สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ
หน้าที่ของสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
พระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2543 ตามมาตรา 27 กำหนดให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ[1] มีหน้าที่ดังนี้
(1) สำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์เรื่องที่จะต้องเสนอให้สภาที่ปรึกษาฯ พิจารณา
(2) รับผิดชอบในงานธุรการของสภาที่ปรึกษาฯ
(3) จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลงานและอุปสรรคในการดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาฯ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
(4) เป็นหน่วยงานทางวิชาการให้แก่สภาที่ปรึกษาฯ
(5) ดำเนินการต่างๆ ในการเลือกสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ
(6) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่สภาที่ปรึกษาฯ มอบหมาย
สถานะของสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในระยะเริ่มแรก สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีการบริหารงานอยู่ภายในโครงสร้างของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต่อมาพระราชบัญญัติสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 กำหนดให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ เป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นกรม ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี โดยในการปฏิบัติราชการและบริหารจัดการสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ นั้น ให้ได้รับงบประมาณและทรัพยากรต่างๆ อย่างพอเพียง มีความยืดหยุ่นคล่องตัว สอดคล้องกับแนวคิดการปฏิรูประบบราชการใหม่และให้สามารถออกระเบียบปฏิบัติราชการเป็นของหน่วยงานได้ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศกำหนด ทั้งนี้ โดยมีเลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ เป็นผู้ควบคุมดูแลโดยทั่วไป ซึ่งกิจการของสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ภายใต้การกำกับดูแลของประธานสภาที่ปรึกษาฯ ตามที่กฎหมายกำหนด[2]

ต่อมารัฐธรรมนูญฯ 2550 ได้บัญญัติให้มีสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไว้ในมาตรา 258 หมวดว่าด้วย “องค์กรตามรัฐธรรมนูญ” ทำให้สถานะของสภาที่ปรึกษาฯ เปลี่ยนแปลงไปจากสถานะตามที่รัฐธรรมนูญฯ 2540 กำหนด นอกจากนั้น มาตรา 258 วรรคสี่ ได้บัญญัติ “ให้มีสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นหน่วยงานอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่น ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ” สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ จึงไม่เป็นหน่วยงานของรัฐในกำกับของฝ่ายบริหาร[3]
ดังนั้น จึงต้องมีกฎหมายบัญญัติให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ จะเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายบัญญัติ ดังนั้น สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ จึงยังคงดำเนินการตามพระราชบัญญัติสภาที่ปรึกษาฯ พ.ศ. 2543 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 จนกว่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่ที่บัญญัติเกี่ยวกับการเป็นหน่วยงานอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณ และการดำเนินการอื่นของสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ต่อไป

โครงสร้างและการบริหารงานของสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
การจัดโครงสร้างสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2549 แบ่งส่วนราชการสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ออกเป็น 4 สำนัก ได้แก่ สำนักบริหารกลาง สำนักกิจการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักวิชาการ และสำนักส่งเสริมและประสานการมีส่วนร่วมองค์กรเครือข่าย กับ 1 หน่วย คือ หน่วยตรวจสอบภายใน[4] นอกจากนั้น สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ยังได้แบ่งส่วนราชการ (ภายใน) เพิ่มอีก 1 สำนัก คือ สำนักประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ
การแบ่งกลุ่มงานหรือกระบวนงานหลัก (Core Business Processes)
จากมาตรา 27 และภารกิจของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดังกล่าวข้างต้น สรุปบทบาทและหน้าที่ของสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่จะต้องให้การสนับสนุนต่อสภาที่ปรึกษาฯ โดยการแบ่งกลุ่มงานหรือกระบวนงานหลัก (Core Business Processes) ของสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ แบ่งออกเป็น 4 บทบาท คือ
