1.การกระจายทรัพย์สินและรายได้ให้มีความเป็นธรรม
2.ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
3.สนับสนุนการออม
4.ขุดคลองเชื่อมการเดินเรือสมุทรระหว่างทะเลอันดามันและอ่าวไทยเพื่อลดระยะทางขนส่ง
5.ร่วมทุนกับประเทศเพื่อนบ้านในการสร้างท่าเรือน้ำลึก
6.ปรับปรุงระบบภาษีอากร
7.พัฒนาโครงสร้างและบริการพื้นฐานเพื่อจูงใจนักลงทุน
ด้านสังคมและสาธารณสุข
1.รักษาฟรีแก่บุคคลสูงอายุ
2.เกษียณอายุและบุคคลไร้สมรรถภาพ
3.สนับสนุนการวิจัยเพื่อนำมาแก้ปัญหาสาธารณสุข
4.กระจายการบริการด้านสาธารณสุขไปทั่วประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
5.ควบคุมค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนให้เป็นธรรม
ด้านการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
1.จัดการศึกษาให้เหมาะสมกับแต่ละภูมิภาคของประเทศ
2.สนับสนุนการวิจัยในมหาวิทยาลัย
3.เร่งผลิตบุคลากรในด้านวิทยาศาสตร์
4.ส่งเสริมการนำเอาศาสนามาปรับใช้ในการพัฒนาชีวิต
5.ฟื้นฟูวัฒนธรรมที่ดีงามทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น
ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
1.กำหนดแผนการใช้และพิทักษ์ทรัพยากรของชาติ
2.ให้ความรู้ในเรื่องระบบนิเวศน์แก่ประชาชนทุกคน
3.นำเข้าพลังงานหลักจาต่างประเทศและสำรองพลังงานในประเทศ
4.ให้รัฐมีอำนาจจัดการพื้นที่รกร้างว่างเปล่าและพื้นที่ของรัฐที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์โดยการให้สัมปทานปลูกป่าและปรับปรุงสิ่งแวดล้อม
ด้านการพัฒนาท้องถิ่นและชนบท
1.จัดให้มีการวางผังเมืองในเมืองใหญ่
2.กระจายระบบพื้นฐานทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงและเพียงพอ
3.ส่งเสริมให้มีการสร้างงานในชนบท
4.พัฒนาองค์กรชุมชนชนบทให้เข้มแข็งและมีศักยภาพ
ด้านการลงทุนและอุตสาหกรรม
1.ปรับปรุงกลไกรัฐให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ลงทุน
2.ส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก
3.สนับสนุนอุตสาหกรรมเพื่อรองรับผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่
ด้านการต่างประเทศ
1.ส่งเสริมความร่วมมืออันดีกับทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2.สร้างบทบาทในการลดความขัดแย้งระหว่างประเทศ
3.คุ้มครองสิทธิประโยชน์ต่างๆของคนไทยในต่างประเทศ
4.ช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้าน
5.ผลักดันให้คนไทยแสดงบทบาทเป็นผู้นำในเวทีสำคัญของโลก
ด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ
1.พัฒนาโครงสร้างกองทัพให้มีขนาดเล็กแต่มีประสิทธิภาพ
2.สร้างกองทัพให้เป็นทหารอาชีพและมีบทบาทในการพัฒนาประเทศ
3.เปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการทหารเป็นยุทธศาสตร์ทางการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
4.เพิ่มสวัสดิการให้แก่ทหาร
5.ปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของทหาร
6.พัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นใช้เอง