เหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 5 สำหรับบุรุษ

จาก ฐานข้อมูลการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า

ผู้เรียบเรียง พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว


ลักษณะ

เงิน

2.3 X 9.7 เซนติเมตร

ลักษณะโปร่ง มีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ป.ป.ร. อยู่ในขอบวงรีหยิกทแยง 4 แง่ ขอบเพชรสร่งเงิน มีหูสำหรับร้อยแพรแถบข้างบน เป็นแพรแถบสีเหลืองมีริ้วสีเขียว 2 ข้าง กว้าง 3 เซนติเมตร ใช้ประดับอกเสื้อ


ประวัติความเป็นมา

เหรียญรัตนาภรณ์นี้จัดเป็นเหรียญรัตนาภรณ์ชั้นที่ 5 สำหรับบุรุษ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปีแรกที่พระองค์เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. 2469 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงออกแบบ[1]

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญรัตนาภรณ์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2444 เนื่องจากพระองค์ทรงปรารภถึงเจ้านายและข้าราชการซึ่งตามเสด็จประพาสเกาะชวา ต้องได้รับความลำบากตรากตรำและช่วยกันรักษาพยาบาลสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฏางค์เดชาวุธ กรมขุนนครราชสีมา ซึ่งไปประชวรหนักอยู่เป็นเวลานาน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญรัตนาภรณ์ขึ้น เพื่อพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบแก่ผู้ซึ่งได้โดยเสด็จในครั้งนั้น มีทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายใน พร้อมทั้งพระราชทานแก่ผู้อื่นเพื่อเป็นบำเหน็จความชอบและเป็นเครื่องหมายในพระมหากรุณาธิคุณส่วนพระองค์ [2]

หลังจากนั้นใน พ.ศ. 2447 ก็ได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ 4 ขึ้น เนื่องในงานพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 100 ปี สำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้เคยรับราชการมาในสมัยรัชกาลที่ 4 หรือผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ ต่อมาได้มีการสร้างเหรียญรัตนาภรณ์นี้ขึ้นทุกรัชกาล สำหรับพระราชทานเป็นส่วนพระองค์ เป็นเครื่องหมายในพระมหากรุณาธิคุณเป็นพิเศษ แล้วแต่จะทรงมีพระราชดำริเห็นสมควร เหรียญรัตนาภรณ์แบ่งออกเป็น 5 ชั้น และผู้ได้รับพระราชทานไม่ว่าชั้นใดๆ มีสิทธิใช้อักษรย่อของเหรียญชั้นนั้นต่อท้ายนามของตนได้

การประดับสำหรับบุรุษมีห่วงร้อยแพรแถบประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย สตรีใช้ห้อยกับแพรแถบ ผูกเป็นแมลงปอประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย ผู้ที่ได้รับพระราชทานจะได้รับประกาศนียบัตรทรงลงพระปรมาภิไธยและประทับพระราชลัญจกรประจำพระองค์เป็นสำคัญกำกับไว้ด้วย และพระราชทานเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับ เมื่อผู้รับพระราชทานถึงแก่กรรมก็ให้ตกทอดถึงทายาท เพื่อรักษาไว้เป็นที่ระลึกในวงศ์ตระกูลสืบต่อไป ในกรณีที่ผู้รับพระราชทานได้เลื่อนขั้นสูงขึ้น จะต้องส่งชั้นรองคืน[3]

อ้างอิง

  1. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ , ร. 7 ร.ล. 15/2 เหรียญรัตนาภรณ์.
  2. สุนทร เหรียญแก้ว, เหรียญกษาปณ์, สมาคมเหรียญกษาปณ์แห่งประเทศไทย.
  3. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี , เครื่องราชอิสริยาภรณ์, (กรุงเทพฯ : ศิริมิตรการพิมพ์, 2523). หน้า 146.