(1) เป็นหน่วยงานเลขานุการ ทำหน้าที่บริหารและอำนวยการประชุม ในฐานะเป็นเลขานุการการประชุมสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขานุการคณะทำงานประจำและคณะทำงานเฉพาะ ตลอดจนดำเนินการต่างๆ ในการเลือกสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ หรืองานสรรหาสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ และงานบริหารงานบุคคลสมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ จะต้องมีการดำเนินการทุกๆ 3 ปี ชุดเก่าหมดวาระ ก็จะสรรหาชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งจะต้องมีกระบวนการขั้นตอนตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย
(2) เป็นหน่วยงานวิชาการ ทำหน้าที่หน่วยงานทางวิชาการให้แก่สภาที่ปรึกษาฯ รวมทั้งคณะทำงานประจำและคณะทำงานเฉพาะกิจ นอกจากนั้น ยังมีหน้าที่จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลงานและอุปสรรคในการดำเนินงานของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา โดยสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ มีหน้าที่สำคัญในการสำรวจ ศึกษา และวิเคราะห์เรื่องที่จะต้องเสนอให้สภาที่ปรึกษาฯ พิจารณาว่า ประเด็นใดบ้างที่จะให้คำปรึกษาและให้ข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีและในทุกปีจะต้องจัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลงานและอุปสรรคในการดำเนินงาน ทั้งนี้ จะต้องดำเนินการติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องที่ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะ รวมทั้งประเมินผลงาน เพื่อรายงานผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน
การเป็นหน่วยงานทางวิชาการให้แก่สภาที่ปรึกษาฯ นั้น ถือเป็นงานวิชาการที่กว้างมาก เนื่องจากภารกิจในการให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตินั้นครอบคลุมทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคม และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งปัญหาทั้ง 3 ด้านดังกล่าวนั้น เป็นปัญหาที่มีความเกี่ยวพันและมีผลกระทบต่อกลไกหรือกระบวนการอื่นๆ ของประเทศด้วย
(3) เป็นหน่วยงานเชื่อมโยง ด้วยเหตุที่สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีฐานที่มาจากภาคประชาชน ดังนั้น สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ จึงต้องมีบทบาทสำคัญในการสรรหาสมาชิกโดยจะต้องดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนอย่างแท้จริง ด้วยเหตุดังกล่าว สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ทำหน้าที่เชื่อมโยงเครือข่ายภาคประชาชน เชื่อมโยงกับประชาชนโดยตรง และเชื่อมโยงสารสนเทศ เพื่อสื่อสารกับเครือข่ายภาคประชาชนและทำการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การดำเนินการขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
(4) เป็นหน่วยงานธุรการ รับผิดชอบในงานธุรการขององค์กรสภาที่ปรึกษาฯ ประกอบด้วยงานอำนวยการทั่วไป ได้แก่ งานบริหารทั่วไป งานบริหารบุคคล งานบริหารการเงินและพัสดุ งานประชาสัมพันธ์ และงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะต้องอำนวยการให้การสนับสนุนต่อสภาที่ปรึกษาฯ และสำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ
จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่า สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ จะต้องสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดังนั้น การมอบหมายให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ดำเนินการใดๆ จะต้องเป็นมติของสภาที่ปรึกษาฯ มิใช่สมาชิกคนหนึ่งคนใดจะมอบหมายหน้าที่ให้สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ได้ หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การมอบหมายต้องกระทำในนามของสภาที่ปรึกษาฯ หรือคณะทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม บทบัญญัติมาตรา 27 วรรค 2 ได้บัญญัติ “ให้มีเลขาธิการสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้ควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของสำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติภายใต้การกำกับดูแลของประธานสภา” ดังนั้น เลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ จึงเป็นผู้ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการสำนักงาน สภาที่ปรึกษาฯ และบังคับบัญชาบุคลากรของสำนักงานตามกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ โดยมีประธานสภาที่ปรึกษาฯ เป็น “ผู้กำกับดูแล”
ดูเพิ่มเติม
http://nesac.goco.co.th/home.php, ธันวาคม 2553.
www.nesac.go.th/office/, ธันวาคม 2553.
www.nesac.go.th/nesac2010/download/Book%20Sapa10year.pdf, ธันวาคม 2553.
พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548.
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. 1 ทศวรรษ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. กรุงเทพฯ : บริษัท ที.เค. พริ้นติ้ง จำกัด, 2553.
รายงานประจำปี 2552 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.