เนตร เขมะโยธิน
เนตร เขมะโยธินกับกบฏเสนาธิการ
ผู้เรียบเรียง : ศาสตราจารย์พิเศษ นรนิติ เศรษฐบุตร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ : รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต
หลังการรัฐประหารในเดือนพฤศจิกายน ปี 2490 รัฐบาลเฉพาะกาลของนายควง อภัยวงศ์ จัดการเลือกตั้ง และ นายควง ได้รับการสนับสนุนจากสภาผู้แทนฯ ให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลต่อไป ต่อมาคณะรัฐประหารส่งนายทหารระดับนายพันเอก จำนวน 4 คน ไปยื่นคำขาดบังคับให้นายกรัฐมนตรี ควง อภัยวงศ์ ลาออกจากตำแหน่ง อันเป็นการเปิดทางให้จอมพล ป.พิบูลสงคราม กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง บ้านเมืองโดยทั่วไปก็ดูจะเรียบร้อยไปได้ระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านมาได้ประมาณ 6 เดือนเศษก็มีนายทหารบกกลุ่มหนึ่งได้วางแผนที่จะเข้ายึดอำนาจล้มรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามและคณะรัฐประหาร แต่แผนรั่วเสียก่อนทางรัฐบาลจึงส่งกำลังเข้าจับกุมนายทหารผู้ได้รับมอบหมายให้นำกำลังเข้าจู่โจม ล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนวันยึดอำนาจ กบฏครั้งนั้นเกิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2491 เรียกกันว่า “กบฏเสนาธิการ” เพราะมีนายทหารระดับเสนาธิการเข้าร่วมหลายนาย ในจำนวนนายทหารที่มีชื่อเข้าร่วมงานยึดอำนาจครั้งนั้นมีหลายคน ยกมาให้ดูเพียงส่วนหนึ่งดังนี้
“ พลตรี สมบูรณ์ ศรานุชิต พลตรี เนตร เขมะโยธิน พ.อ.กิตติ ทัตตานนท์ พ.อ.สมบูรณ์ สุนทรเขต และ พ.ต.สามารถ วายะวานนท์ ”
ในจำนวนนี้ พล.ต.เนตร เขมะโยธิน ดูจะมีบทบาทในวงการเมืองต่อมาด้วย หลังพ้นพงหนามในคดีกบฏดังกล่าวแล้ว ยิ่งกว่านั้นก่อนหน้านี้ในสมัยสงคราม พลตรี เนตร เขมะโยธิน เคยทำงานใต้ดินเป็นเสรีไทย ดังที่เคยเขียนหนังสือชื่อ “ งานใต้ดินของพันเอกโยธี ” และ “ พันเอกโยธี ” ก็คือนามสงครามของท่านนั่นเอง
เนตร เขมะโยธิน เกิดวันที่ 31 พฤษภาคม ปี 2452 เป็นบุตรนายพันเอก พระยารามจตุรงค์ มีมารดาชื่อ ริ้ว เนื่องจากบิดารับราชการเป็นนายทหารระดับผู้บังคับการกรมอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ท่านจึงได้รับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา “จนอายุ '7 ขวบ จึงเข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหารบก เป็นเวลา 11 ปี” (จากชั้นประถมถึงจบหลักสูตร) ตามประวัติกล่าวว่าท่านมีอายุน้อยที่สุดในเพื่อนรุ่นเดียวกัน เนตร เขมะโยธิน เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยใน ปี 2470 เข้ารับราชการเป็นนายทหาร และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดินในปี 2475 ไม่ปรากฏชื่อท่านเข้าร่วม แต่ในปี 2476 ขณะที่ท่านมียศเป็นนายร้อยโท ได้เกิดเหตุการณ์กบฏบวรเดชขึ้น ท่านเป็นทหารของฝ่ายรัฐบาลอยู่ในกองบังคับการกองผสมที่มีนายพันโทหลวงพิบูลสงครามเป็นผู้บังคับการปราบกบฏได้สำเร็จ ในปีถัดมา เนตรได้เลื่อนยศเป็นนายร้อยเอก และได้เข้าเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เรียนเก่งสอบได้ที่ 1 ในชั้น จึงถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนเสนาธิการ ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้เรียนอยู่เป็นเวลา 5 ปี แล้วเดินทางกลับไทย กลับมาเมืองไทยไม่นานสมัยนั้นมีนายพันเอกหลวงพิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ไทยกับฝรั่งเศสมีปัญหาความขัดแย้ง จนนำไปสู่การสู้รบระหว่างไทยกับฝรั่งเศสที่เรียกกันว่าสงครามอินโดจีน