สมาคมระหว่างประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันในลักษณะเดียวกัน
ผู้เรียบเรียง วัชรา ไชยสาร
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ พรรณราย ขันธกิจ
สมาคมระหว่างประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคม (คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม) และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (IAESCSI) ซึ่งบางครั้งใช้ชื่อย่อว่า “AICESIS” เป็นสมาคมระหว่างประเทศตามกฎหมายดัตช์ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1999 สำนักงานใหญ่ของ IAESCSI อยู่ที่สภาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเนเธอร์แลนด์ (SER) สำหรับสำนักเลขาธิการทั่วไปอยู่ในสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Conseil Economique et Social : CES) กรุงปารีส [1]
ความเป็นมา
ปัจจุบันสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมซึ่งมิใช่สภาการเมือง แต่เป็นสภาสังคม-วิชาชีพที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลก็เป็นที่แพร่หลายพอสมควร และอาจได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีสภาที่ปรึกษาฯ หรือสถาบันในลักษณะเดียวกัน หรือองค์กรที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกันนี้ประมาณ 70 ประเทศ
ในปี ค.ศ. 1997 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม สาธารณรัฐฝรั่งเศส และองค์กรที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมของอีกหลายประเทศ ได้ตัดสินใจจัดตั้งสมาคมระหว่างประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันในลักษณะเดียวกัน (IAESCSI ) มีสมาชิกถาวรร่วมก่อตั้งจำนวน 24 ประเทศ และสมาชิกสมทบจากอีก 3 ประเทศ จากนั้น IAESCSI ก็ได้มีการจัดประชุมระดับนานาชาติร่วมกันอย่างต่อเนื่อง มีการประชุมกันทุกปี และทุกสองปีมีการประชุมใหญ่ที่เชิญสภาที่ปรึกษาฯ ทั้งที่เป็นและไม่เป็นสมาชิกเข้าร่วมประชุม
ความแตกต่างขององค์กรที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันในลักษณะเดียวกัน
(1) สภาที่ปรึกษาฯ ที่ประกอบด้วยสมาชิกแบบไตรภาคี สภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้จะประกอบด้วยตัวแทนขององค์กรสามฝ่ายด้วยกัน คือ ฝ่ายรัฐ ฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายลูกจ้าง ระบบ สภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้ มีประมาณ 15 ประเทศ เช่น ประเทศเกาหลี หรือประเทศทางยุโรปตะวันออกที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกของประชาคมยุโรป เช่น ลิทูเนีย เป็นต้น
(2) สภาที่ปรึกษาฯ ที่ประกอบด้วยตัวแทนจากองค์กรหลายองค์กรด้วยกัน ไม่ใช่จำกัดเพียงแต่ฝ่ายรัฐ ฝ่ายนายจ้าง หรือฝ่ายลูกจ้างแต่อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงองค์กรอื่นทางสังคมที่เข้ามามีบทบาทในสภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้ด้วย เช่น มีตัวแทนจากสมาคมต่างๆ หรือตัวแทนภาควิชาการที่มาจากแวดวงมหาวิทยาลัย เป็นต้น สภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้เรียกได้ว่า เป็นสภาที่ปรึกษาฯ ตามแบบของสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยรวมแล้วมีประมาณ 25 ประเทศ เช่น สาธารณรัฐฝรั่งเศส รัสเซีย หรือประเทศในเขตทวีปแอฟริกา รวมทั้งประเทศไทยด้วย เป็นต้น