ในตอนต้นปี 2484 เนตร เขมะโยธิน มียศเป็นนายพันตรี ตำแหน่งรองเสนาธิการกองทัพบูรพา ที่มีนายพันเอก หลวงพรหมโยธี เป็นผู้บัญชาการ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2489 ในสมัยที่นาย ปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญฉบับนี้ห้ามข้าราชการประจำทั้งทหารและพลเรือนดำรงตำแหน่งทางการเมืองในเวลาเดียวกัน เนตร เขมะโยธิน เป็นนายทหารที่มีความคิดเสรีนิยมจึงเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ดังนั้นเมื่อคณะทหารที่นำโดยพลโท ผิน ชุณหะวัณ และพันเอก เผ่า ศรียานนท์ กับพันเอก สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการยึดอำนาจล้มรัฐบาลหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2490 ท่านจึงไม่เห็นด้วย และเมื่อรัฐบาลพลเรือนของ นายควง อภัยวงศ์ ที่เป็นรัฐบาลต่อมาหลังการเลือกตั้ง ถูกนายทหาร 4 คนจากคณะรัฐประหารไปจี้บีบบังคับให้นายกรัฐมนตรีลาออก ก็ยิ่งทำให้นายทหารในกองทัพบกเองที่ไม่เห็นด้วยกับการที่คณะรัฐประหารเข้าไปแทรกแซงในการเมือง ได้จับกลุ่มรวมตัวกันคิดยึดอำนาจ โดยมีแผนคุมตัวนายทหารคนสำคัญของรัฐบาล คือทหารกลุ่มหนึ่งจะจู่โจมเข้าจับตัวนายกฯหลวงพิบูลสงคราม และพลตรี สฤษดิ์ ในคืนวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2491 ที่ไปร่วมงานฉลองมงคลสมรส ของพลตรี สฤษดิ์ เองกับนางสาว วิจิตรา ชลทรัพย์ แผนยึดอำนาจครั้งนั้นรั่ว ทหารฝ่ายรัฐบาลตัดหน้าเข้าจับตัวผู้ก่อการส่วนหนึ่งที่รวมตัวกันอยู่ที่กระทรวงกลาโหมตั้งแต่คืนวันที่ 30 กันยายน พลตรี เนตร หลบหนีไปได้ 5 วัน จึงถูกจับตัวได้ ผู้ต้องหาที่มีทั้งทหาร และพลเรือนจำนวน 22 คน ถูกฟ้องคดีต่อศาล พลตรี เนตร เป็นหนึ่งในเก้าคนที่ถูกพิพากษาลงโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี
พ้นโทษออกมาแล้วท่านจึงได้มาทำงานให้เพื่อนนักเรียนทหารร่วมรุ่น ที่ท่านเคยคิดจะล้มอำนาจ คือจอมพล สฤษดิ์ ที่เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์สารเสรี ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2497 เนตรเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ ดังนั้นต่อมาเมื่อจอมพล สฤษดิ์ ยึดอำนาจล้มจอมพล ป. และมอบให้พลโท ถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี เนตร เขมะโยธิน จึงได้เป็นรัฐมนตรีลอยในรัฐบาลนั้นเป็นครั้งแรก และในช่วงเวลาไม่ถึง 10 เดือนของรัฐบาล เนตรได้เปลี่ยนย้ายกระทรวงทุกครั้งที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี ครั้งแรกในวันที่ 8 เมษายน ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 2 ในวันที่ 7 สิงหาคม ย้ายไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยู่สืบมาจนนายกฯพลโท ถนอม ลาออกในวันที่ 20 ตุลาคม ปี 2501 ครั้นจอมพล สฤษดิ์ ยึดอำนาจซ้ำ และเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีเอง พลตรี เนตร ซึ่งได้ยศทางทหารกลับคืนมา จึงได้มาทำงานใกล้ชิดด้วยเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในปี 2502 อยู่จนจอมพล สฤษดิ์ ถึงอสัญกรรมในปี 2506 และเป็นคนหนึ่งในคณะกรรมการร่างสุนทรพจน์ของนายกฯ ครั้นจอมพล ถนอม ขึ้นมาเป็นนายกฯ พลตรี เนตร ก็ย้ายมาเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จนถึงเดือนกันยายนปี 2512 หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับเข้าไปในวงการเมืองอีก
พลเอก เนตร เขมะโยธิน ได้มีชีวิตต่อมา จนถึงแก่อนิจกรรมในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 2528