(3) สภาที่ปรึกษาฯ ที่มีลักษณะทางองค์กรแบบเฉพาะ เนื่องจากหน้าที่ของสภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นองค์กรที่ให้คำปรึกษากับฝ่ายบริหารแล้ว ยังทำหน้าที่ควบคุมไกล่เกลี่ย (mission de mediation) ข้อพิพาทหรือปัญหาด้วย ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่อีกอย่างหนึ่งในฐานะที่เป็นองค์กรของฝ่ายบริหาร สภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้ มีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในกรณีที่ภาครัฐเข้ามามีบทบาทมากจนเกินไป เนื่องจากถือว่าเป็นเพียงเครื่องมือของฝ่ายบริหาร ยกตัวอย่างเช่น กรณีสภาที่ปรึกษาฯ ของประเทศตุรกี ซึ่งนับตั้งแต่ได้รับการก่อตั้งขึ้นมา ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา มีการประชุมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น (พฤษภาคม 2548) สภาที่ปรึกษาฯ ของตุรกีดังกล่าวมีสมาชิกส่วนใหญ่มาจากฝ่ายบริหาร โดยมีจำนวนถึง 12 คน จากสมาชิกทั้งหมด 15 คน สภาที่ปรึกษาฯ ประเภทนี้ มีโดยประมาณ 10 กว่าประเทศด้วยกัน ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม และประเทศโปแลนด์ เป็นต้น
ลักษณะร่วมขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันในลักษณะเดียวกัน
ความเป็นอิสรภาพในการที่จะคิด ในการพิจารณาประเด็นปัญหาในเรื่องต่างๆ ทั้งนี้ ไม่ว่าสภาที่ปรึกษาฯ นั้นๆ จะมีความสัมพันธ์กับฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลในลักษณะใดก็ตาม นอกจากนี้ สภาที่ปรึกษาฯ ยังเป็นแหล่งของการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ของบุคคลหลายๆ ฝ่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการนำเสนอแนวทางในเรื่องต่างๆ
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสมาคมระหว่างประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันในลักษณะเดียวกัน (IAESCSI) มี 2 ประการสำคัญ ๆ ดังนี้
(1) IAESCSI จะช่วยผลักดันให้มีการพบปะหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระหว่างประเทศสมาชิกของสมาคม และในระดับกว้างขวางก็จะให้การสนับสนุนการพบปะหารือแลกเปลี่ยนกับพันธมิตรทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของโลก โดยยังคงไว้ความเป็นปัจเจกของแต่ละประเทศสมาชิก
(2) IAESCSI จะสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง ESCs (องค์กรที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันที่มีลักษณะเดียวกัน) ในประเทศที่ยังไม่มี IAESCSI จะให้การสนับสนุนโดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานและการจัดการประชุมร่วม เพื่อให้เกิดพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและเกิดความรุ่งเรืองกับประชาชน ภายใต้ความเสมอภาค (mutual respect) และสันติภาพ ภายใต้ความเป็นประชาธิปไตยของประชาสังคม (democratic civil societies) ตามหลักการของสหประชาชาติและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้ IAESCSI ยังมีส่วนช่วยให้สภาที่ปรึกษาฯ ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้ โดยจะทำหน้าที่ในการช่วยเหลือให้สภาที่ปรึกษาฯ นั้นๆ ดำเนินการในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นการป้องกันมิให้มีการยุบ หรือยกเลิก สภาที่ปรึกษาฯ ในประเทศต่างๆ ไปโดยฝ่ายบริหาร เช่น กรณีของประเทศในเขตทวีปแอฟริกา เป็นต้น
การบริหารของ IAESCSI
องค์กรบริหารของสมาคมระหว่างประเทศของสภาเศรษฐกิจและสังคมและสถาบันในลักษณะเดียวกัน (IAESCSI) ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหาร ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจในการดำเนินงานต่างๆ ของ IAESCSI โดยมีประธาน IAESCSI เป็นผู้ทำหน้าที่ในการดำเนินงาน และในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของ IAESCSI นั้นจะต้องกระทำร่วมกันและอย่างพร้อมเพรียงกัน
ปัจจุบัน (2010) ประธาน IAESCSI คือ Mr. Antonio MARZANO ซึ่งเป็นประธานสภาเศรษฐกิจและแรงงานแห่งชาติ ประเทศอิตาลี (National Council for Economics and Labour: CNEL)และ Mr. Patrick VENTURINI อดีต Secretary-general of the European Economic and Social Committee (EESC, Brussels, Belgium) เป็นเลขาธิการ[2]
สำหรับการเข้าไปเป็นสมาชิกของคณะกรรมการบริหารนั้น เป็นไปตามสัดส่วนของประเทศ ที่เป็นสมาชิก โดยปัจจุบันมีสมาชิกของคณะกรรมการบริหารของ IAESCSI ทั้งสิ้น 15 คน โดยเป็นผู้แทนจากประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชีย ยุโรป และละตินอเมริกา
การประชุมใหญ่ของคณะกรรมการบริหาร IAESCSI
การประชุมใหญ่ของ IAESCSI ในปี 2007 จัดที่ประเทศสาธารรัฐประชาชนจีน ในปี 2009 จัดที่ประเทศบราซิล และสำหรับการประชุมใหญ่ ในปี 2011 จะจัดที่ประเทศอิตาลี สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในเวที IAESCSI

บทบาทของ IAESCSI ที่มีต่อสังคมในปัจจุบัน
IAESCSI พัฒนาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน (2010) มีสมาชิกสมามัญจาก 4 ทวีป (แอฟริกา เอเชีย ยุโรป และละตินอเมริกา) รวมจำนวน 56 ประเทศ (และประเทศสมาชิกผู้สมัครอีก 8 ประเทศ) โดยอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกของ IAESCSI ได้ขอปรับจากเดิม สมาชิกสามัญราคา 1,500 ยูโร เป็น 6,000 ยูโร[3] สำหรับประเทศไทยได้รับการยอมรับเป็นสมาชิกสามัญ เมื่อปี พ.ศ. 2549
ในปัจจุบันนี้นโยบายทางเศรษฐกิจหรือสังคมของภาครัฐ ไม่สามารถที่จะดำเนินการไปได้แต่ฝ่ายเดียว ภาครัฐจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนด้วย ซึ่งนับได้ว่าเป็นผลอย่างหนึ่งของกระแสโลกาภิวัตน์ ตัวอย่างเช่น การชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในระหว่างการประชุมขององค์การค้าระหว่างประเทศ หรือ WTO ที่ ซีแอสเทิล สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
จากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัจจัยทางสังคมที่มีต่อการกำหนดนโยบาย ซึ่งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม เป็นองค์กรที่สามารถที่จะเข้ามาเกื้อกูลในการกำหนดนโยบาย โดยในระดับระหว่างประเทศนั้น จะพบว่า สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมขององค์การสหประชาชาติ (Ecosoc) ก็มีหน้าที่ในส่วนนี้อยู่ ทั้งนี้ IAESCSI ก็พยายามที่จะเข้าไปมีบทบาทในองค์การสหประชาชาติโดยผ่านทาง Ecosoc [4]
อ้างอิง
- ↑ http://www.aicesis.org/spip.php?page=index&lang=en, กันยายน 2553.
- ↑ www.aicesis.org/.../doc_090716_releve_des_decisions_BUDAPEST_final_EN.doc, กันยายน 2553.
- ↑ http://www.nesac.go.th/nesac/upload/newsother/htmlfiles/688-4894.html, สิงหาคม 2553.
- ↑ รายงานการปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน ณ ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และประเทศเบลเยี่ยม ระหว่างวันที่ 11 - 20 พฤษภาคม 2549.
ที่มา
พรรณราย ขันธกิจ. บทบาทและหน้าที่ขององค์กรสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า, 2548.
วัชรา ไชยสาร. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคม ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสมาคมที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และสังคม และสถาบันในลักษณะเดียวกัน (AICESIS) พร้อมด้วยองค์กรสภาที่ปรึกษา ในประเทศ เบลเยี่ยม. วารสารสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม – กันยายน 2549.
สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. รายงานการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านวิเทศสัมพันธ์และศึกษาดูงาน ณ สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 11-20 พฤษภาคม 2549.
ดูเพิ่มเติม
http://www.nesac.go.th/document/show11.php?did=07080001
http://www.nesac.go.th/nesac/upload/newsother/htmlfiles/688-4894.html